อุดม ศรีมหาโชตะ เจ้าของบ้านทะเลดาว รีสอร์ท หัวหิน เปิดเผยว่า โรงแรมบ้านทะเลดาวให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนมาตลอด โดยมีรางวัล การรับรองการันตีความเป็นโรงแรมยั่งยืนมากมาย  ได้แก่  รางวัลช้างชูงวง (มาตรฐานที่พัก) ของกรมการท่องเที่ยวฯ รางวัล Green Hotel ระดับ Gold รางวัลกินรี ระดับ Silver จาก ททท. ครั้งที่ 8 จนถึงครั้งที่ 14 และยังได้รับโล่รางวัลพิเศษเมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ครองราชย์ ครบ 60 ปี เป็นรางวัลที่ภาคภูมิใจมาก และรางวัล Green Leaves นอกจากนี้ยังได้รับรองมาตรฐาน Travel Life จาก EU ของ ยุโรป มาแล้วถึง 5 ปี (2 รอบการรับรองมาตรฐาน) สอดคล้องกับการได้รับเลือกให้เข้าร่วม CF- Hotels Platform ช่วยโรงแรมให้สามารถคำนวณค่าการลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ต่อคน ต่อห้องได้เลย เพียงกรอกข้อมูลการใช้ไฟฟ้า น้ำ แกส และขยะ ซึ่งจะทำให้เป็นฐานข้อมูลโรงแรมสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในห้องพักได้มากขึ้น  โดยหาวิธีปรับอุณหภูมิที่ 25 องศาเซลเซียส และเปิดแอร์เมื่อลูกค้าเช็คอินเท่านั้น จะไม่เปิดก่อน 2-3 ชั่วโมงเพื่อรอต้อนรับลูกค้า  รวมทั้งการซักผ้าปูที่นอนตามที่แขกต้องการ แขกบางท่านที่เข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมก็จะไม่ได้ส่งผ้าเช็ดตัวซักทุกวัน  เหมือนที่เราทำกัน

อุดม ศรีมหาโชตะ เจ้าของบ้านทะเลดาว รีสอร์ท หัวหิน

หัวหิน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของประเทศไทย  ที่มีชายหาดสวยงาม สงบ ร่มรื่น  เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรปที่มาพักผ่อนในประเทศไทย บ้านทะเลดาว รีสอร์ท หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นรีสอร์ท ของคนไทยที่ได้รับการจัดอันดับจาก GSTC (Global Sustainable Tourism Councils) ที่ให้การรับรองชอง Travel Life มาดูแลตรวจประเมินและรับรอง และด้วยความเป็นโรงแรมขนาด 3 ดาวครึ่งที่มีความยั่งยืน เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี  มีห้องพัก จำนวน 32 ห้อง  พร้อมบริการที่หลากหลาย อาทิ ร้านอาหารริมทะเลติดชายหาดหัวหิน มีการจัดรถบริการรับส่งระหว่างโรงแรมกับตัวเมือง ด้วยความเป็นรีสอร์ทสวนป่าริมทะเลจึงเหมาะเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานริมหาด ตลอดจนมีกิจกรรมกีฬาทางน้ำหลากหลายประเภท มีจักรยานให้นักท่องเที่ยวขี่เที่ยวไปรอบเขาตะเกียบ เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโรงแรมขนาดเล็กที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยวมานานนับสิบปี

การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ทางโรงแรมฯมีวิธีการจัดการกับเศษอาหาร เพื่อไม่ให้กระทบกับชุมชน โดยเอามาทำเป็นปุ๋ยหมัก และนำเอามาใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติสำหรับพื้นที่สีเขียวของโรงแรมฯที่มีต้นไม้มากมาย โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุกว่า 50 ปี และต้นไม้แปลกๆเยอะ อาทิ ต้นพยอม มะขาม มะค่าแต้ ปีป เป็นต้น ทางโรงแรมได้เข้าร่วมกับ CF- Hotels ตั้งแต่เริ่มโครงการ  เนื่องจากเป็นกรรมการและอุปนายกสมาคมโรงแรมไทยและประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อมด้านสิ่งแวดล้อม  จึงได้เล็งเห็นด้วยความสำคัญกับแพลตฟอร์ม CF- Hotels ที่ใช้งานง่าย สะดวก และเป็นตัวชี้วัดค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกิจกรรมของรีสอร์ท ให้ทราบเพื่อใช้วิเคราะห์และวางแผนในระยะต่อไป หรือจะชดเชยการปลดปล่อยก๊าซอย่างไร เพื่อให้โรงแรมฯสามารถบรรลุเป้าหมาย การลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ (Net Zero / Carbon Neutral) ในปี 2050   

ส่วนการรณรงค์ให้โรงแรมอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเชื่อว่า ในอนาคต จะมีโรงแรมเข้าร่วมมากขึ้น เนื่องจาก มีกฎระเบียบที่เพิ่งประกาศออกมาของ EU ในเรื่องการรณรงค์ลดโลกร้อนและความยั่งยืน (on corporate sustainability due diligence and amending Directive (EU) 2019/1937 and Regulation (EU) 2023/2859) 

แนวทางและวิธีการลดพลังงานของโรงแรมโดยหันมาการใช้หลอดไฟ LED 100%  การใช้ไฟลดลงตั้งแต่ปี 2560 จากปริมาณที่ปล่อยคาร์บอน 41.60 ตันคาร์บอนฯ ต่อตารางเมตร  จนถึงปีล่าสุด 2566 ลดลงเหลือ  36.57 ตันคาร์บอนฯ ต่อตารางเมตร  แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ลดลง  ขณะนี้โรงแรมกำลังศึกษาเรื่องการลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศในอนาคต คาดว่าจะทยอยเปลี่ยนให้เป็นเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟมากขึ้น 

การสนับสนุนชุมชนรอบข้าง ได้แก่ การซื้ออาหารทะเลจากชุมชน เพื่อช่วยให้ชุมชนมีรายได้และลดการใช้พลังงานในการเดินทางขนส่ง  การรับกลุ่มผู้สูงอายุมาจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness Tourism  และยังมีห้องพักแบบครอบครัวสำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์เข้าพักได้  ภายในรีสอร์ท ยังมีแปลงผักสวนครัวที่ไม่ใช้สารเคมี เปิดให้มาศึกษาดูงานด้านการปลูกแปลงผัก และมีการเพาะเมล็ดพันธุ์ต้นพยอมที่เป็นต้นไม้ดั่งเดิมและหายาก

ส่งเสริมและสนับสนุนเป็นการช่วยชุมชนดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน การสนับสนุนจัดกิจกรรมให้ชุมชนเขาตะเกียบ ที่มีชุมชนจัดทำธนาคารปูม้าและลูกสัตว์น้ำทะเลต่างๆ โดยให้ลูกค้าของโรงแรมฯและนักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมกันปล่อยลูกปูม้า ลูกสัตว์น้ำทะเล แมงดาทะเล กลับลงสู่ทะเล เป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กลับแหล่งท่องเที่ยวเมืองหัวหิน  โดยทางผู้นำชุมชนหมู่บ้านเขาตะเกียบจะขอปูไข่นอกกระดอง และแมงดาทะเลเพื่อเอามาเพาะ และปล่อยลงสู่ทะเลเพื่อให้ลูกปูม้าเติบโตได้อีกหลายแสนตัว  แม้โอกาสรอดไม่มากแต่ก็ต้องช่วยอย่างต่อเนื่อง ที่นี่จึงนับเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของหัวหินก็ว่าได้ 

ในส่วนของการลดขยะอินทรีย์หรือเศษอาหารจากครัว ด้วยการทำขยะอินทรีย์มาทำเป็นปุ๋ยโดย ใช้ถังพลาสติก เจาะรูก้นถัง เอาอาหารใส่เป็นหลุมๆ ทิ้งไว้จนกลายเป็นปุ๋ย นำไปใช้ในแปลงผักที่มีอยู่ขนาดไร่เศษต่อไป อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้หน่วยงาน องค์กร และนักศึกษาเข้ามาศึกษาดูงานแปลงผัก และยังมีการเพาะเมล็ดพันธุ์ให้สามารถซื้อไปปลูกเองได้ด้วย  หรือถ้าเป็นขยะเศษไม้ ใบไม้ ก็จะเอาไปผสมกับขี้วัว หมักจนเป็นปุ๋ย สำหรับนำมาหมุนเวียนใช้เองในโรงแรมฯ

กิจกรรมเพื่อความยั่งยืนเหล่านี้   อุดมยอมรับว่า สิ่งที่ทุ่มเททำมานับสิบปีเป็นจุดขาย และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น และเอเย่นต์ทัวร์ Tour Operator จะมองหาโรงแรมที่ได้รับการรับรองจาก Travel Life หรือการจัดการด้านความยั่งยืน Sustainability มาเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ ในปีนี้ winter season มีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเริ่มเข้ามาเร็วขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม จนถึงต้นเดือนมีนาคม และอีกช่วงคือ ช่วงซัมเมอร์ของยุโรป ตั้งแต่ กรกฎาคม ถึง สิงหาคม 

ด้านการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว จะปรากฏเครื่องหมายกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน อาทิ Travel Life ที่นักท่องเที่ยวสามารถสแกนเข้าไปดูบันทึกรายงานกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้ ( Sustainability Report) บ้านทะเลดาวก็ต้องทำรายการทุก 2 ปี

บ้านทะเลดาว ได้รับรางวัลมาตรฐานจากหลายหน่วยงาน พนักงานมีส่วนสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยพนักงานจะเป็นผู้ดำเนินการในด้านการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  เช่น การเปลี่ยนขวดพลาสติกมาใช้ขวดแก้วแทน  การไม่เปิดเครื่องปรับอากาศในห้องพักรอแขกเข้าพัก ส่วนของ Amenity ในห้องพัก จะเปลี่ยนมาใช้ขวดรีฟิล พนักงานทุกคนจะเรียนรู้การการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมว่าจะต้องทำอย่างไร  พนักงานส่วนมากทุกคนอยู่กันมานานตั้งแต่เปิดโรงแรมเพราะเราดูแลเหมือนคนในครอบครัว ตลอดจนผู้บริหารของโรงแรมฯปลูกฝังสร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้พนักงาน และให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันของสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม  เพื่อความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจและการท่องเที่ยวในประเทสไทย

อุดม ได้กล่าวอีกว่า ในอนาคต 5 – 10 ปีข้างหน้า ผู้คนจะหันมาใส่ใจเรื่องโลกร้อนมากขึ้น เราจะเห็นได้จากอุบัติภัยที่เกิดขึ้น อย่างเรื่องน้ำท่วมฉับพลัน  เราควรจะช่วยกันดูแลให้เกิดอุบัติภัยลดลง โรงแรมเองก็มีเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างน้อย 1-3% ทุกปี  ทำอย่างไรที่จะลดผลกระทบของ Greenhouse Effect ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด ส่วนแนวโน้มนักท่องเที่ยวมีความเข้าใจและร่วมมือในการดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป  เนื่องจาก ทาง EU จะออกกฎมาบังคับให้ทั่วโลกต้องปฏิบัติตาม  จึงอยากจะเชิญชวนให้ผู้ประกอบการโรงแรมและคนไทยที่จะเดินทางท่องเที่ยวให้หันเลือกใช้บริการโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ CF-Hotels Platform ให้มากขึ้น เพื่อช่วยกันลดอุณหภูมิของโลกไปด้วยกัน

 

#CFHotels  #CFHotelsนอนชิลฟีลรักษ์โลก  #บ้านทะเลดาวรีสอร์ทหัวหิน  #โรงแรมรักษ์โลก