สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*…

บุญคุณความแค้นเลือกตั้งท้องถิ่นเดือดถึงเลือด “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ สังเวยชีวิตคาบ้านของ “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ กับพวก ...*...

ส่วน “พ่อใหญ่ทักษิณ” ตีตั๋วโกทูอุบลราชธานี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.อุบลราชธานี ให้กับ กานต์ กัลป์ตินันท์ น้องชายของ เกรียง กัลป์ตินันท์ อดีตรมช.มหาดไทย สู้กับบ้านใหญ่ “มาดามกบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโศล ที่ลงสมัครในนามอิสระ แม้คนการเมืองจะรู้นี่เป็น การสู้กันของ “เพื่อไทยทั้งคู่”...*...

งานนี้ต้องถาม “พ่อใหญ่ทักษิณ” ว่าเลือกข้างแล้วใช่หรือไม่  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “กำนันป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุปกิจโกศล หรือเสี่ยแป้งมันพันล้าน ก็ออกอาการไม่แฮปปี้ที่ลูกสาวคือ “รมต.ปุ๋ง” สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล โดนลดชั้นจากรมว.ท่องเที่ยวฯไปเป็นรมว.วัฒนธรรม และเตรียมจะไปซบพรรคใหม่...*...

งานนี้ จึงกลายเป็นศึก “บ้านใหญ่ชนบ้านใหญ่” ทำให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครจากพรรคประชาชน ที่ส่ง สิทธิพล เลาหะวนิช ลงแข่งจะมีโอกาสเป็น “ตาอยู่” คว้าพุงปลา หลัง “ตาอิน” กับ “ตานา” ตีกันเอง แต่ “พิธา” ต้องไม่ลืมว่า กระแสการเมืองภาพใหญ่ ลงมาเล่นที่นี่ลำบาก ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะเซียนการเมืองจะแทงหวยที่ ตาอินกับตานามากกว่าตาอยู่...*...

ส่วน พ่อใหญ่ทักษิณ ตัดสินใจขึ้นปราศรัยที่อุบลราชธานี บอกเป็นหนี้บุญคุณชาวอีสาน ที่ไม่เคยลืมกัน พรรคเพื่อไทยเป็นแชมป์สส.อีสานมาตั้งแต่ไทยรักไทย ซึ่งอุลราชธานีเคยได้สส.เกือบทั้งจังหวัด...*...

หลังโปรงาน 3 เดือนแล้ว เป็นยังไงบ้าง ศรพระราม ปั่นต้นฉบับก่อน ไม่ได้ฟัง “นายกฯอิงค์” แพทองธาร ชินวัตร แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”  แต่เชื่อว่าน่าจะมีความคืบหน้าเรื่องเงินหมื่นเฟส 2-3  และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ก็อถือว่าเป็นการวางจังหวะไทม์ไลน์ ที่ไม่บังเอิญ ไปตรงวันแรกของการเปิดประชุมสภาฯ ส่วนจะสามรถ “ตรึง” ประชาชนให้โฟกัสที่นโยบายของรัฐบาลได้มากน้อยแค่ไหน ที่จะเป็น “ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก”ค้ำยันเก้าอี้นายกฯ ที่ต้องเผชิญกับคมหอกคมดาบของนิติสงครามและม็อบลงถนน...*...

ส่วนจะเป็นนายกฯคนแรกของ ตระกูลชินวัตร ที่ราดจากรัฐประหารหรือไม่ อย่างที่ผู้สื่อข่าวไปถามนายกฯ ศรพระราม เชื่อว่า ยุคนี้ สมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องทำรัฐประหาร ก็สามารถเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ด้วยกลไกอื่น โดยพาะให้ดูสัยญาณที่คดีความส่วนตัวของ “พ่อใหญ่ทักษิณ” เป็นหลัก เดือนเครื่องประหารเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ในทางกลับกันถ้าอยู่รอดปลอดภัยก็อยู่กับ “นายกฯอิงค์” ไปจนครบวาระ …*…

ที่มา:ศรพระราม (13/12/67)