วันที่ 17 ธ.ค.67 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในบริเวณภาคเหนือ ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มของการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันลดลง เนื่องมีลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรง และมีฝนตกในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 00:00 น. วันนี้ ถึง 00:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส  

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ท้องฟ้าโปร่ง และอากาศเย็นถึงหนาว

อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส 

บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีเมฆบางส่วน และมีอากาศเย็นในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส  

อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก

มีเมฆบางส่วน และมีอากาศเย็นในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า

โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.                        

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.                        

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีเมฆบางส่วน และมีอากาศเย็นในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส 

อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.