ราชบุรี-แม่เฒ่าวัย73ปีลงแม่น้ำงมหาหอยและปลาพลัดจมน้ำดับ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.อุเทน อำนวย ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งมีคนพบศพลอยน้ำในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำฝั่งวัดสร้อยฟ้า ม.5 ต.คลองตาคต จึงรายงานให พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม รับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน สายตรวจรถยนต์ สายตรวจตำบลคลองตาคต แพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี
ที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรีได้นำเรือท้องแบนมาทำการนำร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ลักษณะนอนคว่ำหน้า ผู้ตายสวมใส่เสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสีดำ ที่ตัวพบตาข่ายที่ใส่ปลาคล้องอยู่ที่คอ ในตาข่าย มีปลา1ตัวหอยขมอีก2ตัวจึงนำขึ้นมาให้แพทย์ชันสูตร ไม่พบบาดแผลใดๆ ผู้ตายเสียชีวิตมาประมาณ1-2ชั่วโมง
สอบถามนายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล)อายุ28ปี คนเจอศพคนแรกให้การว่าตนได้ขับรถข้ามสะพานสร้อยฟ้า และเห็นปลาในแม่น้ำขึ้นมาเล่นน้ำ ตนจึงจอดรถพร้อมชะโงกลงมาดูก็พบศพดังกล่าว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ต่อมาได้มีญาติผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ พร้อมกับแจ้งว่าผู้ตายชื่อนางสนอง (สงวนนามสกุล)อายุ73 ปี บ้านม.6คองตาคต พร้อมเล่าว่าผู้ตายได้ออกมางมหอยและจับปลาในแม่น้ำแม่กลองกับนายประถม คนน้อย เป็นสามีของคนตาย ซึ่งน้ำริมแม่น้ำนั้นสามารถเดินได้ แต่น่ยประถม สามีนั้นขอขึ้นไปบ้านก่อนปล่อยให้ผู้ตายเดินงมหอยอยู่เพียงลำพัง จนหายตัวไป ก่อนญาติช่วยกันออกตามหา จนมารู้ว่ามีคนพบศพลอยน้ำจึงมากูก็พบว่าคือนางสนอง
นายประถม (สงวนนามสกุล)ผู้เป็นสามีกล่าวว่าช่วงประมาณเที่ยงๆตนกับผู้ตายได้ชวนกันลงมางมหาหอยและปลาเพื่อจะนำมาทำอาหารมื้อเย็น ตนยืนดูอยู่ข้างตลิ่งเพราะไม่กล้าลงน้ำเนื่องจากกลัวจมน้ำ ระหว่างที่ผู้ตายงมหาหอยอยู่ตนได้บอกกับผู้ตายว่าขอขึ้นบ้านก่อนจนกระทั้งบ่ายผู้ตายยังไม่ขึ้นมาจึงบอกลูกๆและญาติออกตามหาจนมารู้ว่าจมน้ำตาย ส่วนผู้ตายนั้นมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก
จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ตายระหว่างที่เดินอยู่ริมตลิ่งเกิดพลาดเดินตกหลุมใต้น้ำทำให้จมน้ำหรือไม่ก็เกิดเป็นลมหน้ามึดจมน้ำดังกล่าว อย่างไรก็ดีได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป