อธิบดี ปภ. นำทีมลงใต้ สั่งการด่วนศูนย์ ปภ.เขต บริหารจัดการสรรพกำลังเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งระดมกำลัง ปภ. เข้าพื้นที่น้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันเวลา

วันนี้ (16 ธ.ค.67) เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี  นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมคณะผู้บริหาร ปภ. ส่วนกลาง นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ.เขต 11สุราษฎร์ธานี และผู้แทนสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ประชุมด่วนติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ สั่งการศูนย์ ปภ.เขต ซึ่งเป็น Staging Area เครื่องจักรกลของ ปภ.ให้ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่และบริหารจัดการทรัพยากรเครื่องจักรกลให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนให้ทันเวลา

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ภาคใต้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง รวม 47 อำเภอ 274  ตำบล 1,998 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 128,035 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ ปภ. เขต ทั้งเครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหารรถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ตอนนี้ ทีม ปภ. 65 คน และเครื่องจักรกลของศูนย์ เขต ปภ. รวมกว่า 115 รายการ ที่ประจำการอยู่ที่สุราษฎร์ธานี ได้กระจายกำลังทำงานดูแลพี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ทั้งการเร่งสูบระบายน้ำ การอพยพประชาชน การดูแลด้านสาธารณูปโภค อาหาร น้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

" จากข้อมูลติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนในพื้นที่ภาคใต้ของ สสน. คาดว่าในช่วง 1-2 วันนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในคลองสายหลัก และปริมาณฝนที่อาจยังคงมีในบางพื้นที่  ประกอบกับยังมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูง จึงทำให้มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ตนจึงได้สั่งการให้ศูนย์ ปภ.เขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักการบริหารเครื่องจักรกลของ ปภ. ทั้งหมดในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนให้ทันต่อสถานการณ์ ถือเป็นด่านหน้าที่ต้องบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งได้เน้นย้ำให้ศูนย์ ปภ.เขต ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และส่งกำลังเครื่องจักรกลเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยให้ทันเวลา เพื่อให้แก้ไขสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด และมีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องผู้ประสบภัย ได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดที่มีสถานการณ์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย" อธิบดี ปภ. กล่าว

นายภาสกร กล่าวต่อว่า ตนได้เน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นลำดับแรก ไม่อยากให้เกิดกรณีการสูญเสียชีวิตของพี่น้องประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วม รวมทั้งได้กำชับให้จังหวัดเร่งตรวจสอบจุดเสี่ยงดินถล่ม ซึ่งขณะนี้ได้มีสถานการณ์ในบางพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ริมเชิงเขาและที่ลาดเชิงเขา เนื่องจากดินอุ้มน้ำไว้มาก ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและเตรียมรับมือให้ทัน ซึ่งทีม ปภ.เราจะปักหลักช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกคนอย่างเต็มความสามารถและต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติ

ท้ายนี้ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่ การแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยเพิ่มเติม รวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยในช่วงที่เกิดสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงชั่วโมง