เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า อิสราเอลจะยังคงตรึงกำลังทหารในเขตกันชนในที่ราบสูงโกลัน จนกว่าจะได้รับการค้ำประกันด้านความมั่นคง

"การตรึงกำลังทหารดังกล่าวถือเป็นมาตรการเพียงชั่วคราว จนกว่าจะมีการจัดตั้งกองกำลังที่ยึดมั่นตามข้อตกลงปี 1974 และมีการรับประกันความมั่นคงตามแนวชายแดนของเรา"

"การดำเนินการของอิสราเอลในที่ราบสูงโกลันเป็นไปเพื่อป้องกันตนเอง หลังการล่มสลายของรัฐบาลซีเรียได้ทำให้เกิดภาวะสุญญากาศในชายแดนอิสราเอลและในเขตกันชน ซึ่งอิสราเอลจะไม่ให้กลุ่มญิฮาดเป็นภัยคุกคามและดำเนินการโจมตีเหมือนกับเหตุการณ์ 7 ตุลาคม" แถลงการณ์ระบุ

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ต่อการที่อิสราเอลเข้ายึดครองดินแดนในซีเรีย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์เพียงชั่วคราว และเป็นสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตนเอง

การแสดงความเห็นของนายซัลลิแวนมีขึ้น หลังจากที่หลายประเทศออกมาโจมตีอิสราเอลจากการที่ส่งรถถังรุกคืบที่ราบสูงโกลันทะลุแนวกันชนที่จัดตั้งขึ้นโดยสหประชาชาติระหว่างชายแดนอิสราเอลและซีเรีย

ด้านนายอิสราเอล แคตส์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลกำลังจัดตั้ง "เขตป้องกันตนเอง" ทางใต้ของซีเรีย เพื่อป้องกันมิให้กองกำลังที่มุ่งร้ายเข้าใกล้ชายแดนอิสราเอล หลังการล่มสลายของระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

นายแคตส์กล่าวว่า เขาและนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้สั่งการให้กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) จัดตั้งเขตดังกล่าวขึ้น ซึ่งจะเป็นเขตปลอดอาวุธและปลอดจากภัยคุกคามทางการทหาร

นายแคตส์กล่าวเสริมว่า กองกำลังอิสราเอลได้เข้าประจำการในเขตกันชนและพื้นที่ในเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปกป้องที่ราบสูงโกลันและประชาชนชาวอิสราเอล