จากกรณี ที่ชาวบ้านในพื้นที่ บ้านหนองสะแบง ม.8 ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น พบศพ นายบุญเสริม อายุ 43 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีม่วงแขนยาว กางเกงขาสั้นสีแดง ไม่ได้สวมรองเท้า เสียชีวิตนอนตะแคงอยู่ในทุ่งนา พบบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะกลางหน้าผาก 1 นัด และที่หน้าอก 1 นัด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.67 มารดาของนายทรงวุฒิ อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุยิงนายบุญเสริม ได้พาลูกชายเดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ ผกก.สภ.ชนบท  ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำและนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ทิ้งปืน ในพื้นที่บ้านหนองโน ต.ห้วยแก อ.ชนบท ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. เป็นหมู่บ้านพื้นที่ติดกันซึ่งในจุดแรกที่ตำรวจพามานี้เป็นจุดที่นายเงาะ นำอาวุธปืนสั้น แม็กกาซีน ขนาด .380 มาทิ้งหลังจากก่อเหตุและใช้เป็นเส้นทางวิ่งหลบหนี

ขณะเดียวกันมารดาของผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้นำตัวลูกชายลงจากรถกระบะตำรวจไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยคุมให้ทางตำรวจยกเลิกการทำแผน และให้เหตุผลว่าสามารถขอไม่ทำแผนได้ ซึ่งได้บอกลูกชายที่นั่งอยู่ในรถกระบะของทางตำรวจว่า ไม่ต้องลงจากรถและให้บอกตำรวจว่าไม่ยินยอมทำแผน เพราะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกอย่างแล้วจึงไม่จำเป็นต้องทำ

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามอธิบายเหตุผลถึงการที่ต้องนำตัวลูกชายไปทำแผนว่า เป็นคดีประทุษร้ายต้องมีการชี้จุดทำแผนตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมาย ก่อนจะพาตัวนายเงาะไปชี้จุดที่ทิ้งปืนพร้อมขอความร่วมมือไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปใกล้ในจุดที่มีการทำแผนในจุดนี้ ซึ่งทางมารดาของผู้ก่อเหตุก็ได้เข้าไปขอทางตำรวจว่าจุดเกิดเหตุไม่ต้องไปทำให้ทางตำรวจต้องยกเลิกในจุดเกิดเหตุที่มีการทำร้ายและยิงนายบุญเสริมจนเสียชีวิตในทุ่งนา กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนที่ทางตำรวจจะยอมพาตัวผู้ก่อเหตุกลับที่ สภ.ชนบททันที

พ.ต.อ.พัฒนพงษ์ ปัดสำราญ ผกก.สภ.ชนบท กล่าวว่า หลังตำรวจรับแจ้งเหตุคนถูกยิงตายในทุ่งนาทิศเหนือของบ้านหนองสะแบง จึงลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ ก็พบศพคนตาย พบรอยเลือดใต้ถุนบ้านในที่นา ที่พบศพ และสอบสวนพ่อแม่ ญาติคนตาย ทราบว่า วันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีเพื่อนของนายบุญเสริม มารับนายบุญเสริม ออกจากที่นาของลุง จากนั้นก็ไม่กลับบ้านอีกเลย  จึงได้ทำการตรวจสอบหาเบาะแสเพื่อนรายดังกล่าว ทราบชื่อเล่นว่านายเงาะ เป็นเพื่อนกับนายบุญเสริมมาตั้งแต่เด็ก เรียนหนังสือมาด้วยกัน และได้ไปพบมารดาของนายเงาะที่บ้านพัก แต่ไม่พบตัว ซึ่งมารดาแจ้งว่าจะพยายามติดต่อลูกชาย และหากพบตัวจะพามาพบตำรวจ

"วันนี้มารดาก็พานายเงาะ ลูกชายเดินทางมามอบตัว จึงได้ทำการสอบสวนนายเงาะ ให้การว่า เป็นเพื่อนกับนายบุญเสริม จริง และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่ที่ก่อเหตุยิงเพื่อนตนเองจนตายในทุ่งนา ก็เนื่องจากว่า เมื่อก่อนตนเคยติดสุรา มารดาจึงพาไปหาพระอาจารย์ เพื่อทำการสาบานว่าจะออกสุรา แต่ออกไม่ได้ มารดาจึงพาไปถอนคำสาบาน  หลังถอนคำสาบานเรียบ กลับถึงบ้านจึงซื้อสุรามาดื่ม โดยได้ไปรับนายบุญเสริม เพื่อนสนิทมาดื่มสุราด้วยกัน ที่ที่นาจุดเกิดเหตุ แต่ในขณะที่ดื่มสุราก็คุยกันต่างๆนานาแล้วถูกนายบุญเสริม ดูแคลนและคุยโม้โอ้อวดและดูถูกว่าเป็นลูกไม่มีพ่อและด่าบุพการี ด้วยความโมโห จึงควักปืนพกติดตัวออกมายิงเพื่อน แต่กระสุนนัดแรกขัดลำกล้อง จึงยิงซ้ำ เพื่อนถูกกระสุนแต่วิ่งหนี จึงไล่ยิงเพื่อนไปหลายนัด หลังจากกระสุนหมด จึงวิ่งหนีและทิ้งปืนข้างทางแล้วหลบหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ อ .แวงใหญ่ กระทั่งมารดาติดต่อมาให้มอบตัว จึงใหเมารดาไปรับและพาเข้ามอบตัวดังกล่าว"

ผกก.สภ.ชนบท กล่าวต่อว่า มือปืน กับคนตาย เป็นเพื่อนสนิทกัน ที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เหตุการณ์เพื่อนยิงเพื่อนตาย เกิดจากดื่มสุราด้วยกัน คุยข่มกัน และผู้ตายด่าถึงบุพการีซึ่งบิดาของผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตไปนานแล้ว อีกฝ่ายมีปืนจึงยิงเพื่อนตาย หลังการสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา มีและพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและยิงปืนในที่สาธารณะ โดยใช่เหตุอันควร และข้อหาฆ่าผู้อื่น  และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนขนาด.380 ในป่าลาะเมาะที่ผู้ต้องหาทิ้งเอาไว้ ส่วนการทำแผนในที่เกิดเหตุนั้นต้องยกเลิก เนื่องจากมารดาผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้นำตัวไป เพราะเกรงว่าลูกชายจะไม่ปลอดภัย  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหามาคุมขังที่ห้องควบคุมสภ.ชนบท จากนั้นพนักงานสอบสวนจะได้ทำสำนวนให้เรียบร้อย ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดพลตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป