ปธ.กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯ หารือเครือข่ายทางการศึกษา ร่วมแก้ปัญหาการศึกษาเชิงพื้นที่ จากปัญหาคุณภาพการศึกษาลดลง จำนวนนักเรียนลดลง พร้อมจัดตั้ง “ศูนย์รักศรัทธาตูมใหญ่ พัฒนา การศึกษาแบบบูรณาการ” ให้ทุกภาคการศึกษา มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาดังกล่าว
วันที่ 13 ธ.ค.67 นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการในการแก้ปัญหาการศึกษาเชิงพื้นที่ กับเครือข่ายทางการศึกษา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ประกอบด้วย ดร.ภัทรวรรธน์ นิลแก้วบวรวิชญ์ ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ นายปิยวิทย์ เชิดกลิ่น ผู้อำนวยการ สกร.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ นายประสิทธิ์ พิเศษ ผู้อำนวยการ สพป.บร. 4 นายศุภชัย ภาสกานนท์ รอง ผอ.สพม.บุรีรัมย์ ผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ตำบลตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งทางภาคท้องถิ่น ได้แก่ นายชาตรี ศรีตะวัน นายกองค์การบริหารส่วนตูมใหญ่ นายบุญสังข์ ทินปราณี กำนันตำบลตูมใหญ่ นายบุญมี ดีรื่นรัมย์ ประธานสภา อบต.ตูมใหญ่ พันจ่าตรีรุ่งนาวี ภูชุม ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลตูมใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนตำบลตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาคุณภาพการศึกษาลดลง จำนวนนักเรียนลดลง มีสถานศึกษาขนาดเล็กมากขึ้น รวมทั้งปัญหาในมิติของสังคม เช่น การเป็นพลเมืองดี และปลอดยาเสพติด ทั้งนี้ ได้ดำเนินการแบ่งกลุ่มย่อยในระดมความคิดเห็นเพื่อค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหา ได้แก่ กลุ่มด้านนโยบาย ระเบียบ การใช้ทรัพยากรร่วมกัน กลุ่มครูและผู้บริหารในการใช้ทรัพยากรที่มีในพื้นที่ และกลุ่มเอกชน ท้องถิ่นและชุมชน ในการระดมทรัพยากร
สรุปได้ใช้แนวทางในการแก้ปัญหา คือ จัดตั้ง “ศูนย์รักศรัทธาตูมใหญ่ พัฒนา การศึกษาแบบบูรณาการ” โดยให้มีคณะกรรมการที่มีทุกภาคการศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีแนวทางการดำเนินงานผ่านกิจกรรม ดังต่อไปนี้ 1) ให้มีครูที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เดินสอน 2) มีศูนย์ออนไลน์สำหรับการเรียนรู้ โดยมีการออนไลน์ในเนื้อหาปกติและครูติวเตอร์ออนไลน์ บริหารโดยคณะกรรมการศูนย์ฯ 3) การรับนักเรียนมาเรียนรวม (School Partner) 4) เปลี่ยนบทบาทโรงเรียนเป็น “ศูนย์วิชาการ” ที่โรงเรียนนอกจากจะเป็นสถานศึกษาให้กับเด็กแล้ว ยังต้องเป็นศูนย์วิชาการแหล่งเรียนรู้ของชุมชน 5) มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ รวมทั้งมีรถรับส่ง และ 6) การสร้างขวัญกำลังใจให้กับครู บุคลากรทางการศึกษา ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ยกระดับคุณภาพการศึกษาในกลุ่มโรงเรียนให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมโดยใช้นวัตกรรมและทรัพยากรร่วมกัน โดยในเบื้องต้นทางภาคเอกชน โดยมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ได้บริจาคงบประมาณจำนวน 100,000 บาท ในการตั้งต้นและท้องถิ่นได้จัดสรรงบสนับสนุน 5,000,000 บาท โดยจะมีคณะกรรมการกองทุนคอยควบคุมดูแล ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงาน
นายโสภณ กล่าวว่า การแก้ปัญหาการศึกษาในชนบทเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพราะปัญหาสังคมรุมเร้าอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ เด็กไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง ขาดความอบอุ่น เกิดปัญหายาเสพติด และโรงเรียนมีอัตรากำลังไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องให้ภาคประชาชนและองค์กรปกครองท้องถิ่นช่วยทำงานกับข้าราชการแบบบูรณาการกันมากขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ได้