วันที่ 17 ธ.ค. 2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีศาลเมียนมาสั่งดำเนินคดี 4 ลูกเรือประมงชาวไทย และจะมีการปล่อยตัวหลังปีใหม่ว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า และ ครอบครัวของคนที่รออยู่คงจะตั้งคำถามว่า รัฐบาลไทยทำอะไรกับเรื่องนี้ ซึ่งจากข้อมูลที่พูดคุยกับหน่วยงาน ตามกลไกของกรรมาธิการความมั่นคงฯ ก็รับทราบว่า มีหน่วยงานเข้าไปเยี่ยมลูกเรือชาวไทย ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนไม่ได้ติดใจ แต่สิ่งที่อยากได้ความชัดเจนคือ ตกลงแล้วลูกเรือชาวไทยจะได้กลับ ประเทศไทยเมื่อไหร่ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับข้อมูลตรงนี้ และยังไม่ได้รับข้อมูล แม้แต่วีธีการพูดคุยเจรจาหาทางออก และแน่นอนว่าสุดท้ายความชัดเจนที่บอกว่า หลังปีใหม่จะคือเมื่อไหร่ อีกเรื่องที่ยังไม่เห็นคือ การใช้ความรุนแรงของกองทัพเรือเมียนมาต่อเรือประมง ที่ตนมองว่า เกินความเหมาะสม ความจำเป็นไปมาก แล้วตกลงไทยจะไม่มีท่าทีอะไรเลยหรือไม่ เชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนไทยอยากเห็น แต่ตนไม่ได้หมายความว่า วันพรุ่งนี้ไทยจะต้องส่ง กองทัพไปยิงคืน แต่มีวิธีการแสดงท่าทีหลายอย่างที่สามารถจะยกระดับแสดงให้เห็นว่า ไทยนั้นไม่พอใจ
"อย่างการเชิญฑูตเมียนมา และอ่านเป็นบันทึกให้เขาฟัง ซึ่งระดับของมันคือ การแสดงความกังวล มันน้อยมาก มันควรจะแสดงท่าทีที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประท้วง ที่อาจจะต้องมีการแสดงท่าทีออกมา แต่ก็ไม่เห็นจากรัฐบาล เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลของเรา ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากๆว่า รัฐบาลนี้อ่อนแอ แล้วไม่สามารถสร้างความรู้สึกให้กับพี่น้องชาวไทย ได้รับรู้รับทราบว่า เขาจะปลอดภัย"นายรังสิมันต์ กล่าว
นานรังสิมันต์ กล่าวว่า น่านน้ำมันไม่มีหลักหมุดที่ชัดเจน และบางครั้งเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งปลาที่ว่ายอยู่ก็ไม่ได้สนใจว่า อยู่ในเขตประเทศไหน ส่วนเรือประมงก็พยายามจับปลา เพราะฉะนั้นก็มีโอกาสที่จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน สิ่งเหล่านี้รัฐบาลจะต้องทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยต่อประชาชน ในการที่จะทำมาหากินต่อไป สิ่งนี้ก็คงเป็นเครื่องหมายคำถามต่อรัฐบาลไทยต่อไปว่า รัฐบาลจะเอาอย่างไร แล้วตกลงว่า เรื่องของคนไทย 4 คน ทำได้แค่นี้ใช่หรือไม่
เมื่อถามว่ารัฐบาลชี้แจงว่า เป็นวีธีการทางการทูต นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วิธีการทางการทูตไม่จำเป็นต้องทำแค่นี้ แล้วตนคิดว่า รัฐบาลไทยนั้นทำได้มากกว่านี้ และทำให้คนไทยรู้สึกว่า ปลอดภัยกว่านี้ โดยเฉพาะความเสียหายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้ที่ถูกยิงแฉลบศีรษะใครรับผิดชอบ รวมทั้งมาตรการการช่วยเหลือ จะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องการความชัดเจนมากกว่านี้
เมื่อถามว่า การดำเนินคดีกับลูกเรือประมง เป็นเป็นขั้นตอนปกติ แต่สามารถขออภัยโทษได้ทีหลัง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การตัดสินให้ใครมีความผิดนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งเรื่องการต่อสู้คดีนั้นเป็นไปอย่างเต็มที่หรือไม่ และเป็นการต่อสู้ที่อยู่บนพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรมจริงๆ รวมทั้งทางการไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางทนายความมากแค่ไหน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งตอนที่กรรมาธิการความมั่นคงฯ ถามหน่วยงานราชการ และกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้พูดถึงการให้ความช่วยเหลือทางด้านทนายความ และทางคดีเลย สะท้อนเห็นว่าไม่มีความชัดเจนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
"สิ่งที่ผมกำลังตั้งคำถามคือ รัฐบาลจะมอบความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ที่เขาทำมาหากิน เขาทำมาหากิน เขามีรายได้ และเขาก็เสียภาษี ตกลงแล้วรัฐบาลไม่ต้องทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชนเลยใช่ไหม นี่คือคำถามที่ประชาชนเขาอยากจะรู้ เราใช้เงินงบประมาณหลายส่วนไปกับเรื่องความมั่นคง วันนี้ประชาชนกำลังทวงถามว่า ความมั่นคงของเขา ที่ต้องจ่ายเป็นเงินภาษี ตกลงแล้วจะตอบแทนให้เขาในรูปแบบไหน ผมไม่ได้หมายความว่า เราต้องไปโจมตีด้วยการทิ้งระเบิด แต่มีกระบวนการหลายอย่างที่สามารถทำได้ ที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรม เขาได้แสดงออกถึงความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะที่นี่ไม่ใช่น่านน้ำโซมาเลีย ที่จะมีเรือโจรสลัดติดอาวุธรุนแรง แต่นี่เห็นชัดเจนแล้วว่า เป็นเรือประมง" นายรังสิมันต์ กล่าว