เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 17 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวตำแหน่งประธานอาเซียนว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ของนายอันวาร์ เพราะตามข่าวการตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และเป็นเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณเช่นเดียวกัน เพราะนายทักษิณอยู่ในลักษณะที่เป็นคนสำคัญระดับโลก และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับอีกหลายประเทศ เพราะนายทักษิณมีประสบการณ์ ความสามารถในการแก้ปัญหาประเทศไทยจนบรรลุผลทำให้ต่างชาติยอมรับก็เป็นสิ่งที่ต่างประเทศ อยากได้รับคำปรึกษา

ส่วนของรัฐบาลไทย การที่นายทักษิณ ซึ่งเป็นคนไทยที่มีความรักชาติ การไปเป็นที่ปรึกษานายอันวาร์ ก็อาจจะมีส่วนช่วยทำให้การพัฒนาระหว่าง 2 ประเทศประสบความสำเร็จดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนคิดว่าคงเป็นประโยชน์

เมื่อถามว่า ในส่วนของรัฐบาลไทยจะให้นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาหรือไม่อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณก็เป็นคนที่แสดงความเห็นต่อสาธารณะอยู่แล้ว นายทักษิณเป็นที่ปรึกษาได้มากน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่จะอนุญาตให้มีบทบาทได้อย่างไร ถ้าหากว่านายทักษิณเป็นที่ปรึกษาได้ และไม่ติดปัญหาทางกฎหมาย เราก็อยากรับฟังอยู่แล้ว เพราะเป็นคนมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา การรับฟังก็คงจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของประเทศ 

เมื่อถามว่า ได้ดูข้อกฎหมายไว้บ้างหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูละเอียด เพราะนายทักษิณ จะเป็นที่ปรึกษาของใคร ก็เป็นเรื่องที่เกิดมาต่อเนื่องเรื่อยๆ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย เรามีความผูกพันกันมาตั้งแต่นายทักษิณเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย  ประสบการณ์ที่ทำงานกับเราในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคด้วยกันก็ประสบความสำเร็จอย่างดี เพราะฉะนั้นถ้านายทักษิณไม่ได้ติดปัญหา เราก็อยากรับฟังปัญหา แต่ว่าเวลานี้ดราม่าเรื่องครอบงำเยอะเหลือเกิน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร ปัญหามันก็เยอะ เราก็คงต้องดู นายทักษิณเองก็สามารถแสดงความคิดเห็นต่างๆ ต่อสาธารณะได้อยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่นๆ จะหยิบเอาทัศนะ ข้อคิดเห็นไปใช้ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ทั้งหมด 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่างการสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เราก็ได้เชิญนายทักษิณไปให้ความรู้เราในเรื่องต่างๆทางสากลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเอเชียและประเทศไทยเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ต้องมีรูปแบบ เพราะนายทักษิณก็ต้องแสดงความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอ เราก็ใช้สิ่งเหล่านั้นที่เราเห็นด้วยมาทำงานได้อยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า หากนายทักษิณ ก้าวก่ายกิจการประเทศในอาเซียน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีอะไรไปแทรกแซง ตนคิดว่าความคิดเรื่องครอบงำและแทรกแซงควรพิจารณาอย่างเข้าใจมัน ตนคิดว่าประเทศในประเทศหนึ่งในอาเซียนจะเชิญใครไปเป็นที่ปรึกษา ก็เป็นสิทธิของประเทศนั้นที่เขาจะดำเนินกิจกรรมภายในประเทศนั้น ส่วนความคิดเห็นนั้น หากผู้นำประเทศนั้นจะเอามาใช้ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะแสดงความคิดเห็น ซึ่งเอามาจากใครก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องครอบงำ  หรือผู้นำอาเซียนจะรู้สึกอย่างไร อันนี้คิดกันไปเอง คิดไปแบบนี้ บางทีเดี๋ยวดาม่าก็เกิด  เวลานี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่เคยอยู่ในประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกต หรือคำถาม หรือต้องพูดคุยกันมีแต่การพูดพูดถึงความร่วมมือให้เกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศในฐานะรัฐไทยกับรัฐต่างๆในอาเซียน

เมื่อถามว่า ประเทศในอาเซียนจะเข้าใจว่าสถานะนายทักษิณในประเทศไทย และบทบาทของอาเซียนแยกกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประเทศต่างๆ ในอาเซียนคิดแตกต่างจากที่สื่อตั้งคำถาม ตนว่าเขาไม่ได้คิดแบบนี้