วันที่ 13 ธันวาคม 2567 นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเปิดการสัมมนาให้ความรู้สื่อมวลชนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง การสืบสวนสอบสวน และการมีส่วนร่วมในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบ เข้าใจ และออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสื่อสารส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของ กกต.

นายสันทัด กล่าวว่า หวังให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร และให้ความรู้กระบวนการเลือกตั้งที่ถูกต้อง รวดเร็ว ในการเลือกตั้งสมาชิก และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่หมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ และจะมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่ง กกต. กำหนดให้เลือกวันที่ 1 ก.พ.68

นายสันทัด กล่าวยืนยันถึงการที่ กกต. กำหนดให้จัดการเลือกตั้ง ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าการจัดการเลือกตั้งเมื่อครบวาระ จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งวันสุดท้ายคือ 2 ก.พ. แต่เมื่อกฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน กกต. จึงได้ประชุมและพิจารณา กำหนดให้วันที่ 1 ก.พ. เป็นวันเลือกตั้ง เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยภายใน 45 วัน จะครอบคลุมถึงแผนกำหนดการเลือกตั้ง คือการรับสมัครการวินิจฉัยคุณสมบัติ การจัดสรรบุคลากร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเปิดการสัมมนานายสันทัด ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีมีการยิงกันจากการเลือกตั้งในสนามท้องถิ่น โดยระบุว่า มอบหมายให้เลขาฯ กกต. เป็นคนตอบคำถาม

เมื่อถามย้ำว่า การเริ่มต้นแบบนี้น่าหนักใจหรือไม่ นายสันทัด ตอบเพียงสั้นๆ ว่า เป็นหน้าที่ของทางราชการ

ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการจัดเลือกตั้งตอนหนึ่ง ว่า หลังจากการเลือกตั้ง อบจ. ไม่กี่เดือนจากนั้นจะมีการเลือกตั้งเทศบาล 5 พันกว่าแห่ง ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความแปลกประหลาดเนื่องจากเป็นเหตุผลทางกฎหมายมากกว่าเหตุผลทางการเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ให้พรรค การเมืองระดับชาติส่งผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งได้ กรณีพี่ก่อนหน้านี้นายก อบจ.29 จังหวัดลาออก หมายความว่าในจังหวัดดังกล่าวมีการเลือกตั้ง 2 ครั้ง คือมีการเลือกนายกอบจ.ไปแล้วและจะมีการเลือกสมาชิกอบจ. ในวันที่ 1 ก.พ.68 โดยที่เลือกนายกอบจ.ไปมีการประกาศผลไปแล้ว 20 จังหวัด และเตรียมที่จะประกาศผลอีก 5 จังหวัด และอีก  4  จังหวัดเตรียมเลือกตั้งใน   2 สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ การเลือกตั้ง 2 ครั้งนอกจากทำให้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น บางครั้งยังจะกระทบกับการบริหารของ อบจ. โดยเฉพาะ 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และ ตาก ที่กำลังจะเลือกตั้งกระทบแน่นอน เนื่องจากการเลือก นายก อบจ. เสร็จสิ้น สภา อบจ. ครบวาระไปแล้วนายก อบจ.ไม่สามารถที่จะมีการแถลงนโยบายเข้าทำหน้าที่ได้ ตอนนี้เหลือให้เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน 76 จังหวัด   และการเลือกตั้ง นายก อบจ.47 จังหวัด แต่ในช่วงนี้ยังพบว่ามีการลาออกของนายกและสมาชิกอบจ.ซึ่งแม้กฎหมายจะกำหนดกรอบว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งในกรณีตำแหน่งว่างลงภายใน 60 วัน แต่กกต.เห็นว่าเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและประหยัดงบประมาณจึงจะจัดการเลือกตั้งไปพร้อมกับการเลือกตั้งกรณีครบวาระคือเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.68 ส่วนบัตรเลือกตั้งได้ออกแบบบัตรเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งหมด 8 สี ภูมิภาค 2 สี อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์เพื่อป้องกันการทุจริต

“กกต. คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะออกไปใช้สิทธิ์น้อย  แต่เชื่อว่าจะมากกว่าร้อยละ 50    ตั้งเป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 65-70 จึงหวังที่จะได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในความตั้งใจของ กกต. คือการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ซึ่งที่ผ่านมา 29 จังหวัดก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งมีน้อยมาก ต้องจับตาในวันที่ 1 ก.พ.สถานการณ์จะเป็นอย่างไร” นายแสวง กล่าว

นายแสวง กล่าวว่า การออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชนเป็นความชอบธรรมที่จะได้เสียงข้างมากจากประชาชนในพื้นที่เข้าไปบริหาร  การเลือกตั้งคือความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง หากการเลือกตั้งล้มเหลว เชื่อว่าคนที่ได้รับการเลือกตั้งก็จะไม่ได้รับความชอบธรรมเข้าไปในบริหารบ้านเมือง หรือเป็นตัวแทนของประชาชน