วันที่ 13 ธ.ค.2567 ที่หัวหิน นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาของพรรคเพื่อไทยที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้ โครงการเสริมสร้างศักยภาพสส.และบุคคลทางการเมือง ว่า วันนี้ตนขอรีแคปตอนที่ตนเป็นสมาชิกใหม่ ๆ ของพรรคเพื่อไทยได้รับการต้อนรับจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี ตนเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยความยินดี และสบายใจ และก่อนที่จะตอบรับมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย การตัดสินใจนั้นลังเลพอสมควร ซึ่งได้คุยกับหลายคน และคนสุดท้ายที่ได้คุย คือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แต่ที่กลัวมากที่สุดคือ เรื่องของการปราศรัย แต่นายณัฐวุฒิก็ได้ให้คำแนะนำว่า ขึ้นเวทีแล้วโบกมือยิ้ม ๆ ก็พอ และเวทีแรกที่จังหวัดพิจิตรก็ขาสั่น แต่ตอนนี้ก็พัฒนามาเรื่อย ๆ ซึ่งขณะนั้นนายกฯ แพทองธารก็ท้องอยู่ ซึ่งได้มีการพูดคุย และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

และมีหลายช่วงที่ระหว่างการหาเสียงที่ นายกฯ แพทองธาร รู้สึกหายใจไม่ออก ซึ่งตนไม่เคยท้อง ก็รู้สึกแพนิกไปด้วย และเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ที่ขอเรียกว่า เป็นความกดดันที่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องใช้ความเสียสละ และความทุ่มเทไม่น้อย และระหว่างที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับนายกฯ แพทองธาร ในฐานะของหัวหน้าพรรค ขอความร่วมมือช่วยให้กำลังใจ และช่วยประสาน และพูดคุยกับ สส.ในพรรค ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งมาเป็นนายกฯ แล้ว ทำให้รู้ว่าหลายเรื่องไม่ง่าย เพราะเรามีแค่ 141 จาก 500 เสียง แม้หลายเรื่องจะเกิดขึ้นช้า แต่เชื่อว่าเราได้พัฒนา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความตั้งใจจริงของรัฐบาล



"วันนี้ตนดีใจที่ได้รับการซัพพอร์ตจากทุกคน จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่ง และวันแรกที่พ้นจากตำแหน่ง ตื่นเช้ามา ก็รู้สึกงง ๆ นิดหน่อยว่าจะไปไหนดี แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ไหลลื่นไปตามที่ตนเองจะต้องทำ โดยได้เชิญรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะส่วนของพรรคเพื่อไทย มาพูดคุยเพื่อส่งมอบงาน หลังจากนั้นผมอดีตได้เดินทางไปต่างประเทศ" อดีตนายกฯ กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าสื่อมวลชนหลายสำนักอยากพูดคุยด้วย และแม้ตนจะรักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง และซัพพอร์ตกันมาโดยตลอด แต่ตนคิดว่า เมื่อพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว ได้นายกฯ คนใหม่มาแล้ว แม้รัฐมนตรียังเป็นหน้าเก่า แต่สไตล์การทำงาน หลักการคิด และนโยบายที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามนายกฯ คนใหม่ ก็ต้องให้เกียรตินายกฯ คนใหม่ การที่ตนจะมาพูดหรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหรือให้คำแนะนำตนก็มองว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่ระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเชื่อว่า นายกฯได้ตั้งไข่อย่างสมบูรณ์ และได้รับการซัพพอร์ตอย่างดีพอสมควรจาก สส.ทุกคน และนำพารัฐบาลที่มีพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต้องยอมรับว่า เหนื่อยพอสมควร แต่เชื่อว่า ก็สามารถบริหารจัดการได้ดีพอสมควร

วันนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ที่ต้องช่วยเหลือกัน ช่วยปกป้อง เพราะช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่า มีการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลของเรา ซึ่งตนอยู่ตรงนี้ตนก็ทราบดีว่ารัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่ และตัวนายกฯ ก็เสียสละทำอย่างงานเต็มที่ ตนถือว่า ช่วงเวลานี้คือ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่พวกเราต้องช่วยกันซัพพอร์ตนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัว หรือการพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ถึงนโยบายที่ดีที่นายกฯ ได้ทำอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้มีการแถลง และยังมีนโยบายอีกมากมายที่ตามมา

ขณะที่แบงก์ชาติเองก็ ให้ความร่วมมือที่ดี และดีกว่าตอนสมัยที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงตรงนี้ ทำให้ สส.ในห้องถึงกับหัวเราะ ก่อนที่นายเศรษฐาจะกล่าวต่อว่า เพราะนายกรัฐมนตรีเก่งกว่าตนเยอะ และเรื่องเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันถือว่า มีความเหมาะสมที่สุด ที่จะอยู่ตรงนี้ และสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการซัพพอร์ตจาก สส.ทุกคน แต่แน่นอนว่า 141 เสียงจาก 500 เสียงเป็นเรื่องที่ล่อแหลมมาก แต่เราทำได้เยอะขนาดนี้คือว่านายกฯเก่งมากแล้ว แต่หลายเรื่อง ที่เรายังได้รับความร่วมมือมากขึ้น เราได้มา 141 เสียง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสบายใจ เพราะตำแหน่งก็มีน้อย จึงต้องมีการสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนกันไป และตนเชื่อว่ากรรมการบริการพรรคก็ดูแลสมาชิก และสส.เป็นอย่างดี จึงขอให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้กับนายกฯ แพทองธาร

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ตนเคยยกตัวอย่างว่า มีบ้านอยู่หนึ่งหลัง ที่มีสนามหญ้าเขียวกว่าบ้านเรา ก็อยากอยู่บ้านหลังนั้น แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ภายใต้หญ้าสีเขียวนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ แต่ตนเชื่อภายใต้บ้านหลังนี้ แม้จะมีหลุม มีบ่อ แต่เราจะมาช่วยกันอุด มาช่วยกันปิด สร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรง ให้น่าอยู่ขึ้น ตนในฐานะคนนอกที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ 2 ปีเต็ม ตนมั่นใจว่า นี่เป็นสถาบันการเมืองพรรคที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย ดูได้จากการที่เราขึ้นรถไฟมาด้วยกัน สมาชิกทุกท่านมากันหมด มีความสนุกสนาน มีเสียงหัวเราะ

ตนเชื่อว่า ไม่มีพรรคเหมือน แม้ตนไม่เคยอยู่พรรคอื่น แต่ตนก็กล้าพูด และวันนี้นายกฯ ทักษิณก็กลับมาแล้ว มาช่วยเราคิดเรื่องของนโยบาย และคนรุ่นใหม่ก็เติบโตขึ้น ส่วนตนเองของหัวใจเพื่อไทย 100% ย้ำหน้าที่ชัดเจนวันนี้คือ ซัพพอร์ตนายกฯแพทองธาร ไม่ไปไหน