วันที่ 10 ธ.ค.2567 เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นปัญหา MOU 44 ว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงได้ชี้แจงไปหลายประเด็นแล้ว และนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เรายังไม่ได้มีประเด็นหยิบยกขึ้นมาหารือ เพราะไม่ใช่กฎหมายที่จะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล ระบุว่าถ้ามีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมและสส.โหวตเห็นชอบ จะถือว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการขายชาติด้วย น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นของคุณสนธิ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้เป็นกฎหมายเข้าสู่สภาฯ อาจเป็นข้อกังวลของนายสนธิ แต่สำหรับตัว สส. ในการพิจารณาร่างกฎหมาย สภาถือเป็นพื้นที่เปิดในการแสดงความคิดเห็น หากมีเรื่องนี้เข้ามาก็จะต้องมีการถกเถียง และสส.ก็เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ถือว่าเป็นเรื่องในอนาคต ควรมีข้อมูลและดูให้รอบคอบจากทุกฝ่ายก่อน
เมื่อถามกังวลหรือไม่ว่า เรื่องนี้จะเป็นจุดแตกหัก และเป็นปัญหาทางการเมืองกับรัฐบาล น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเดินหน้าในการแก้ไขปัญหา กระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาในหลายเรื่อง ซึ่งเราไม่ได้กังวล เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ทำงานตอบสนองพี่น้องประชาชน ดังนั้น ปัญหาเรื่องหนี้สิน ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่เร่งด่วนมากกว่า
เมื่อถามว่ามีการเชื่อมโยงต้นตอว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า MOU 44 เป็นข้อตกลงร่วมกัน ดังนั้น การจะเชื่อมโยงไปในอดีตกับปัจจุบัน และต้องมีข้อตกลง 2 ฝ่าย ขอให้รอความชัดเจน ถ้ามีเรื่องเข้าสภาก็ให้เป็นบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติน่าจะดีกว่า