กรณีข่าวสะเทือน “นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์” หรือ “สจ.โต้ง” จ.ปราจีนบุรี ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก ที่บ้าน “นายสุนทร วิลาวัลย์” เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผลชันสูตรพบกระสุนปืนมากกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กะโหลกและหน้าอกและบริเวณร่างกาย ในลักษณะถูกยิงระยะประชิด เป็นเหตุให้กระสุนปืนทำลายอวัยวะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ด้าน “กอล์ฟ-ตูน” 2 ใน 7 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ รับสารภาพเป็นคนยิงเอง อ้างไม่พอใจ ถูกสจ.โต้งตบหัว ด่ารุนแรง แต่สังคมไม่เชื่อ เพราะก่อนหน้านั้น มีคลิปเสียงสจ.โต้งทะเลาะกับใครบางคน มองว่าเป็นปมการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน
รายการโหนกระแส วันที่ 13 ธ.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต, รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รศ.ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช และ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ให้ความรู้เรื่องกฎหมาย
คุ้นเคยกับโกวทร กับสจ.โต้งมั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : รู้จักทั้งคู่ น้องสาวโกวทรก็เรียนรุ่นเดียวกับผม หลานโกวทรก็เป็นเพื่อนผม จะรู้เรื่องราวพอสมควร จริงๆ คดีนี้เวลามีเหตุฆ่ากันตาย ตร.ต้องทำการสืบสวนสอบสวน ดูที่เกิดเหตุ ต้องมีพยานบุคคล พยานวัตถุ นิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคลไม่ต้องพูดถึง เขาต้องไปทิศทางเดียวกันแน่ เพราะคนอยู่กลุ่มนั้น มีสองกลุ่มนี่ คนตายก็มีคนเดียว อีกกลุ่มก็ต้องพูดไปตามนั้น ส่วนพยานวัตถุต้องไปดูปลอกกระสุนปืน ยิงกันกี่ชนิด ปลอกมีกี่ชนิด วิถีกระสุนยิงยังไง ร่องรอยในศพมีกระสุนอะไรบ้างฝังในตัว เขม่าดินปืนพบที่ใครบ้าง อันนี้หลักการที่ตร.ต้องสอบสวน แต่มูลเหตุจูงใจของการกระทำความผิด เขาดูมูลเหตุจูงใจ เท่าที่ผมรู้มาไม่มีเรื่องอื่น มีเรื่องเดียวคือเรื่องการเมืองท้องถิ่น ที่จะสนับสนุนคนลงเป็นนายก อบจ. ที่ขัดกันอยู่ทุกวันนี้
หลังเกิดเหตุ ตร.เข้าไป มีการนำตัว 7 คน สองใน 7 นายกอล์ฟกับนายตูนเขายอมรับว่าเขาเป็นคนสังหารเอง แต่เขาบอกไม่เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นเลย เป็นเพราะสจ.โต้ง
ตบหัวเขาก่อน ผูกใจเจ็บมานาน?
พล.ต.ต.วิชัย : คำพูดมันก็พูดได้ แต่ถามว่าขนาดนั้นต้องเรียกมายิงกันหรือเปล่า เท่าที่รู้มา สจ.โต้งขับรถมาจะไปกรุงเทพฯ ถึงองครักษ์แล้วนะ แต่มีการเรียกกลับเข้ามาที่บ้าน แล้วมาทำไม
พี่รู้ได้ไง?
พล.ต.ต.วิชัย : รู้แล้วกัน แล้วมีตาย ไม่รู้ตระเตรียมการวางแผนกันยังไง ซึ่งตร.ก็วิเคราะห์แล้วว่าตระเตรียมการ แต่ถามว่าเรียกมาทำไม แล้วทำไมต้องเสียชีวิต ก็ต้องคิดเอา ผมยกอุปมาไว้อันนึง เวลาจะยิงเสือต้องไปยิงในถ้ำนะ เพราะเสือยิงข้างนอกยิงยาก ปราดเปรียว สจ.โต้งเขามีตร.มือปืนคุ้มกันอย่างดีนะ ไม่ได้ว่าโกวทรหรือว่าใครนะ ถ้าผมจะทำอะไร ผมทำยาก เพราะเขามีคนรายล้อม แต่ถ้าเข้ามาในบ้านผม คุณเข้าเป็นปกติธุระ เป็นพ่อลูกกัน สนิทกัน คุณก็ไม่ต้องสงสัยอะไร ต้องพกปืนมั้ย ถ้าผมจะจัดการใครง่ายมาก แล้วถามว่าใครจะซัดผมได้มั้ย ซัดลำบาก เพราะทุกคนบอกว่าไม่ใช่ ผมไม่เห็น ผมไม่รู้ จะมีพยานอะไร เพราะพยานฝ่ายโน้นตายหมดแล้ว เพราะมีพยานปากเดียว ผมวิเคราะห์ไม่ได้ว่าใครนะ ผมวิเคราะห์ในฐานะเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนมา ผมว่ามันน่าจะมีประเด็นนี้ เท่าที่รู้มา เพื่อนผมวงการมวยก็มี เขาก็เคยไปพูดกับวงการมวยว่าเขาจะลำบาก จะมีเรื่อง จะถูกเก็บ อะไรต่างๆ เขาเอาตร.มาคุ้มกันตั้ง 4 คน ก็ไม่น่ามีสาเหตุอื่น น่าจะเรื่องการเมือง เพราะอีกกลุ่มนึงจะส่งเมียไปอยู่อีกพรรคนึง ไปอยู่กลุ่มเพื่อไทย ถ้าสจ.จอยได้ บ้านวิลาวัลย์สูญพันธุ์เลยนะ เพราะหนึ่งน้องสาวก็โดนปปช. ลูกสาวก็ห้ามลงตลอดชีวิต โกวทรแกก็มีอายุมาก หลานอีกคนบารมีไม่ถึงเด็กๆ อยู่
โกวทรฝากความหวังไว้ที่ใคร?
พล.ต.ต.วิชัย : ได้ข่าวว่าคนชื่ออุ๊ เบอร์สอง จะให้ลงแทน
อาจารย์โต้ง มองเหมือนกันมั้ย?
ดร.กฤษณพงค์ : ผมว่าปกติคนเราจะฆ่ากันได้ ต้องมีสาเหตุแรงจูงใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ ความขัดแย้งทางธุรกิจ ความรัก ความโกรธ แต่แน่นอน กรณีที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นปมการเมืองเป็นหลัก มีการเริ่มเปลี่ยนขั้วว่าจะเป็นอีกฝ่ายกำลังจะขึ้นมาแทนที่ เราทราบตามข่าวตรงกันคือเมื่อทางผู้เสียชีวิตเป็นคนออกนอกในบ้านได้ปกติ เหมือนโกทรก็ดูแลมาตลอด วันนึงมาพูดน้ำเสียงที่ปรากฏตามคลิป ก็เป็นไปได้โดยลักษณะนิสัยอีกฝ่าย และบริวาร ที่มองว่าเหมือนจะมาแทนที่ พูดแล้วไม่ฟัง มีทางเลือกสองเส้นทาง คือหนึ่งปล่อยให้ขึ้นมา สองตัดไปจากวงจร แน่นอนผมเชื่อว่าประเด็นปล่อยขึ้นมาคงไม่ได้ มิฉะนั้นการเมืองก็จะเปลี่ยนขั้วไป เพราะมีคนเข้ามาแทนที่ ให้ข้อสังเกตนิดนึง มีงานเขียนฝรั่งเมื่อ 60 ปีที่แล้ว เขาพูดเรื่องเมืองไทย มาเฟีย ผู้มีอิทธิพล อำนาจ ผลประโยชน์ และมือปืน ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แสดงว่าที่ผ่านมาเกือบ 60 ปี ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยเหรอครับการเมืองไทย ผมว่านักการเมืองต้องมาดูว่าเราจะเป็นนักการเมืองเพื่อช่วยพัฒนาบ้านเมือง หรือจะเข้ามากินบ้านกินเมือง ทำไมคนแย่งไปเป็น ก็ต้องมาช่วยกันพัฒนาถูกมั้ยครับ แล้วคนจะมาช่วยกันพัฒนา แล้วทำไมต้องมาฆ่ากัน คิดกันง่ายๆ หรืออีกฝ่ายที่มีข่าวว่ามีตร.มาตาม แสดงว่าตัวเองก็ต้องเริ่มรู้สึกว่ากำลังถูกปองร้าย ไม่ปลอดภัย มีบางสื่อเปิดเผยแล้วว่ามีรถคอยติดตามจริง ผมว่าผู้ชมก็คงเห็นตรงกัน ว่าตกลงเราอยู่ประเทศไทยในปีนี้ พศ.นี้ใช่มั้ย
ลักษณะสองคนที่ไปยอมรับ คือกอล์ฟกับตูน บอกว่าโกรธที่ตบหัวเลยยิง แต่มุมของเหตุวันนั้น ถ้าวิเคราะห์แล้ว วิเคราะห์แบบไหน?
ดร.กฤษณพงค์ : เอาตรงๆ ผมว่าไม่เป็นธรรมชาติ เช่นบอกว่าไม่พอใจที่ถูกตบหัว เลยบันดาลโทสะ คนบันดาลโทสะเวลาชักปืนยิง อีกฝ่ายต้องช่วยยิงซ้ำเหรอครับ เพราะมีมือปืนสองคนที่เขายอมรับ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องมาพิสูจน์กัน เพราะตามหลักนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าใครจับอาวุธปืนแล้วยิงบ้าง ส่วนประเด็นที่อ้างว่าบันดาลโทสะ แน่นอนมีผลต่อกฎหมาย ที่อาจรับโทษน้อยลง ประการต่อมา การตัดบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น โกทร ที่บอกว่าเข้าห้องนอนแล้ว ที่เหลือมีแต่พยาน ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ต้องหา แล้วคนตายพูดไม่ได้นะ ฉะนั้นหมายความว่าถ้าทุกคนให้การสอดคล้องตรงกันทั้งหมด เหมือนเคสนึงที่อยู่บนเรือ พยานทุกคนให้การสอดคล้องต้องกันทั้งหมด เพราะไม่มีใครเห็น ไปสู้กันในศาลก็อาจหลุดได้นะ
พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าพูดในการสืบสวนสอบสวน เป็นผม ผมไม่เชื่อหรอกว่าเหตุแค่ตบกันแล้วจะยิงกันถึงขนาดนี้ ยิงกันถึง 20 กว่านัด แล้วที่ตายแล้วไปซ้ำศพ ผมว่ามันไม่ใช่แล้ว มันต้องรุนแรง และทำให้เห็นว่ากูต้องสั่งสอนมึง เอาให้แดดิ้น การเมืองสมัยนี้ มีทั้งฟาด พิฆาต และฆ่ากัน แม้แต่พี่น้องก็ทำกัน แล้วไปฟังเทป เทปนั้นไม่ใช่เทปทะเลาะ เป็นเทปเหมือนตัดพ้อกัน ทวงบุญคุณกัน อย่างอื่นไม่มี มีเรื่องการเมืองอย่างเดียว เป็นเหตุจูงใจ
เหตุที่เกิดเรื่อง อาจารย์มองว่าเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่นมั้ย?
ดร.ยุทธพร : ผมให้น้ำหนักกับเรื่องการเมืองท้องถิ่นมากกว่า เพราะอย่าลืมว่าปมแรกที่มีการเรียกเข้าไปคุยไปเคลียร์เป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น ฉะนั้นแน่นอนว่าโอกาสเป็นไปได้สูงคือเรื่องการเมืองท้องถิ่น ส่วนเข้าไปหน้างานแล้วจะทะเลาะกัน บันดาลโทสะ ก็อาจเป็นไปได้เหมือนกัน
ดุเดือดขนาดนี้เลยเหรอ การเมืองท้องถิ่น?
ดร.ยุทธพร : แน่นอน ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าโครงสร้างการเมืองท้องถิ่น มันยึดอยู่กับเรื่องตัวบุคคล ไม่มีกลไกคัดสรรทางด้านการเมือง เวลาใครจะลงอะไรต่างๆ ต้องอาศัยเรื่องการคุยกัน บารมี การหลบหลีกทางให้ ถ้าคุยไม่ได้ก็จบแบบนี้
เป็นเหมือนกันทุกจังหวัดมั้ย?
ดร.ยุทธพร : บางพื้นที่อาจไปสู่โลกใบใหม่ของการเมืองท้องถิ่นแล้ว ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่หลายพื้นที่ยังเป็นแบบนี้อยู่ การเมืองท้องถิ่น มีทั้งโลกใบเก่าและโลกใบใหม่ โลกใบเก่าเป็นเรื่องการอาศัยบารมีบ้านใหม่ แต่ถ้าการเมืองโลกใบใหม่เป็นเรื่องกติกา การลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งถ้าใครมีคุณสมบัติ ก็สามารถลงได้ แต่ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงนะ เพราะคนนี้ยังคุมหัวคะแนนอยู่ คนนี้ยังคุมฐานเสียงอยู่ ถ้าไม่ปล่อยไม่วางกัน โอกาสที่ต้นไม้ใหม่จะงอกขึ้นมา ถ้าต้นไม้ใหญ่ไม่ยอมถอย สุดท้ายก็ต้องจบแบบนี้ มันเป็นไปได้
อย่างปราจีน เบอร์หนึ่งใคร เขาบอกคุณสุนทร?
ดร.ยุทธพร : ก็เป็นต้นไม้ใหญ่ แสดงว่าต้นไม้ต้นอื่นถ้าจะงอกบ้าง ถ้าต้นไม้ใหญ่ไม่หลีก ก็เป็นปัญหาแบบนี้ ถ้าไปดูภาคตะวันออก เรื่องบ้านใหญ่ทำไมถึงเยอะ เพราะภาคตะวันออกติดชายแดนกับติดชายทะเล การก่ออาชญากรรมต่างๆ สามารถหลบหนี วิ่งเข้าวิ่งออกช่องทางธรรมชาติเยอะ ก็จะมีทั้งธุรกิจผิดกฎหมาย บ่อน แรงงานเถื่อน ยาเสพติด สินค้าหนีภาษีเยอะแยะมากมาย ตรงนี้ทำให้ปรากฎการณ์บ้านใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกมันเยอะ รวมไปถึงที่ปราจีนบุรีด้วย
เรื่องยิงกันตายมีเยอะมั้ยกับการเมืองท้องถิ่น?
ดร.ยุทธพร : มีเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบสัดส่วนอาชญากรรมทั่วประเทศ เคยมีงานวิจัยประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์อาชญากรรมที่เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นจริงๆ
ปีก่อนหรือสองปีก่อน ก็เกิดเหตุนี้ที่ราชบุรี ที่ยิงในงานศพ?
พล.ต.ต.วิชัย : ตัดสินประหารชีวิต พี่น้องลงแข่งกัน ผัวของน้องสาวมายิงพี่สาว ในงานศพ
ดร.ยุทธพร : นายกอบต.บางแห่งไม่มีตัวจริงนะ เพราะพอมีปุ๊บโดนระเบิด บางคนมีปุ๊บโดนยิง ที่ปราจีนนี่แหละ ดุครับ
พล.ต.ต.วิชัย : ตอนนี้การเมืองมาสู้กันที่ท้องถิ่นมาก คนเป็นสส.มาสมัครท้องถิ่นมาก การต่อสู้มันรุนแรงมาก มันทั้งใช้เงินใช้อำนาจ บางพรรคเดียวกันส่งมาแข่งกันเอง ต่างพรรคก็เอาอย่างเมามัน อิทธิพลมันเยอะมาก จริงๆ แล้วบ้านใหญ่ไม่ได้มีแค่สองภาค ทุกจังหวัดมีบ้านใหญ่หมด บ้านใหญ่ที่มีสส.ผูกขาดผูกอำนาจกันมาเป็นบ้านใหญ่หมด แล้วบ้านใหญ่อาชีพมีอย่างเดียว คือรับเหมาก่อสร้าง ทำถนน มันถึงได้มีเหตุฮั้วประมูลไง
ดร.ยุทธพร : จะเห็นได้ว่าการเมืองท้องถิ่นคนสนใจนะ ในระยะหลัง เลือกนายกอบจ.อุดรฯ อุบลฯ คนสนใจ แต่ที่สนใจเพราะมีซุปตาร์ไปลงพื้นที่ไง เช่น คุณทักษิณ คุณพิธา แต่พอไปดูตัวเลขการใช้สิทธิ์ มันไม่ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมนะ อุดรฯ ก็ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่าเดิม เพราะกติกาการเลือกตั้งท้องถิ่น มันไม่เหมือนกติการะดับชาติ ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่มีเลือกตั้งนอกเขต ฉะนั้นเสียงจัดตั้งมันมีความหมาย ใครคุมฐาน คุมบ้านใหญ่ คุมหัวคะแนนได้นี่มันมีโอกาส
พล.ต.ต.วิชัย : เงินใช้มากที่สุดกับกระสุน
ดร.ยุทธพร : เพราะทุกคะแนนเสียงมันมีความหมาย ยิ่งเขตเลือกตั้งเล็กๆ เช่นเทศบาล สองสามซอยแถวบ้าน หนึ่งคะแนนก็แพ้ไม่ได้
เขาอยากเป็นกันทำไม?
ดร.ยุทธพร : หนึ่งคือเรื่องผลประโยชน์ สองการคุ้มครองธุรกิจตัวเอง สามเป็นฐานบารมี อำนาจที่จะส่งไปสู่การเมืองระดับชาติ
พล.ต.ต.วิชัย : รู้มั้ยเดี๋ยวนี้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หัวละพันนะ
ดร.ยุทธพร : ยิ่งอะไรที่เขตเล็กมากเท่าไหร่ ยิ่งมีน้ำหนักกับเสียงจัดตั้งมากขึ้น
อยากให้อาจารย์โต้งวิเคราะห์ คลิปเสียงมันบ่งบอกอะไรบ้าง?
ดร.กฤษณพงค์ : ประเด็นแรก สจ.โต้งพูดในลักษณะมีอารมณ์โกรธ สองคือท้าทายฝ่ายโน้นว่าให้ส่งคนลงแข่งเลย สามพูดเรื่องความตาย ตรงนี้ถ้าความเชื่อแบบเดิมๆ คนที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้มีบารมี มีอิทธิพลในพื้นที่ ก็จะรู้สึกว่าคนที่พูดอยู่เนี่ย ตัวเองเคยเห็นมาหลายปีก่อน
พล.ต.ต.วิชัย : สจ.โต้งอยู่กับโกวทรมาตั้งแต่ปี 27 ตั้งแต่อายุ 14 ล้างรถมา มันเหมือนหยามกัน
ดร.กฤษณพงค์ : ผมสันนิษฐานว่าเหมือนเห็นมานาน วันนี้จะมาวัดรอยเท้า อย่าลืมว่าคนเรามีหลายนิ้ว ถ้านิ้วไหนไม่ดี ก็อาจทิ้งก็ได้ เพราะถ้าไม่ตัดก็อาจจะลาม ทำให้ต้องตัดมือ ผมเชื่อว่าระดับท้องถิ่นเอง คนที่เขามีบารมี มีอิทธิพล บังเอิญจากข้อมูลทางวิชาการ เราพบว่าไปเชื่อมโยงกับกลไกของเจ้าหน้าที่รัฐส่วนนึง พูดตรงๆ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐสนับสนุน อยู่ไม่ได้นะ ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่เห็นด้วยที่จะทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง บอกว่าหยุด เอาจริงๆ ก็หยุด แต่กลไกการเมืองท้องถิ่นไปเชื่อมโยงกับกลไกการเมืองชาติ ก็เป็นอะไรที่ระบบ และโครงสร้างประเทศไทยตรงนี้ที่เป็นปัญหา ทำให้มีบ้านใหญ่ แต่สังคมไทยต้องกลับมาตั้งคำถามว่าเราจะมีบ้านใหญ่ หรือเราจะมีบ้านใหม่
จำลองเหตุการณ์ในคืนนั้น ในฐานะเป็นตำรวจ จะจำลองยังไง?
พล.ต.ต.วิชัย : ผมมองที่เหตุก่อน เหตุที่มีเรื่องมันต้องตายแน่นอน
สั่งตายเหรอ?
พล.ต.ต.วิชัย : งานนี้มันต้องไปกันข้างนึงแล้ว เพราะคำพูดหยามเกียรติ ไม่ใครก็ใคร ช้าเร็วต้องไป มันพูดเรื่องตายกันแล้ว เรื่องกูไม่กลัวมึง ไม่ให้เกียรติ เรื่องแบบนี้ผมว่าอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะทั้งสองคนก็นักเลงกันทั้งคู่ โกวทรก็นักเลงเก่ามึงหยามเกียรติกู นี่ก็นักเลงใหม่ ไม่ยอมมึงเหมือนกัน สุดท้ายคือการแตกหัก
มีสายด่วนเข้ามา เป็นภรรยาสจ.โต้งคือ “คุณจอย” วันนี้เดินทางมาที่สอบสวนกลางที่กรุงเทพฯ?
จอย : ใช่ค่ะ
สิ่งที่กังวลใจ หรือเป็นห่วง จนต้องเดินทางมาสอบสวนกลาง เพราะอะไร?
จอย : มันเป็นคดีใหญ่ เป็นนักการเมืองใหญ่ที่ชาวปราจีนบุรีให้ความรู้สึกเกรงขามในตัวผู้ต้องหาในตอนนี้ กลัวเรื่องคดี และความปลอดภัยของตัวเอง เพราะตอนนี้จอยอยู่สองคนกับลูกค่ะ
ผู้ต้องหาสองคนบอกว่าเป็นผู้ก่อเหตุในการลงมือยิง คุณจอยเชื่อมั้ยว่าเป็นเหตุทะเลาะกัน เป็นเหตุซึ่งหน้าชักปืนออกมาแล้วก่อเหตุ หรือมีเหตุการณ์อื่นเกี่ยวข้อง?
จอย : ส่วนตัวจอยไม่เชื่อค่ะ เป็นไปไม่ได้ค่ะ แค่ตบหัวแล้วจะยิงกันถึงตาย แล้วยิงกันในบ้านเจ้านายตัวเอง
เชิญพี่แต้มต่อ?
พล.ต.ต.วิชัย : ที่ผมฟังคุณจอยสัมภาษณ์ว่าสามีจะมากรุงเทพฯ มาถึงองครักษ์แล้ว มีการเรียกตัวไปพบที่บ้าน เดี๋ยวเขาตรวจสอบได้ว่าโทรศัพท์มีการเรียกหรือไม่ จะรู้เลย พอเรียกไปก็รู้แล้วว่าเรียกไปเพื่ออะไร
เรียกไปเคลียร์ได้มั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ก็อาจจะได้ อาจจะเคลียร์ แต่พอเกิดเหตุมาแล้ว เราคิดว่าเคลียร์มั้ยล่ะ ลักษณะยิงจากชั้น 2 แล้วตกลงมาแล้วยิงซ้ำ แบบนี้เคลียร์มั้ย
คิดว่าสจ.โต้งเดินขึ้นบันไดเพื่อไปหาโกว?
พล.ต.ต.วิชัย : แล้วผมว่าโดนยิงเลย แล้วลงมาซ้ำ เพราะร่องรอยกระสุนตกที่พื้นอีก แสดงว่าต้องยิงซ้ำ
กรณีนี้ถ้ามีบุคคลนึงเรียกสจ.มา ไม่มาได้มั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ผมว่าก็ได้
ต่อสาย “คุณจอย” ต่อ ก่อนเกิดเหตุเป็นยังไง?
จอย : เขากำลังมาที่กรุงเทพฯ มีการคุยกันทางโทรศัพท์ซึ่งพี่โต้งให้คนที่มาด้วยต่อสายให้ เขาเข้าใจว่าเป็นนายกในพื้นที่ในจังหวัด คนคุยแทนพี่โต้งคิดว่าโกวทรจะให้ทำยังไงต่อเรื่องเลือกตั้ง เขาสั่งมาว่าไม่ต้องไปช่วยมัน ทะเลาะกัน พี่โต้งก็แย่งโทรศัพท์มาว่าผมเอง โกวพูดอย่างนี้ได้ยังไง ผมทำงานให้โกว ผมทำงานเต็มที่ นับถือเหมือนพ่อ ทำไมพ่อต้องสั่งเบรกผมอย่างนี้ด้วย แกบอกว่างั้นเดี๋ยวผมตีรถกลับไปคุยกันเลยดีกว่า ไปเคลียร์ใจกันเลยวันนี้ให้ขาด ก็เลยตีรถกลับไปเพื่อไปคุยค่ะ ช่วงตีรถไปคุย แกก็ไปส่งจอยอาบน้ำที่บ้าน จอยไม่ได้ไปด้วย จอยอาบน้ำรอที่บ้าน คิดว่าแกจะกลับมาด้วยความปลอดภัยเหมือนทุกครั้งค่ะ
คลิปเสียงที่หลุดออกมาเป็นสิ่งที่สจ.โต้งพูดกับโกวทร?
จอย : ยืนยันได้ค่ะว่าเป็นคลิปเสียงจริงๆ ค่ะ
เห็นว่าคุณจอยจะไม่ลงการเมืองแล้ว?
จอย : ส่วนตัวจอยตอนนี้เช็กอย่างเดียวว่าจะจัดงานให้พี่โต้งยังไง เรื่องการเมืองจอยขอตัดสินใจแล้วปรึกษาผู้ใหญ่อีกทีค่ะ
อีกฝั่งติดต่อมาพูดคุยกับคุณจอยมั้ย?
จอย : ไม่มีเลยค่ะ
คุณจอยไม่เชื่อว่าเป็นเหตุซึ่งหน้า ตบหัวกันแล้วชักปืนมายิง?
จอย : น่าจะเป็นปัญหาสะสมหรือเปล่า จอยไม่กล้าก้าวล่วงความคิดเขาได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกันแบบนี้ แล้วกลับไปดีกัน เป็นเหตุการณ์วนกลับไปซ้ำๆ ซากๆ พี่โต้งนับถือโกวทรเหมือนเป็นพ่อคนหนึ่ง ทะเลาะกัน คุยกันแรง ด้วยบุคลิกพี่โต้งเป็นคนพูดแรงๆ โผงผาง แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่ใจดีมาก เอาจริง ๆ แกไม่กล้าทำอะไรที่ไม่ดีแน่นอน เพราะจอยเป็นภรรยา จอยรู้นิสัยพี่โต้งดีค่ะ
มีคลิปเสียงนึง พูดว่า 20 ล้าน คือเงินอะไร?
จอย : จอยไม่ทราบเลยค่ะ จอยไม่ได้เข้าไปอยู่ด้วย พี่โต้งไม่ได้เล่าทุกเรื่องให้จอยฟัง
สจ.โต้งจะไปมาหาสู่ที่บ้านหลังนี้ตลอด?
จอย : ใช่ค่ะ
ทำไมสจ.โต้งต้องมีตร.หรือผู้ติดตามคอยขนาบข้างตลอดเวลา?
จอย : จริงๆ ไม่ได้มีตำรวจอะไรเยอะแยะนะคะ ส่วนมากเป็นลูกน้องที่บ้าน ที่ไปเพราะพี่โต้งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเก่า แกก็หวาดกลัว เพราะแกเคยติดคุกมาแล้ว
เคยพูดมั้ยว่าถูกหมายปองชีวิต?
จอย : เคยพูดค่ะ เขารู้ตัวตลอดเวลาค่ะ เขาเคยบอกว่าคนไหนที่หมายปองชีวิตค่ะ
คุณอัจฉริยะบอกว่ามีอีก 2 คนอยู่ในที่เกิดเหตุ ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?
จอย : จริงค่ะ ตร.ทราบค่ะ แต่ไม่ได้เอาตัวมาด้วยค่ะ เป็นผู้ชายสองคนค่ะ สองคนนี้อยู่ในบ้าน ทราบหรือไม่ทราบจอยไม่รู้ แต่อยู่ในบ้านด้วย เหมือนที่พี่อัจฉริยะ นำเรียนไปเบื้องต้น มีการเอาปืนมาจ่อหลังลูกน้องจอยที่จะเข้าไปช่วยพี่โต้งในบ้าน ไม่ให้เข้าค่ะ
กล้องวงจรปิดที่เขาบอกว่าเสีย?
จอย : ถ้าความคิดส่วนตัว จะทำอะไรในบ้านตัวเอง มันจะเสียหรือทำงานได้คะจอยถามไปแบบนี้
อยากเรียกร้องความเป็นธรรมยังไง?
จอย : ก็อยากให้เห็นใจจอยกับลูก ตอนนี้สู้เพียงลำพัง ต้องย้ายคดีมาให้สอบสวนกลางทำ จอยเชื่อว่าประชาชนรู้และเสพข่าวอย่างมีสติอยู่แล้ว การที่เขาให้ข่าวว่าลูกน้องเขาถูกตบหัว มีการแค้นแล้วเอาปืนมายิง ก็ให้ประชาชนคิดเอาค่ะ ว่ามันเป็นไปได้มั้ย พี่โต้งนอนตายในบ้านของเขานะคะ แล้วตอนตายไม่มีอาวุธปืนเข้าไป ไม่มีอะไรเลยสักอย่างค่ะ
กังวลใจมั้ย ตอนนี้เหมือนเปิดหน้าชนคนมีอิทธิพลหนึ่งในประเทศเหมือนกัน?
จอย : จอยคิดว่าความยุติธรรมน่าจะมีค่ะ เราอยู่ภายใต้กฎหมายกันทุกคน จอยเชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ที่กองปราบปราม คงให้ความเมตตาจอยค่ะ
มองยังไง?
ดร.กฤษณพงค์ : ผมว่าตอนนี้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คงเข้ามาดูแล เช่นกองปราบ สอบสวนกลาง น่าจะมารับทำคดีนี้ต่อ เพราะพยานหลักฐานยังสดใหม่อยู่ เพิ่งเกิดเหตุ เรื่องความปลอดภัยต้องมีภาครัฐเข้าไปช่วยดูแล เพราะว่าตอนนี้เหมือนอยู่ตัวคนเดียวแล้ว สูญเสียคนรักไป ฉะนั้นอีกมุมเราถึงจุดระยะเวลาหรือยังของการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย ที่บ้านใหญ่ไม่พอใจใครก็ฆ่ากันแบบนี้ มันสะท้อนว่าเขาไม่เกรงกลัวต่ออำนาจรัฐนะครับ นี่ไม่พูดถึงปลายทางว่าจะมีใครติดคุกบ้างหรือเปล่านะครับ แต่เบื้องต้น มีคนถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว
มองว่าเป็นเหตุที่ไม่น่าเป็นเรื่องเหตุซึ่งหน้าทะเลาะกันระหว่างลูกน้องกับสจ.โต้ง?
ดร.กฤษณพงค์ : ที่สำคัญคนที่ถูกฆ่าเป็นคนใกล้ชิดด้วย นั่นหมายความว่าคนใกล้ชิดถ้าวันนึงคุณเห็นต่าง แล้วไม่ฟัง คุณน่าจะถูกสังหารได้ ผมว่าบ้านเมืองก็อยู่ยากแล้วนะ
ถ้าผมมีลูกบุญธรรม ลูกบุญธรรมไปที่บ้าน แล้วทะเลาะกับลูกน้องผม ลูกน้องผมจะกล้ายิงลูกบุญธรรมเหรอ เอาตรงๆ ไม่ต้องเป็นเจ้าของบ้านหรอก ด้วยบารมีตัวสจ.โต้งเอง ลิ่วล้อหรือลูกน้องพ่อบุญธรรมจะกล้ายิงเหรอ?
พล.ต.ต.วิชัย : เจอก็ต้องยกมือไหว้
ดร.ยุทธพร : เรื่องตรงนี้ ผมว่าพยานหลักฐานสำคัญที่สุด ทั้งเรื่องวิถีกระสุน เรื่องผู้อยู่ในเหตุการณ์แวดล้อม เรื่องนี้เกี่ยวกับ 3 ส่วน ทั้งกฎหมาย ความปลอดภัยของภรรยาสจ.โต้ง และเครือข่ายต่างๆ และเรื่องการเมืองท้องถิ่น ตอนนี้คนกังวลว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง จะมีการล้างแค้นมั้ย หรือสุดท้ายแล้วการเลือกนายกอบจ.ที่ปราจีนจะเป็นยังไงต่อไป จะเดินหน้าได้มั้ย หรือจะจบลงแบบใด เรื่องกฎหมายในคดี ให้ความเป็นธรรมได้มั้ย เป็นสามเรื่องที่เกี่ยวข้อง และแยกไม่ออก
เรื่องนี้ดูทรงแล้วน่าจะไปจบตรงไหน ผมมองว่าโกวทรหลุด?
ดร.กฤษณพงค์ : ประเด็นแรกขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ตร.มี ณ ขณะนี้ แน่นอนการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ร่องรอยกระสุนเข้ากระสุนออก แต่เท่าที่ทราบข้อมูลมา กระสุนมีทั้งเข้าด้านหน้า และด้านหลังนะครับของศพ ต่อมาคือการตรวจคราบเขม่าดินปืน ตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญสามารถดำเนินการได้ ต่อมาข้อจำกัดพยานหลักฐานในบางส่วน เช่นพยานหลักฐานทางเทคโนโลยี กล้องวงจรปิดภายในบ้าน กล้องที่อยู่ภายในจังหวัดที่บอกว่าพร้อมใจเสียกันทั้งหมดเลย ตรงนี้ต้องอาศัยฝ่ายเทคนิคเพื่อไปดูวิธีการกู้ถือหรือเอาเซิร์ฟเวอร์ออกมาว่าสามารถทำได้หรือไม่ ปลายทางจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ณ ขณะนี้ทั้งหมดนี่แหละครับ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคดีที่เป็นการจ้างวาน บงการ หรือสั่งการ ไปไม่ถึงผู้สั่งการ มีข้อมูลที่น่าสนใจ เรื่องร้องเรียนปปช.ที่ผ่านมา หน่วยงานที่พบว่ามีการร้องเรียนที่มากที่สุดในประเทศไทยคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวข้องกับเงินเป็นแสนล้าน การวิจัยของอาจารย์ม.จุฬาฯ หลายสิบปีแล้ว พบว่าหน่วยงานที่ทุจริตมากที่สุดในประเทศไทย คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นี่แค่พูดให้ฟังเฉยๆ นี่คือเหตุผลสำคัญมั้ย ทำไมถึงเป็นที่มาของการฆาตกรรม ซึ่งเรื่องนี้ปปช.ก็แถลงข่าวเอง อย่างที่เรียนว่าเราแย่งกันไปพัฒนาบ้านเมือง ชุมชนให้ดีขึ้น ทำไมต้องฆ่ากัน สุดท้ายต้องไปดูว่าแย่งกันเพื่ออะไร เงิน อำนาจ อิทธิพล ผลประโยชน์และคนคุ้มกัน หลายท่านไปไหนไม่ต้องมีคนคุ้มกัน ไม่ต้องมีมือปืน แต่ทำไมเวลาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ต้องมีคนคุ้มกัน ก็สะท้อนหลายๆ อย่างว่าประเทศไทย ณ ปีปัจจุบัน ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับที่ผ่านมา ตั้งแต่เปลี่ยนการปกครองมา
ดร.ยุทธพร : การที่เราเห็นตัวเลขการทุจริตในท้องถิ่นจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องที่แปลก เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวนเยอะ วันนี้เทศบาล 2 พันกว่าแห่ง อบต. ประมาณ 6 พัน อบจ.70 กว่าแห่ง ยังมีกรุงเทพฯ มีเมืองพัทยา ที่เป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษอีก แต่คราวนี้เมื่อมาเทียบสัดส่วนกับการคอรัปชั่นทั่วประเทศ มันต้องเทียบเป็นร้อยละ ถ้าดูเฉพาะตัวเลขจำนวนคดี แน่นอนมันมากกว่าอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับราชการส่วนกลาง มีกรมอยู่ร้อยกว่ากรมเท่านั้นเอง แต่การเมืองท้องถิ่นจะมีแต่ภาพเลวร้ายทั้งหมดมั้ย มันก็ไม่ได้มีแบบนั้น บางที่ภาพที่ดีมันก็มี แต่วันนี้เราอย่าไปหลงอยู่กับมายาคติ คือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง แต่ถูกทำให้เชื่อว่ามีอยู่จริง เช่นบอกว่าในท้องถิ่นมีแต่เรื่องความรุนแรง มีแต่เรื่องการทุจริตคอรัปชั่น งานวิจัยสัดส่วนคดีท้องถิ่นเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่นจริง มีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ ของสัดส่วนอาชญากรรมทั้งประเทศ ในเรื่องการทุจริตในท้องถิ่นประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ว่าด้วยจำนวนที่มันเยอะ ถามว่ากลไกเราควรต้องมีมั้ยในการตรวจสอบให้โปร่งใส ต้องมี และต้องเข้มข้น และต้องเสริมการตรวจสอบจากภาคสังคมด้วย แต่วันนี้เราจะเห็นว่าประชาชนเขากลัว พอเกิดคดีความ มันไม่มีหลักประกันอะไรในชีวิตให้เขา ว่าเขาจะปลอดภัย
เรื่องนี้พอเกิดขึ้น ทีมงานติดต่อไปหาคนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ไม่มีใครกล้ามาเลย หรือแม้กระทั่งประชาชนในพื้นที่ ไปถามเขา เขาไม่กล้าพูดนะ?
ดร.ยุทธพร : แล้วถามว่าปรากฎการณ์เจ้าพ่อ ย้อนไป 60-70 ปีที่แล้ว มันเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าระบบราชการ หรือกลไกรัฐไม่เอื้ออำนวย พอเกิดคดีความไม่มีหลักประกัน ใครจะไปกล้า แต่คนเป็นพยานหลักฐานก็เงียบไปอีกแบบนึงเหมือนกันนะ นั่นคือการตรวจสอบที่ต้องเพิ่ม ในส่วนที่ทำให้ประชาชนเขารู้สึกถึงมีหลักนิติธรรมคุ้มครองเขา แต่วันนี้พอบอกตรวจสอบแค่การเมืองกับกฎหมาย การเมืองในสภาท้องถิ่นมักเป็นพวกเดียวกับผู้บริหารท้องถิ่น มีอำนาจแฝง ทีมเดียวกัน มีคนเปรียบเทียบนะว่านายกอบจ. เหมือนต้องอุ้มลูกเจี๊ยบเอาไว้ เพราะนั่นคือคะแนนเสียงตัวเอง และเป็นสิ่งที่ทำให้สภาท้องถิ่นตรวจสอบฝ่ายบริหารท้องถิ่นไม่ได้ กลไกรัฐก็ไม่เข้มข้น นี่คือปัญหา
มีคนส่งมาว่าจะให้พูดยังไง จะให้ย้ายบ้านหนีเหรอ?
ดร.กฤษณพงค์ : ตอนรับราชการอยู่กองปราบ ร้อยตำรวจเอก ได้รับมอบหมายอยู่เรื่องนึง ร้องนักการเมืองท้องถิ่น ผมไปกับทีมงานไปหาข้อมูลลงพื้นที่ในจังหวัดนึง ข้อร้องเรียนบอกว่านักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ ฆ่าคนโดยวิธีพิสดาร โยนให้จระเข้กิน เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เราไปถามชาวบ้าน ทุกคนบอกตรงกันว่านักการเมืองคนนี้เป็นคนดี ทั้งที่เราบอกว่าผมมาจากกองปราบ เข้าใจมุมชาวบ้านเพราะส่วนกลางมาเดี๋ยวก็ไป แต่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ ณ ที่ปัจจุบันนี้ เขาย้ายไม่ได้ ตอนนี้เขาก็เป็นนักการเมือง ใหญ่โตระดับชาติแล้ว
ทนายแก้ว : คดีอาญาต้องดูพยานบุคคลเป็นสำคัญ เมื่อไหร่พยานบุคคลหรือประชาชนไม่กล้าชี้ช่องหรือให้ข้อมูล คดีอาญาก็เป็นหมัน ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง มีหลายคดีที่กรณีสืบไปสืบมา ไปๆ มาๆ ศาลก็พิพากษายกฟ้อง เพราะไม่มีประจักษ์พยาน
กรณีชาวบ้านมองว่าสุดท้ายโกวทรต้องหลุดแน่ เพราะโกวทรอยู่ในห้อง เป็นไปได้มั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ผู้มีอิทธิพลคือผู้ทำผิดกฎหมาย มีบารมี สามารถง้างกฎหมายได้ ผู้ทรงอิทธิพล เวลาไปถามอะไรในจังหวัด พวกนี้จะทำแต่ความดี สร้างชื่อเสียง เวลาถูกร้องเรียนอะไร ชาวบ้านจะบอกเป็นคนดีหมด เวลาเราจะเอาผิดนี่ยาก จะหาพยานหลักฐานอันไหนมาผูกมัดผู้ทรงอิทธิพลให้ถูกดำเนินคดีได้ มันถึงยาก อย่างนี้ลูกน้องรับแล้ว ใครจะมายืนยันว่าลูกพี่สั่ง ไม่มี ก็อาจหลุดออโต้ ไม่ได้ชี้ช่อง เพียงแต่จะมีหลักฐานอะไร อย่างปืนที่ยิง ถ้าเป็นชื่อโกวทร เราจะพิสูจน์ได้มั้ยว่าเป็นเขาส่งให้ลูกน้อง หรือวางไว้ที่บ้านใครก็หยิบไปได้ ศาลเชื่อมั้ย ก็ต้องไปพิสูจน์กัน อันนี้คือหลักต้องพิสูจน์ที่ศาล แต่ถามว่าสังคมเชื่อมั้ย ไม่เชื่อหรอก ว่ามีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วยิงกัน ยิงแบบนี้มันต้องแค้น ต้องตาย
ข้อกฎหมาย?
ทนายแก้ว : กรณีนี้ผู้ตายถูกกระทำการให้ตาย กฎหมายตั้งข้อหา 289(6) คือการฆ่าโดยการตระเตรียม โทษมีอย่างเดียวคือประหารชีวิต บุคคลที่เป็นผู้ใช้ กรณีนี้ถ้าสืบขยายผลได้ว่าโกวทรเป็นผู้ใช้ มีหลักฐานต่างๆ นานา ผู้สั่งก็รับโทษเสมือนผู้กระทำการ คือประหารชีวิต กลับมาหลักพิจารณา ศาลต้องพิจารณาโดยปราศจากข้อสงสัย ในกรณีนี้ฝ่ายโกวทรเอง หรือฝ่ายกระทำความผิดให้การขัดแย้งกัน โกวทรบอกว่าอยู่ในห้องนอน ตัวคนยิงบอกว่าตนกระทำเพียงคนเดียว มันต้องดูว่าสืบพยานหลักฐานไปถึงมั้ย ต้องกลับมาดูภาพกล้องวงจรปิด นิติวิทยาศาสตร์ แต่ปรากฏว่าดันเสีย ทั้งจังหวัดก็เสีย ที่บ้านก็เสีย ไม่มีคลิปถ่ายจากกล้องมือถืออะไรเลย จุดนี้เป็นจุดโหว่ ทำให้ศาลพิพากษายกฟ้องได้ เนื่องจากไม่มีพยานบุคคลปากไหนไปเบิกความให้เห็นถึงการสั่งการ แต่กรณีนี้ผิดปกติตรงที่สจ.โต้งเดินทางมาที่บ้าน ใช้เวลาพูดคุยกัน 20 นาที กรณีการพูดคุยกัน 20 นาที ต้องดูว่าตัวโกวทรเกี่ยวมั้ย สิ่งที่สงสัย สจ.โต้ง กลับรถจากองครักษ์มาปราจีน แล้วก็คุยกัน มีการส่งโกวทรเข้าห้องนอน ถามว่าเมื่อแขกมาที่บ้านตัวเองจะเข้าไปห้องนอนเลยมั้ย แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ศาลจะพิพากษาโดยอนุมานเองไม่ได้ ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน
สมมติลูกน้องบอกว่าโกวไม่อยู่ โกวเข้าไปในห้องแล้ว สจ.มาตบหัวก่อนเลยโกรธ โกวไม่รู้เรื่อง ผมก็ยิงเอง ก็ขอโทษโกวด้วยที่ทำให้เดือดร้อน ปืนเป็นปืนผมครับ?
ทนายแก้ว : จากที่ผมรู้เป็นปืนโกวทร บางข้อมูลได้มาบ้าง
พล.ต.ต.วิชัย : ปืนเป็นชื่อโกวทร
ผมเอาไว้ป้องกันตัว เลยไปหยิบมา?
ทนายแก้ว : ทำไมคุณถึงกล้าไปยิงเขาล่ะ
ก็เขาตบหัวผม ผมก็แค้น บันดาลโทสะยิงเขา เขาตกไป ผมก็คิดว่าเขาจะหยิบปืนมายิงผม ผมก็เลยไปซ้ำเขา?
ทนายแก้ว : ทำไมพลิกตัวยิงเหมือนหมูปิ้ง 22 นัดนี่คุณยิงเพราะคุณถูกตบหัวเลยเหรอครับ
มันแค้นครับ โกวเขาไม่เกี่ยว ถ้าบอกอย่างนี้?
ทนายแก้ว : ก็สู้ไป ศาลไม่ได้พิจารณาแค่นี้ ศาลพิจารณาตั้งแต่มีคลิปเสียง มีการพูดคุยกันในรถ มีการขับรถไปพูดคุยกันที่บ้าน เหตุการณ์มันเชื่อมต่อกัน ที่สำคัญการให้การของจำเลยที่รับสารภาพ ต้องเป็นธรรมชาติ ผิดวิสัยปกติของวิญญูชนมั้ยว่าลูกบุญธรรมตบหัว คุณถึงขนาดไปยิงเขาเลยเหรอ
พล.ต.ต.วิชัย : เวลาขึ้นศาล ถ้าผู้ต้องหารับสารภาพ ศาลจะไม่ตัดสินก็ไม่ได้ เพราะมีเหตุการณ์ตายขึ้นมาแล้ว แต่ถ้ามาบอกว่าจะไปเอาผิดคนสั่งการ มันต้องมีพยานหลักฐานในการสั่งการ ใครล่ะที่จะบอกว่าสั่งการ พอตรงนี้ไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน มันก็จะไปไม่ถึง เมื่อหลักฐานไม่ถึง ศาลจะตัดสินยังไง สองกระสุนปืน ถ้าบอกว่าผมวางไว้ที่บ้าน ใครจะเข้ามาก็จะได้ยิงคนร้ายเวลามาลักของ มันก็พูดได้ ถามว่าศาลเชื่อมั้ย คนอื่นก็ไม่เชื่อ แต่ไม่รู้จะทำยังไง
ทนายแก้ว : การพิจารณาคดีอาญาต้องมีพยานบุคคล ถ้าแม่บ้านไม่เบิกความ คนอยู่ในเหตุการณ์ไม่พูด
ถ้าผมเป็นลูกน้อง ผมบอกผมยิงเอง ผมติดคุกดีกว่าเพราะถ้าบอกว่าไม่ใช่โดนสั่งมา ออกมาก็ตายก่อน?
ทนายแก้ว : แต่ก็ต้องไล่บุคคลที่อยู่ข้างนอก ลูกน้องสจ.โต้ง จะได้ยิน มีอากัปกิริยาอะไรหรือเปล่า คิดว่าตร.ต้องไปสอบ เพราะลูกน้องที่ตามมา ด้วยความกุลีกุจอ สจ.โต้งที่เร่งรีบมาที่บ้าน เขายิงเวลากี่โมง
พล.ต.ต.วิชัย : ต้องดูว่าตอนสจ.โต้งจะมาเคลียร์ บ้านที่เกิดเหตุเขารู้หรือยังว่าต้องมาแน่ เขาต้องทำอะไรบ้าง ถ้าผมจะเด็ดชีพ ผมก็ต้องวางแผน ถ้าไม่เด็ดชีพ มาคุยกัน แล้วมีเหตุเฉพาะหน้า มันก็อีกมุมนึงนะสถานที่เกิดเหตุ การยิง นี่ยิงเหมือนด้วยลูกซอง พอตกมาก็มาซ้ำกันที่พื้นอีก
ทนายแก้ว : กระสุนมีหลายประเภทนะครับ ปืนน่าจะมีมากกว่าสองกระบอก
พล.ต.ต.วิชัย : ตอนนี้วัตถุพยานอยู่ที่ปลอกกระสุนปืน ว่าจะเจอปลอกกระสุนปืนกี่ชนิด ถ้าเจอสองชนิดก็ใช้ปืนสองกระบอก ถ้าเกินกว่า 2 ชนิดก็ใช้อาวุธปืนมากกว่านี้ กระสุนปืนฝังในศพมีกี่ชนิด มันก็จะรู้ได้ การยิงในบ้านก็เป็นการประกาศศักดาให้คนเกรงกลัวได้ ถ้าผมโกรธใครผมไม่จ้างคนอื่นไปยิงนะ ผมยิงเอง เพราะไม่มีใครรู้ ใครจะมาซัดผมล่ะ ก็สู้ตัวต่อตัว จะไปจ้างคนให้มาซัดทอดผมทำไม
เสียงปืนกระหน่ำมากเลยนะ?
พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าพูดตรงๆ น่าจะดักยิงหลายกระบอก อันแรกอาจยิงลูกซองแล้วตกลง คนตามาซ้ำก็ซ้ำ แค่ลูกซองก็ตายแล้ว มาจ่อยิงอีก ลูกกระสุนทะลุพื้นหมด
นับดูหลายนัด?
พล.ต.ต.วิชัย : 22 นัด ผมว่าไม่ใช่ปืน 2 กระบอก ต้องเกินกว่า 2 กระบอก ลูกซอง 5 นัดเท่านั้น แม็กกาซีนเต็มที่ 10 กว่านัด 7-8 นัด ผมว่าอย่างน้อยปืนแม็กกาซีนอีก 2 กระบอก
ถ้าจินตนาการ พอสจ.โต้งเดินขึ้นบันไดไป น่าจะซัดก่อนเลย ปั้งๆ แล้วสจ.โต้งตกลงมาหรือวิ่งลงมา ยิงไล่หลัง จนถึงล่างบันได ช่วงที่เงียบน่าจะวิ่งลงไป?
พล.ต.ต.วิชัย : น่าจะยิงจากข้างบน เพราะรอยเลือดกลิ้งลงมา แล้วมารุมซ้ำ เสียงปืนไม่ใช่กระบอกเดียว มากกว่า 3 กระบอก เสียงปืนดังไม่เท่ากัน
ทนายแก้ว : อาวุธปืนทำไมเจอแค่ 3 กระบอก
พล.ต.ต.วิชัย : คนทำความผิด ต้องทำลายหลักฐานก่อน
ดูทรงแล้ว แสดงว่าที่ฝั่งภรรยาสจ.โต้ง บอกว่าเขารู้ตัวอยู่แล้วว่าโดนหมายหัว?
พล.ต.ต.วิชัย : เพื่อนผมก็บอก วงการมวย เขาก็ไปบ่นๆ กับเพื่อนผม เขาเครียดอยู่ทุกวัน เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าถูกหมายปอง แสดงว่ามีคนส่งข่าวเขา ต้องยอมรับว่าสจ.ส่วนใหญ่ในปราจีน เขารักสจ.โต้งนะ เพราะมีน้ำใจ ข่าวเขาก็ต้องรู้
ต่อสายหา “พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช” รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี มีความหนักใจมั้ยคดีนี้?
พ.ต.อ.ประสงค์ : เท่าที่พูดคุยในที่ประชุม ผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและหลักวิทยาศาสตร์ ที่จะเอาผิดในครั้งนี้ครับ
กำลังเดาว่าปืนมีกี่กระบอก ฝั่งท่านทราบข้อมูลยังไงบ้าง?
พ.ต.อ.ประสงค์ : พอเข้าไปเราเจอผู้ต้องหาทั้ง 7 คนอยู่ในบริเวณนั้นทั้งหมด ปืนที่ใช้ยิงตามที่สื่อทราบมีสองกระบอก มีปืนพกสั้นออโตเมติกกระบอกนึง แล้วก็อาวุธปืนยาว คือเดย่า 1 กระบอก ปืนลูกซอง เราได้ดำเนินการตรวจยึดในบ้านอย่างเดียวอีก 6 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก ตอนนี้กำลังติดตามพยานต่างๆ เรื่องพยานบุคคลที่อยู่ภายนอกด้วย กระสุนปืนทั้งหมดที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ เราก็ต้องเอาปลอกกระสุนทั้งหมดมาตรวจสอบว่าเป็นกระสุนปืนชนิดใด ออกมาจากกี่กระบอก และติดตามพยานมาดำเนินการ
ผู้ต้องหา 2 ใน 7 เขายืนยันว่าเขาก่อเหตุเอง เนื่องจากโกรธเคือง เพราะถูกตบหัว?
พ.ต.อ.ประสงค์ : เบื้องต้นตัวเขาเองพูดแบบนี้ แต่โดยหลักการ เราก็ไม่ได้ว่าจะไปปักใจเชื่อตามที่เขาให้การทั้งหมด ทุกอย่างต้องอยู่บนหลักฐานวิทยาศาสตร์ จริงๆ มันบอกได้หลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องจุดยืน สภาพศพ รอยกระสุนเป็นอย่างไร วิถีกระสุน ปลอกกระสุน เขม่าดินปืนอยู่กับใคร ตรงนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์เรื่องกระทำความผิดได้แน่นอนครับ
กล้องวงจรปิด บอกว่าเสีย มีการพูดว่าเสียทั้งจังหวัดด้วยซ้ำไป มองยังไง?
พ.ต.อ.ประสงค์ : ตั้งแต่คืนแรกที่เกิดเหตุ แล้วเราเข้าไป ก็มอบหน้าที่ให้สืบจังหวัดปราจีนบุรี และสืบภาคสองดำเนินการตามกล้อง กล้องในบ้าน กล้องบริเวณถนน ตามที่ต่างๆ ตอนนี้ได้เก็บเซิร์ฟเวอร์มาเรียบร้อย อยู่ระหว่างหาพิสูจน์หลักฐาน กู้คืนหรือติดตามต่างๆ ไม่ใช่ว่าเราจะอาศัยกล้องอย่างเดียว เรื่องพยานบุคคล เรื่องหลักวิทยาศาสตร์ต่างๆ เราดำเนินทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ผู้กระทำความผิดรอดไปได้
จากคำบอกกล่าวหรือสอบปากคำของท่านกับ 7 ผู้ต้องหา เขาบอกว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในคืนนั้น?
พ.ต.อ.ประสงค์ : คำให้การเบื้องต้น กอล์ฟกับตูน เขายอมรับว่าเขามีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน มาเจอกัน แล้วมาตบหัวอีกที ก็เลยใช้อาวุธปืนยิง ส่วนที่เหลือ 5 คนรวมถึงนายสุนทรด้วย ก็ปฏิเสธก่อนในเบื้องต้น แต่เรามีการใช้พยาน ไม่ว่าจะพยานแวดล้อม พยานตำรวจที่เข้าในที่เกิดเหตุ พยานนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเอาผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ต.วิชัย : พบปลอกกระสุนปืนกี่ชนิด
พ.ต.อ.ประสงค์ : ตอนนี้อยู่ในสำนวนสอบสวนครับ
ทนายแก้ว : ไม่ทราบว่าปืนตรวจสอบแล้ว ใครเป็นเจ้าของครับ
พ.ต.อ.ประสงค์ : ปืนสั้นตามทะเบียนเป็นของกอล์ฟครับ ปืนลูกซอง เป็นของโกวทรครับ
วันนั้นมีเหตุอะไร ทำให้สจ.โต้งต้องเดินทางไปที่บ้านหลังนี้?
พ.ต.อ.ประสงค์ : เขาน่าจะมีการพูดคุยปรับความเข้าใจกัน มาคุยกันในส่วนที่ยังต้องการเคลียร์กัน ว่าจะเป็นอย่างไร เอาจริงๆ ที่กระจายตามคลิปเสียงเบื้องต้น สจ.จอยก็บอกแล้วว่าคลิปเสียงเป็นสจ.โต้งแน่นอน เรื่องคลิปเสียงเราเอามาถอดหมด เราไม่ทิ้งประเด็นแน่นอน แล้วต้องมาดูว่าใครพูดอะไรอย่างไร ประเด็นอย่างไร มันก็จะบ่งบอกถึงแรงจูงใจ เจตนาที่มาเคลียร์กัน คุยกันอย่างไร รวมถึงประเด็นเงินด้วย เป็นเงินอะไร
ทนายแก้ว : กอล์ฟกับตูนตั้งข้อหาฆ่าโดยการตระเตรียมมั้ย
พ.ต.อ.ประสงค์ : ตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาครับ
ช่วงเช้าทงพี่อ้อ อัครเดชบอกว่ามั่นใจว่าเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น ท่านมองยังไง?
พ.ต.อ.ประสงค์ : เบื้องต้นตั้งข้อสันนิษฐาน 3 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องการเมืองท้องถิ่น สองสาเหตุโกรธเคืองมาก่อนหน้านั้น สามคือเหตุซึ่งหน้า มันอาจเป็นไปได้ แต่ก็ยังต้องเก็บประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นการเมืองท้องถิ่น เพราะมันมีบุคคลอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ตรงนี้เราต้องสอบให้หมดครับ
ไม่ได้หนักใจหนึ่งใน 7 ก็เป็นเบอร์หนึ่งปราจีนฯ เป็นผู้กว้างขวาง กังวลใจมั้ย?
พ.ต.อ.ประสงค์ : ผมเชื่อมั่นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาคสอง ข้าราชการ ตร.ทั้งประเทศ ผมว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และผมก็ยังเชื่อเรื่องหลักวิทยาศาสตร์ว่าจะสามารถเอาผิดผู้กระทำผิดได้ครับ
เรื่องปลอกกระสุนปืน ท่านก็แพลมมาหน่อยนึงว่ามีหลากหลาย?
พล.ต.ต.วิชัย : เพราะเสียงปืนมันไม่เท่ากัน ถ้าปืนชนิดเดียวกันมันจะเท่ากัน แต่นี่เสียงดังไม่เหมือนกัน กระสุนปืนขนาดไม่เท่ากัน เมื่อขนาดไม่เท่ากัน เสียงก็ไม่เท่ากัน ความแรงก็ไม่เท่ากัน ฟังมาแล้วแสดงว่าคนละชนิด เผลอๆ ยิงคนละจุดก็มี เผลอๆ ยิงมาจากข้างนอกด้วย เพราะมีเสียงแผ่วหลังสุด ต้องตรวจรอยเขม่าดินปืน
มีบทสัมภาษณ์ที่ฝั่งสจ.จอย ภรรยาสจ.โต้งสัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้กับสื่อ เธอพูดคำนึงน่าคิด ฟังแล้วสะอึก คือเขาถามนักข่าวกลับไปว่าถ้าพี่เลี้ยงหมา แล้วพี่รักหมาตัวนี้ พี่จะซื้อยาเบื่อมาให้หมามั้ยล่ะ ยกเว้นพี่ไม่รักมันแล้ว พี่ถึงฆ่ามันได้?
ทนายแก้ว : เจ็บพี่
พล.ต.ต.วิชัย : เหมือนเขารู้อยู่แล้วว่าเขาถูกปองร้าย เมียเขาก็บอกว่าสจ.โต้งเคยบอกว่าถูกปองร้าย คำนี้จะเป็นเรื่องของหมาแบบที่เขาพูดหรือเปล่า
จะต่างอะไรกับคดีกำนันนก นั่งอยู่กินเลี้ยงตร. มีวิวาทะ ทำให้กำนันนกไม่พอใจ ลูกน้องยิงเสียชีวิต กรณีนี้ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์อะไรเลย ต่างกันมั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ไม่ได้ยกว่าเป็นโกวทรแล้วกัน มันคล้ายกัน เวลาวิเคราะห์ ผมวิเคราะห์เรื่องกฎหมายเพื่อให้ความรู้ ผมมองว่างานนี้เหมือนมีการตระเตรียมกันหรือเปล่า ถึงได้มากระทำแบบนี้ คนถ้าไม่ตระเตรียมการ คงไม่ทำในบ้านหรอก การทำในบ้านต้องตระเตรียมการ ทำอะไรหลายอย่าง กว่าตร.จะเข้าไป คุณทำลายพยานหลักฐานหรือเปล่า เดี๋ยวตร.ต้องสอบสวนหมด การทำลายหลักฐานก็ดูเจตนาย้อนหลังได้ว่าคุณทำอะไร
มองว่าต่าง คดีกำนันนก อยู่ในพื้นที่เปิด ทำให้สาธารณชนหรือตร.ในงานเห็นเหตุการณ์ว่ามีการสั่งการทางไหน แต่อันนี้เกิดในพื้นที่ปิด เหมือนอยู่ในถ้ำ ใครจะกล้าออกมาพูดว่าเจ้าถ้ำพยักหน้า?
ทนายแก้ว : ตรงนี้คืองานยากของตร. เมื่อคนยิงบอกว่าเขายิงเพราะบันดาลโทสะ ถูกตบหัว ไม่เหมือนคดีกำนันนก ตร.ต้องเริ่มต้นจากพยานบุคคลที่เห็นว่ามีการสั่งการ
พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าสอบสวนได้ว่าโกวทรเอาปืนให้ไปนี่ถือว่าร่วมแล้วนะ
ทนายแก้ว : ต้องดูว่าปืนที่เป็นชื่อโกวทรถูกเก็บไว้ที่ไหน ถ้าถูกเก็บไว้ในห้องนอน ก็ผิดปกติ
คนบอกไทม์ไลน์และช่วงเวลาได้ดีที่สุด คือคนที่ไปกับสจ.โต้ง ว่าเข้าไปกี่โมง เหตุเกิดกี่โมง ถ้าไม่นานอนุมานได้ว่าปืนอยู่ตรงไหน ใช้เวลาหยิบปืนกี่นาที หรือปืนถืออยู่แล้ว
มันจะไล่สเต็ปแบบนี้เลย?
พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าคนเข้าไปกับสจ.โต้งบอกว่าไปแล้วได้ยินเสียงปืนเลย ก็แสดงว่าไม่ได้พูดคุยกันแล้ว
ทนายแก้ว : ก็หมายถึงตระเตรียมกันแล้ว
ลูกสาวคุณสุนทร คือคุณกนกวรรณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขารักกันเหมือนพ่อลูก จะเป็นไปได้ยังไง โกวทรจะไปสั่งแบบนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะอยู่กันมานาน?
พล.ต.ต.วิชัย : แต่ถ้าฟังจากคลิปเสียง มันต่างจากที่คุณกนกวรรณพูด ฟังกันลึกๆ ถ้าวงการนักเลง อยู่กันไม่ได้นะ แสดงว่าไม่ไว้ใจกันแล้ว มันหยามกันแล้ว
20 ล้านคืออะไร ในคลิปเสียง คุยกัน 3 คน อีกคนคือใคร?
พล.ต.ต.วิชัย : อดีตทหารนอกราชการ เทปที่บอกว่าเดี๋ยวจะกลับไปเลย อาจไม่ใช่เทปนี้ เทปนี้เท่าที่รู้มา ประมาณอาทิตย์นึงแล้วที่เถียงกัน ไม่ใช่วันเกิดเหตุ ที่เถียงในโทรศัพท์อาจตัวต่อตัว แล้วทำให้กลับรถกลับไป เสียงโทรศัพท์ที่พูด ไม่ได้เป็นการขัดแย้งในตัว เหมือนการตัดพ้อ ที่สจ.โต้งตัดพ้อพ่อว่าทำอะไรให้ทุกอย่าง สาเหตุจริงๆ ผมว่าเป็นเรื่องการเมือง ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างเดียว
อีกแป๊บจะเป็นการพลิกโกรธที่ด่านาย ก็เลยซัดซะ ตอนนี้เบอร์สองไม่อยู่แล้ว ที่ปราจีนฯ?
พล.ต.ต.วิชัย : ผมว่าเขาไม่ปล่อยมือ เพราะถ้าปล่อยมือวิลาวัลย์จะหมดเลย หนึ่งน้องสาวก็ลงไม่ได้ ลูกสาวก็ลงไม่ได้ ตัวท่านก็ไม่ไหวแล้ว ก็จะมีหลาน หรืออีกบ้านนึง แต่ไม่ส่งคนอื่นแน่นอน วิลาวัลย์ต้องสู้เพื่อเอาวิลาวัลย์อยู่กับปราจีนฯ ยังมีลูกหลาน น้องชายลูกพี่สาวเขาก็ยังอยู่