รัฐบาลระบุยอดแจ้งความออนไลน์ช่วง 1 มี.ค.65-30 พ.ย.67 เสียหายกว่า 7.7 หมื่นล้าน เฉลี่ยวันละ 77 ล้าน เฉพาะ 1-30 พ.ย. 67 เสียหายกว่า 2.5 พันล้าน เฉลี่ยวันละ 85 ล้านบาท ตกเป็นเหยื่อซื้อขายสินค้าและบริการสูงสุด ด้าน“ซูเปอร์โพล” ยก “มท.” ที่ 1 กระทรวงสังคมทลายแหล่งมั่วสุม ส่วน”ดีอี”ปราบมิจฉาชีพออนไลน์

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยยอดแจ้งความออนไลน์สะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 - 30 พ.ย.67 ผ่าน https://www.thaipoliceonline.com มีจำนวน 739,494 เรื่อง มูลค่าความเสียหายรวม 77,360,070,295 บาท เฉลี่ยความเสียหายวันละ 77 ล้านบาท ผลการอายัดบัญชี จำนวน 560,412 บัญชี ยอดอายัดได้ จำนวน 8,627,715,890 บาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พ.ย.67 ผลการแจ้งความออนไลน์รวม 31,353 เรื่อง มูลค่าความเสียหายรวม 2,540,251,400 บาท เฉลี่ยวันละ 85 ล้านบาท ผลการอายัดบัญชีจำนวน 16,229 บัญชี ยอดขออายัด จำนวน 1,864,371,518 บาท ยอดอายัดได้ จำนวน 383,933,622 บาท สำหรับประเภทคดีออนไลน์ที่มีการแจ้งความมากที่สุด 5 อันดับแรก ดังนี้ 1. หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ (ไม่เป็นขบวนการ) มูลค่าความเสียหาย 146,876,439 บาท 2. หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 526,791,217 บาท 3. ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) มูลค่าความเสียหาย 444,379,386 บาท 4. หลอกให้กู้เงิน มูลค่าความเสียหาย 99,885,464 บาท และ 5. หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่น มูลค่าความเสียหาย 221,723,880 บาท
"จากรายงานข้อมูลดังข้างต้น ยังมีประชาชนหลงกลตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ขอประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่เชิญชวน ชักชวนโดยวิธีการต่างๆ หากถูกหลอก สามารถแจ้งความออนไลน์ที่ ttps://www.thaipoliceonline.com หรือสอบถามที่เบอร์ 1441 หรือ 081-866-3000"

 วันเดียวกัน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ประเมินผลงานกระทรวงสังคมและเศรษฐกิจ จากกรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,156 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10 – 14 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา โดยเมื่อถามถึงรัฐมนตรีประจำกระทรวงด้านสังคมที่ประชาชนพึงพอใจ 3 อันดับแรก พบว่า กระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่ง จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 7.52 คะแนน โดยมีผลงานด้านการจัดระเบียบสังคม ทลายแหล่งมั่วสุมตามสถานบันเทิง การแก้ไขปัญหายาเสพติด การเยียวยาปัญหาน้ำท่วม และภัยพิบัติ เป็นต้น

รองลงมาอันดับที่ 2 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ 7.41 คะแนน โดยมีผลงานด้าน สิทธิประโยชน์ประกันสังคม การสนับสนุนให้ประชาชนมีงานทำ เพิ่มโอกาสการจ้างงานสำหรับประชาชน มีรายได้ มีความปลอดภัยในการทำงาน และสวัสดิการสำหรับแรงงาน เป็นต้น อันดับที่ 3 นายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ 7.22 คะแนน โดยมีผลงานด้านการดูแลผู้สูงอายุในหลายด้าน เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การพัฒนาดูแลผู้สูงอายุศูนย์พักฟื้นและกิจกรรมต่างๆ ของผู้สูงอายุ การให้ความรู้เพิ่มทักษะการเข้าถึงสิทธิและบริการต่าง ๆ การปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน ก เป็นต้น

เมื่อสอบถามถึงกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ประชาชนพึงพอใจ 3 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้คะแนนสูงสุดอันดับ 1 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 7.35 คะแนน โดยมีผลงานการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาการนิคมอุตสาหกรรม ทำคนไทยมีอาชีพในนิคมพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น อันดับที่ 2 กระทรวงการคลัง โดย นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ได้ 7.24 คะแนน โดยมีผลงานโดดเด่นได้แก่ การแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริการของธนาคารออมสิน และการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น

อันดับที่ 3 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ 7.01 คะแนน โดยมีผลงานด้านการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีค้าขายออนไลน์ การซื้อสินค้า การบริการเทคโนโลยีดิจิทัล อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การบริการของรัฐบาลดิจิทัล การสนับสนุนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Ai ในภาคธุรกิจ และการแก้ปัญหามิจฉาชีพออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ เป็นต้น

 "จากรายงานข้อมูลดังข้างต้น ยังมีประชาชนหลงกลตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ขอประชาชนระมัดระวังอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่เชิญชวน ชักชวนโดยวิธีการต่างๆ หากถูกหลอก สามารถแจ้งความออนไลน์ที่ https://www.thaipoliceonline.com หรือสอบถามที่เบอร์ 1441 หรือ 081-866-3000"