เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ระบุว่า  ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ในที่สุดเราก็เดินมาถึงครึ่งทาง

-ผมต้องขอบคุณน้องๆ คปท. (เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย )และน้องๆกลุ่ม ศปปส.(ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน) รวมทั้ง กองทัพธรรม นำโดยหมอเขียว (ใจเพชร กล้าจน) ที่เคยเปิดเวทีที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ เปิดเวทีอยู่หลายเดือน ผมก็ขึ้นจากพัทลุงไปปราศรัยอยู่หลายครั้ง แต่ประชาชนเข้าร่วมน้อย จนตำรวจสน.นางเลิ้ง ขออำนาจศาลให้ยุติการชุมนุม จึงต้องยุติการชุมนุมไป                     

-น้องๆจึงเปลี่ยนเป็นไปติดตามเรื่องนี้ที่ ป.ป.ช.ทุกเดือน ผมก็ได้ร่วมกับน้องๆ ไปที่ป.ป.ช.ทุกเดือน จนเดือนสุดท้ายผมไม่ไป ผมบอกน้องๆว่า “ผมอายป.ป.ช.แล้ว” 

-จนคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2567 เราจึงนัดบุคคลที่มีความเห็นตรงกัน มาพูดคุยในปัญหาบ้านเมือง รวมทั้งคุยกันเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ และมีความเห็นว่า วันที่ 18 ธค.2567 เวลา 11.00 น. เราจะยกทีมชุดใหญ่ไปที่ป.ป.ช.อีกครั้งหนึ่ง เพื่อติดตามเรื่องนี้

-เมื่อวาน(16 ธค.2567) ตอนเย็น เลขาธิการ ป.ป.ช.แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติให้รับเรื่องนี้ไว้ไต่สวนแล้ว โดยให้ไต่สวนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ แพทย์รพ.ตำรวจ รวมทั้งข้าราชการที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น รวม 12 คน 

-ผมเคยปราศรัยที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ว่า แพทย์คนหนึ่ง ของรพ.ตำรวจที่รักษาคุณทักษิณ  เคยเป็นลูกความผม ผมเคยว่าความให้ชนะคดีในศาลฎีกา แต่ครั้งนี้ เราอยู่คนละข้างกัน ผมเคยเตือนว่า ตอนที่ผมว่าความให้คุณหมอ เพราะคุณหมอต้องการความยุติธรรม คุณหมอจึงควรจะรู้ว่า“ความอยุติธรรมมันเลวร้ายขนาดไหน”  แต่ครั้งนี้หมอกลับไม่รักษาความยุติธรรมซึ่งผมก็น้อยใจเหมือนกัน       

--ขอบคุณน้องๆ คปท.และ ศปปส. รวมทั้งกลุ่มพี่น้องจากกองทัพธรรม ชุมนุมกันอย่างเข้มแข็ง แม้ผมร่วมชุมนุมด้วย แต่ใจผมก็ไม่ใหญ่เท่าน้องๆที่เอ่ยนามมา                       

-เมื่อป.ป.ช.รับไต่สวนเรื่องนี้แล้ว ผมก็จะไม่แสดงความเห็นอะไรมาก เพียงแต่คาดว่า ตรุษจีนปีหน้าหรือสงกรานต์ปีหน้า คุณยิ่งลักษณ์คงต้องเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยออกไป 

-อยากให้ทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ทราบว่า ทุกคนที่ทำเรื่องนี้“เหนื่อยครับ ” บางครั้งผมเองก็แอบน้อยใจว่า เราทำไปเพื่ออะไร(วะ)?

#ผมมีคำตอบให้หัวใจตัวเองว่า ทำเพื่อรักษาหลักการของบ้านเมือง