วันที่ 13 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าทางคดีร่วมกันฆ่า สจ.โต้ง ที่สภ.เมืองปราจีนบุรี โดยได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ เพิ่มเติม พร้อมกับ ตำรวจภูธรภาค 2 และ ตำรวจสอบสวนกลาง  

โดย พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า วันนี้ได้รับคำสั่งจาก ผบ.ตร.ให้มากำกับดูแลควบคุมการปฏิบัติ และสืบสวนสอบสวนรวมรวมพยานหลักฐาน โดยมี กองบังคับกานปราบมาร่วมคณะและจะมีการประชุมร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค2 โดยต้องไปดูที่เกิดเหตุก่อนว่ามีสภาพอย่างไร เพื่อสั่งการที่จะต้องกำชับคดี ในการรวมรวบพยานหลักฐายประกอบสำนวน ส่วนกรณีมีเรื่องของการบงการหรือไม่นั้น ทุกอย่างอยู่ในเรื่องของสำนวนการสอบสวน ที่วางไว้ว่าจะตรวจสอบอย่างไรบ้าง ผู้ตายเข้าที่เกิดเหตุอย่างไร จะมีการทำไทม์ไลน์เพื่อพิสูจน์ทราบ และผู้ต้องหาทั้ง 7รายได้มาอยู่ในที่เกิดเหตุ และพูดคุยวางแผนมาก่อนหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้จะมีการวางแผนหรือไม่นั้น ต้องดูพยานหลักฐาน และมาตรวจสอบว่าการก่อเหตุครั้งนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งประเด็นเบื้องต้นที่ทราบอยู่แล้วคือ เป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น ซึ่งผู้ตายและกลุ่มผู้ก่อเหตุก็เป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน พอในระยะหลังที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากวาดล้างและสลายกลุ่มไป กลุ่มก็แตกแยกออกกไป ทำให้ยังมีเรื่องคาใจหลายเรื่องในการช่วยไม่ช่วยของการสนับสนุน จนมาถึงการแข่งขันการเมืองท้องถิ่นที่ตะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และสุดท้ายจะต้องมาดูเรื่องประเด็นอื่นอีกกหรือไม่ และมีใครเกี่ยวข้องอีก โดยจะประชุมกันอีกครั้ง

สำหรับประเด็นเรื่องของกล้องจรปิดที่พบว่า เสีย และบ้านของผู้ก่อเหตุไม่มีภาพนั้น ไม่ว่ากล้องจะเสียหายหรือไม่เสียหาย ตำรวจก็จะส่งให้ กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ แต่ไม่ได้เป็นการตัดรอนในการคันหารวมรวบพยานหลักฐาน ซึ่งตอนนี้ ตำรวจมีพยานหลักฐานมาพอสมควรแล้ว พร้อมยืนยันว่า กล้องวงจรปิด เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของสำนวน แต่คดีหลายคดีไม่มีกล้องวงจรปิด ก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ 

ส่วนคนยิงเป็น คนในบ้าน หรือคนนอกนั้น ต้องทำการพิสูจน์ทราบ แม้ผู้ต้องหา2ราย จะรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิง ก็ต้องมาพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำผิดที่แท้จริง หรือมีคนอื่นร่วมอยู่ด้วยหรือไม่

พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ตามขั้นตอนของตำรวจ ขณะนี้ได้เก็บพยานหลักฐาน เขม่าดินปืนร่องรอยทุกคน มือ เสื้อผ้า หน้าผม ได้จัดเก็บไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ตัวของ ผู้ตาย คือ สจ.โต้ง จากการตรวจสอบไม่มีการพกพาอาวุธเข้าไปภายในบ้านโกทร โดยเข้าไปคุยคนเดียว และปล่อยให้บริวารอยู่ด้านนอก แต่ทำไมถึงให้บริวารหรือลูกน้องอยู่ด้านนอกนั้น ต้องมารับฟังพยานหลักฐานก่อน