วันที่ 14 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายพัฒนา แสงเทพ อายุ63ปีอดีตกำนัน ต.ระเวียง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ได้ทำหนังสือร้องถึงผู้สื่อข่าวว่า ทางอบต.ระเวียง จัดทำโครงการขุดลอกหนองหิน หมู่ที่11ต.ระเวียง อ.โนนนารายร์ จ.สุรินทร์ ส่อไปในทางทุจริตโดยได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆแล้วไม่มีการลงมาตรวจสอบและใช้เวลามาเนิ่นนานจนถึงปีงบ ประมาณ 2568 จะลงมาอีกครั้งและนายกอบต. ยังจะตั้งจัดทำโครงการขุดลอกหนองหินลงมาทับซ้อนอีกแต่หนังสือตอบรับจากหน่วยงานก็ยังไม่มีคำตอบและดำเนินการอะไรจึงได้พาชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวให้ติดตามและดำเนินการให้พร้อมกับลงเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่
โดย นายพัฒนา กล่าวว่าโครงการดังกล่าวไม่ดำเนินการตามแบบปริมาตรและคุณภาพตามที่กำหนดและการขุดลอกโครงการดังกล่าวซึ่งการขุดลอกในครั้งนี้จากการดูป้ายติดประกาศโครงการก่อสร้างองค์การบริหารส่วนตำบลระเวียง(จ่ายขาดเงินสะสม)ปีงบประมาณ2564ชื่อโครงการขุดลอกหนองหินม.11ต.ระเวียงอ.โนนนารายณ์จ.สุรินทร์
ซึ่งจาการตรวจสอบแล้วปริมาณดินและการขุดดินตื้นเขินมากและในช่วงหน้าแล้งชาวบ้านต้องนำเงินกองทุนประปาของหมู่บ้านนำมาปรับปรุงขุดลอกจนกระทั่งชาวบ้านได้ใช้สอยมาจนถึงทุกวันนี้ซึ่งตนเองได้ทำหนังสือร้องไปหลายหน่วยงานแต่ไม่มีการเข้ามาตรวจสอบอะไรเลยตนเองและพี่น้องชาวบ้านมองเห็นแล้วการจัดทำโครงการดังกล่าวส่อไในทางทุจริตซึ่งเงินจำนวนสามแสนกว่าบาทน่าจะขุดให้ลึกลงไปมากกว่านี้ทำแบบนี้เท่ากลับนำเงินภาษีพี่น้องประชาชนมาตำน้ำพริกละลายลงแม่น้ำเพราะไม่มีประโยชน์อะไรพอถึงช่วงหน้าแล้งก็กลับมาแล้งเหมือนเดิมไม่มีที่กักเก็บน้ำตนเองมองแล้วมันไม่ใช่โครงการมันเป็นเพียงการนำรถแบคโครนำมาขูดดินออกไปง่ายๆแล้วก็ทำการเบิกจ่ายเงินไปใช้แบบสบายๆเลย
หลังจากนั้นชาวบ้านได้พาเข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนดินลงหินคลุกม.6จากหน้าวัดบ้านโนนน้อยสามแยกถนนลาดยางบ้านม่วงหวานต.ระเวียง มีข้อพิรุธที่นำไปสู่การทุจริตคือการประมาณการราคาโครงการดังกล่าวมีปริมาณดินที่จะเสริมสร้างเข้าไปในโครงการแต่ข้อเท็จจริงมิได้ดำเนินการแต่อย่างใดเพียงเอาหินคลุกไปลงในเส้นทางที่จะดำเนินการและมีการปรับเกรดเฉลี่ยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบยังได้พบสมาชิกอบต.ระเวียงได้บอกว่าอยากให้เข้ามาตรวจสอบงบจ่ายขาดเงินสะสมปี2564 อย่างจริงจัง เพราะบางรายเข้ามาตรวจสอบแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าและเงียบหายไปเลยและชาวบ้านก็ได้ยื่นหนังสือเวียนไปหลายหน่วยงานแต่เรื่องก็เงียบตนเองไม่รู้จะไปพึ่งใครหวังเพียงยื่นหนังสือเวียนไปทั่วและฝากเป็นกระบอกเสียงแทนชาวบ้านด้วย