แพทย์แผนไทย ยืนยัน หากนวดตามหลักวิชาอย่างถูกต้อง ไม่อันตราย เว้นแต่หมอนวดไม่ผ่านการอบรม ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แนะประชาชนตรวจคุณสมบัติหมอที่ทำการนวด และศึกษาข้อห้ามและข้อควรระวังก่อนการนวดเพื่อความปลอดภัย
จากการที่มีข่าวผ่านโลกออนไลน์มีการแชร์โพสต์ของนักร้องสาวรถแห่น้องผิง ชญาดา วัย 20 ปี ที่ไปนวดแผนไทยแล้วหลังจากนั้นได้เสียชีวิต ซึ่งล่าสุดได้มีการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ยืนยันการเสียชีวิตแล้วไม่ได้มาจากการนวดแต่อย่างใด แต่เมื่อกระแสข่าวออกไปทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนในการไปนวดแผนไทยลดลง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นางสาวปรางระวี วงษ์สกุล แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ โรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยว่า อย่าตื่นตระหนักหรืออย่าเพิ่งด่วนสรุปเพราะการที่นวดแล้วเสียชีวิตโอกาสน่าจะยากมาก การนวดแผนไทย ถือเป็นเรื่องที่คู่กับคนไทยมาช้านานและเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของไทยด้วย ไม่ว่าจะเป็นนวดผ่อนคลาย นวดเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่นวดรักษาอาการบางอย่าง แต่สิ่งที่ควรรู้ คือ การนวดไม่ได้เหมาะกับทุกคนเพราะบางกลุ่มอาจเจอปัญหาหนักกว่าเดิมแทนที่จะหายปวด
ดังนั้น การจะเข้านวดที่ใด หรือให้หมอนวดทำการนวด สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ การศึกษาข้อห้าม ข้อควรระวังจุดไหนที่ไม่ควรนวด ก่อนการนวด และต้องพิจารณาหมอที่ทำการนวด มีใบประกอบโรคศิลป์หรือมีใบยืนยันการจบหลักสูตรการนวดหรือไม่ ซึ่งสถานที่ที่ไปใช้บริการนวดต้องได้มาตรฐานหมอนวดต้องมีใบประกอบวิชาชีพ จะต้องผ่านการอบรมตาม พรบ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทยเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย แต่ละขั้นแตกต่างกันไป เช่น หากนวดเพื่อสุขภาพ ซึ่งคล้ายๆ การนวดผ่อนคลาย จะต้องผ่านการอบรมขั้นต่ำ 150 ชั่วโมง แต่หากเป็นการนวดในหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แผนไทย ต้องผ่านการอบรมขั้นต่ำ 372 ชั่วโมง
ขณะที่หากอบรมถึง 800 ชั่วโมง จะได้ใบประกอบโรคศิลป์ ซึ่งส่วนใหญ่หมอนวดทั่วไป จะเป็นหมอนวดแพทย์ทางเลือก ไม่ใช่แพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือกมักไม่ได้มีความชำนาญในการนวดเพื่อรักษาโรค แต่เน้นการผ่อนคลายมากกว่า ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่าการนวดอย่างถูกต้องไม่อันตรายแน่นอน
ด้าน นางณัญลดา ขวัญแก้ว หนึ่งในผู้มาใช้บริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดใจว่า ตนเองปวดหลังเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม มีอาการเกร็งกล้ามเนื้อ ไปปหาคุณหมอ คุณหมอแนะนำว่าควรนวดผ่อนคลายด้วย แต่คุณหมอไม่ได้บังคับแต่ถามความสมัครใจ ตนเองเป็นครูวิทยาศาสตร์มีความรู้พื้นฐานด้านสรีระร่างกายมาบ้าง ลองเปิดใจมานวดแผนไทยมานวดเดือนละ 1-2 ครั้ง นวดมาระยะหนึ่งอาการเกร็งกล้ามเนื้อดีขึ้น เดินได้ปกติและเลือดไหลเวียนดีขึ้น พอใจมากกับการนวด โดยก่อนจะทำการรักษาด้วยการนวดผ่านการประเมินอาการจากคุณหมอมีการซักประวัติ มีโรคประจำตัวหรือไม่ ขณะนวดหมอที่นวดจะค่อยซักถามตลอดนวดหนักไปมั๊ย เจ็บหรือไม่ ตอนนี้ยังเชื่อมั่นในการนวดแผนไทยและอยากให้มีการสืบทอดการนวดแผนไทยไปยังอนุชนรุ่นหลังเพราะการนวดแผนไทยถือเป็นภูมิปัญญาของคนไทยที่คนไทยควรอนุรักษ์ให้คงอยู่ต่อไป