วันที่ 11 ธ.ค.67 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) @Piyabutr_FWP ระบุว่า...
ความคิดของนักการเมืองที่เชื่อว่ากฎหมายไม่สามารถป้องกันรัฐประหารได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า นักการเมืองไม่จำเป็นต้องตรากฎหมายเพื่อป้องกันรัฐประหาร
ต่อให้พวกเขาไม่เชื่อ แต่การตรากฎหมายเช่นนี้ ก็ไม่เห็นเสียหายตรงไหน หรือทำให้นักการเมืองเสียประโยชน์อย่างไร หรือประเทศชาติเสียหายอย่างไร
ณ วันนี้ เราไม่มีทางพิสูจน์หรอกว่า กฎหมายป้องกันรัฐประหารได้หรือไม่ เพราะ เรายังไม่เคยมีกฎหมายเหล่านั้นแบบครบวงจรสมบูรณ์ (รธน 17 เคยมีข้อความสั้นๆ แต่ไม่ได้เขียนให้สมบูรณ์ทั้งระบบ)
แต่หากตรากฎหมายเหล่านี้ขึ้น อย่างน้อย วันไหน เกิดมีความพยายามก่อรัฐประหาร ก็จะได้พิสูจน์ และมีโอกาสใช้มาตรการทางกฎหมายต่อต้านป้องกัน
ลองดูมั้ยครับ
เขียนใน รธน ทำให้นิรโทษกรรมรัฐประหาร 22 พ.ค.57 เป็นโมฆะ เอาคนทำรัฐประหารมาดำเนินคดี แบบที่ตุรกี กรีซ อาร์เจนติน่า ทำกัน
ลองดูมั้ยครับ
เขียนใน รธน ให้ข้าราชการทหารและพลเรือนมีหน้าที่ในการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ไปร่วมรัฐประหาร
ลองดูมั้ยครับ
เขียนใน รธน ห้ามมิให้ผู้พิพากษา ตุลาการ ทุกศาล รับรองรัฐประหาร ลองดูมั้ยครับ เขียนใน รธน หากระบบปกติกลับมาเมื่อไร ให้ดำเนินคดีคนทำรัฐประหารโดยไม่มีอายุความ ลองดูมั้ยครับ
ให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรม ว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ
ลองดูมั้ยครับ
ให้รัฐมนตรีคุมนโยบายกลาโหม และแต่งตั้งนายพลได้เอง
ลองดูมั้ยครับ
ยกเลิกกฎหมายกฎอัยการศึก หรือให้นายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่มีอำนาจประกาศ ห้ามผู้บัญชาการเหล่าทัพประกาศ ทั้งหมดนี้ อาจบอกกันว่า ยึดอำนาจเสร็จ เขาก็ฉีกกฎหมายทิ้งหมด
แต่ลองดูมั้ยล่ะ ถ้ามีเครื่องมือทางกฎหมายเหล่านี้อยู่บ้าง อาจมีทหาร พลเรือน ศาล นักการเมือง เอาเครื่องมิอเหล่านี้เป็นหลังพิงให้ลองต่อต้านกันสักตั้ง
หรือลองมีคนทำรัฐประหารต้องขึ้นศาลหรือเข้าคุกสักรอบ จะมีคนทำรัฐประหารอีกมั้ย
สำเร็จหรือไม่ ก็ต้องลองดู
แต่ที่แน่ๆ ถ้านักการเมืองไม่ทำอะไร แล้วอ้างแต่ “เป็นไปไม่ได้” “ไม่จำเป็น” “ไม่สำเร็จ” นั่นแหละ ที่จะไม่มีวันสำเร็จแน่นอน