วันที่ 10 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคดีกลุ่ม LGBTQ+ จัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาในโรงแรมย่านสุขุมวิท 31 ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง พร้อมเปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบไปรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม วิเคราะห์กันอีกทีว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง เพราะมีความตั้งใจที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการทำลายหลักฐานในห้องที่เกิดเหตุ และลบภาพวงจรปิดในโรงแรมนั้น ไม่เป็นความจริง ทางตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว มีการให้ผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุภายในห้อง ซึ่งทางโรงแรมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังได้มีการเก็บขยะที่หลงเหลือภายในห้องที่เกิดเหตุมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ด้วย แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีความติดใจอยู่หลายประเด็นเพราะว่าเป็นการรวมตัวปาร์ตี้เสพยาใจกลางเมือง และมีผู้ต้องหาจำนวนมาก จึงต้องขยายผลถึงที่มาของยาเสพติด ซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีทั้งผู้ต้องหาพกพามา และมีผู้ที่นำมาจำหน่ายในงานด้วย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเพื่อในการปลูกเร้าอารมณ์ร่วมในงานปาร์ตี้ ซึ่งตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบเร็ว จึงยังไม่พบ หลักฐานการมั่วเซ็กส์
อีกทั้งยังยืนยันว่าไม่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่นำยาเสพติดเข้าไปจำหน่ายในงาน ซึ่งมีนามสกุลพ้องกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตรวจสอบแล้วก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน และไม่มีดาราหรือเซเลบดังแต่อย่างใด
ส่วนพฤติการณ์นั้น เป็นการรวมตัว รวมกลุ่มของชายรักชาย 3 กลุ่ม ในนาม trio.bd.party โดยตัวแทนทั้งสามกลุ่มหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ คัดเลือกผู้ที่จะสามารถเข้างานได้ โดยไม่มีการเก็บเงินค่าหัวเข้างาน ผู้จัดงานจะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด เฉพาะค่าห้องที่จัดงานครั้งนี้ คืนละ 30,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ได้ฝากไปถึงตำรวจท้องที่อื่นว่า การจัดงานปาร์ตี้เสพยาในลักษณะนี้ ได้เปลี่ยนรูปแบบจากไปจัดในสถานบันเทิง ไปเช่าห้องพักในโรงแรมืหรือคอนโดมิเนียมหรู เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงต้องพยายามเข้าไปตรวจสอบโรงแรม หรือคอนโดมิเนียมในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการจัดงานในลักษณะนี้ขึ้น