วันที่ 11 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สนามบินอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มวลชนจำนวนมากกว่า 5 พันคน ได้มาต้อนรับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมากับสายการบินแอร์เอเชีย ไฟล์บิน FD 3374 ถึง สนามบินอุบลราชธานี โดยมาพร้อมกับ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( สส. ) พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค ในพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดใกล้เคียง
โดย อดีตนายกรัฐมนตรีมาในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้ นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2567 ที่จะถึงนี้ โดยมวลชนได้ ตะโกน เบอร์ 1 ทักษิณ ตลอดเวลา
จากนั้น อดีตนายกรัฐมนตรี และ คณะ ได้เดินทางต่อ มาที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้ขึ้นปราศัย พบปะกับมวลชนที่มาต้อนรับ มากกว่า 1 หมื่นคน ซึ่งครั้งล่าสุด ที่อดีตนายกรัฐมนตรี มาเยือน จังหวัดอุบลราขธานี ก็เมื่อ 17 ปีที่แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า อบอุ่น และดีใจทุกครั้งที่ได้มาเยือนอีสาน ประทับใจมาก และ รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพี่น้องชาวอีสาน ที่ไม่เคยลืมกัน การมาในครั้ง เพื่อมาให้กำลังใจ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ และ นายกานต์ ขอให้พี่น้องชาวอุบลฯ เลือก นายกานต์ เป็นนายก อบจ. ให้กับพรรคเพื่อไทย ต่อไปก็ขอคืน ส.ส.ให้ด้วย เพื่อเป็นตัวแทนในการนำนโยบายของพรรคเพื่อไทย มาพัฒนา คืนความสุข ความมั่งคั่งให้กับประเทศ ต่อไป
โดยบรรยากาศการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงของนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี หมายเลข 1 ซึ่งเป็นอดีตนายกฯสมัยที่แล้ว ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีมวลชนและแกนนำที่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมฟังการปราศรัยจำนวนหลายพันคน จนแน่นห้องประชุม
ทั้งนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ นายกอิ้งค์ จะพูดเรื่องแก้หนี้ครัวเรือน หนี้เกี่ยวกับบ้านและรถยนต์ และตนเองจะพูดเรื่องสถานการณ์โลกที่น่าเป็นห่วงที่เราต้องเตรียมตัวอย่างไร กับสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ดูยุ่งๆ ตนเป็นคนแก่มากที่สุดคนหนึ่งที่ อยู่กับการเมืองมานาน สร้างประวัติศาสตร์การเมืองไว้เยอะ เจ็บปวดกับการเมืองก็เยอะ วันที่ 13 ธ.ค.จะไปเล่าให้ ส.ส.ฟัง เพราะบ้านเมืองเราถ้าปล่อยไว้ก็จะแย่ลง ศักยภาพมีมาก แต่ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด อะไรที่เป็นปัญหาของประเทศ คือปัญหาของผม บ้านเมืองถ้าปล่อยไว้อย่างนี้จะแย่
จากนั้นได้เรียกร้องให้ช่วยกันกาเบอร์ 1 พร้อมบอกขอเดินทักทายมวลชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และว่าจะมาอุบลอีกครั้ง โดยจะมาฉลองตำแหน่งนายก อบจ. ให้นายกานต์ กัลป์ตินันท์ และจะทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่เสียไป เพราะมั่นใจพี่น้องประชาชนจะหันกลับมาให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
สำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกำหนดลงคะแนนเสียงในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 มีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสิ้น 4 คน คือ นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคเพื่อไทย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ผ่านมา นายนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาชน นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครหมายเลข 3 และนายอธิปไตย คุ้ยศรีมงคล ผู้สมัครหมายเลข 4 ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ
ส่วนการแข่งขันครั้งนี้ ก็เป็นการขับเคี่ยวระหว่างพรรคเพื่อไทย ที่มีนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย กับนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครอิสระที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคค่ายสีน้ำเงินเป็นคู่แข่งคนสำคัญ และยังมีนายสิทธิพล เลาหะวนิช จากพรรคประชาชน มาเป็นตัวสอดแทรกที่สำคัญอีกคน