หมอวรงค์มอบอำนาจทนายขึ้นศาลสุรินทร์คดีข้าว ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กระสอบข้าวที่ถูกนำไปอภิปรายในสภาทนายฝ่ายโจทย์แนะหมอควรออกมาขอโทษชาวสุรินทร์ ที่ทำชื่อเสียงข้าวหอมมะลิสุรินทร์เสียหายซึ่งศาลนัดพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำฟ้อง ในครั้งหน้าวันที่ 27 ก.พ.68
วันที่ 9 ธ.ค. 67 เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ทนายจำเลยรับมอบอำนาจจากนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่โรงสี เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายแพทย์วรงค์ ในข้อหาความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าละทิ้งงานประมูลข้าวสารหอมมะลิ ซึ่งนายโรจนินทร์ หิรัญโชคอนันต์ นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นพยานปากเอกของโรงสีข้าว ในจังหวัดศรีสะเกษ โดยมาพร้อมทนายความคือนางสาวทักษิณา ทับครบุรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ตามที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง หลังครั้งแรกวันที่(5 พ.ย.67)ที่ผ่านมา ทนายจำเลยไม่พร้อม ไม่สามารถที่จะซักค้านได้ และขอเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม 2567 วันนี้
ขณะที่นางสาวทักษิณา ทับครบุรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากโรงสี ส.ชัยเจริญ กล่าวว่า วันนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้องทนายจำเลยได้มาคัดค้าน ประเด็นหลักๆก็จะเป็นเรื่องของการอภิปรายเมื่อปี 56 ที่คุณหมอวรงค์ได้นำกระสอบข้าวไปอภิปรายในสภาว่ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว มีการนำข้าวหอมมะลิที่สุรินทร์ ที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าไปในโครงการ ซึ่งข้อเท็จจริงก็จะได้นำเสนอศาลไปว่า จริงแล้วข้าวที่คุณหมอวรงค์ ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ นำไปอภิปรายนั้นไม่ใช่ข้าวที่ในโกดังของรัฐบาล ซึ่งคุณหมอจะไปนำมาจากที่ไหนต้องรอให้คุณหมอมาตอบอีกทีหนึ่ง ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนมูลฟ้อง แล้วใน 7 กระทงที่ฟ้องไปคือเรื่องการฟ้องหมิ่นประมาทการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบก็ยังเป็นในเรื่องการที่โจทย์ทางโรงสี ซึ่งเป็นผู้ประมูลข้าวได้ แล้วไปรับข้าวมาแล้วบางส่วน ซึ่งคุณหมอก็ทราบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังโพสต์ว่าผู้ประมูลข้าวได้แต่ไม่ไปรับข้าว มีการทิ้งงาน ข้าวมีการยัดไส้ มีการปลอมปน ซึ่งข้อเท็จจริงทางเราไม่ได้พูดอย่างนั้น เป็นคุณหมอพูดออกมาเอง มีการพาดพิงถึงโรงสี ที่ประมูลข้าวได้
ซึ่งมองว่าทำให้โรงสีได้รับความเสียหายและเสียชื่อเสียงใน 7 กระทงที่ยื่นฟ้องไป ก็มั่นใจทั้งหมดเพราะว่ามันมีความชัดเจนว่าพาดพิงถึง เพราะว่าผู้ที่ประมูลข้าวได้ทั้ง 3 ครั้ง เราประมูลได้ในครั้งแรก แล้วผู้ประมูลได้อีก 2 ราย ก็ไม่ได้ออกมาตอบโต้ทางสื่อเลย ไม่มีการโต้ตอบกับทางคุณหมอวรงค์เลย แล้วทางรัฐบาลมาเปิดโกดังข้าว 10 ปีที่ขาย เพื่อให้สื่อมวลชนดูว่าข้าวมีคุณภาพ ขายได้ ทานได้หรือเปล่า ในวันนั้นคุณโรจนินทร์ ซึ่งเป็นตัวแทนโรงสี แล้วเป็นผู้ที่เคยประมูลข้าวได้ ก็อยู่ในเหตุการณ์แล้วก็อยู่ใกล้ชิดและเคยได้ชิมข้าว ไปสัมภาษณ์และออกรายการทีวีหลายๆที่ ซึ่งถ้าพูดถึงข้าวในโครงการรับจำนำข้าว โดยเฉพาะโกดังคลังกิตติชัยเป็นที่รู้กันในสื่อสังคมออนไลท์ทั่วไปว่าเราเป็นผู้ประมูลข้าวได้
สำหรับเรื่องนี้จะยาวนานหรือไม่นั้น คือถ้าเป็นเรื่องของ พรบ.คอมฯ การหมิ่นประมาทผ่านสื่อข้อเท็จจริงยุติตั้งแต่การโพสต์แล้วว่า สิ่งที่โพสต์เป็นความจริงหรือไม่ ถ้าสิ่งที่โพสต์เป็นความเท็จก็จบแล้ว ก็ไม่ต้องพิสูจน์แล้ว แต่ก็แล้วแต่ทางทนายจำเลยจะสืบอย่างไรจะสู้อย่างไร ศาลพิพากษาแล้ว จะสู้จะอุทรณ์ ฎีกาหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของจำเลย คงไม่ยาวนานเพราะข้อเท็จจริงยุติตั้งแต่การโพตส์แล้ว ทางจำเลยก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่โพตส์ของตัวเอง ดังนั้นข้อเท็จจริงเราสืบให้รู้แล้วว่าเราเป็นผู้เสียหายแล้วสิ่งที่คุณหมอโพตส์ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ก็น่าจะจบได้แล้ว
ส่วนในกรณีนำกระสอบข้าวไปอภิปรายในสภาเขาก็ต้องยอมรับโดยสภาพอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนนำไปอภิปราย แต่พยายามโต้มาว่าไม่ใช่ข้าวของรัฐบาล อันนั้นก็เป็นเรื่องของการต่อสู้ของเขา ในการอภิปรายจำเลยก็พูดชัดเจนว่าข้าวมาจากโกดังจังหวัดสุรินทร์ เป็นข้าวโกดังของรัฐบาล แล้วก็รู้ว่าเป็นข้าวรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริต ซึ่งในช่วงนั้นคุณหมอพยายายามอภิปรายว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีการทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ต้นน้ำคือการนำข้าวที่ไม่ได้คุณภาพเข้าไปที่โกดัง ดังนั้นคุณหมอจึงนำกระสอบข้าวไปอภิปรายเพื่อที่จะบอกว่ารัฐบาลมีการโกงในโครงการนี้ ซึ่งเมื่อเราไปตรวจสอบเอกสารในสำนวนการสอบสวนพนักงานสอบสวนแล้ว ปรากฏว่าข้าวกระสอบนั้นไม่ได้มาจากโกดังของรัฐบาล ดังนั้นการที่คุณหมอนำกระสอบข้าวไปอภิปรายแล้วบอกว่าเป็นข้าวของรัฐบาล ไม่ชอบอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่คุณหมออภิปรายตั้งแต่ปี 56 แล้วทางองค์การคลังสินค้าก็ไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไรทั้งๆที่รู้กฎของคดีอยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องดูว่าภาพสะท้อนคือไม่ใช่แค่องค์การคลังสินค้าที่เสียหาย แต่มันเป็นคนสุรินทร์ ชาวนาสุรินทร์ทุกคน
รวมทั้งผู้ประกอบการโรงสีข้าวจังหวัดสุรินทร์ที่เสียหายด้วย เพราะคุณหมอพยายามพูดว่าข้าวหอมมะลิสุรินทร์ โกดังสุรินทร์ ข้าวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งข้อเท็จจริงชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่ คุณหมอก็ต้องออกมารับผิดชอบ ถึงแม้ว่ามันจะขาดอายุความไปแล้วก็ตาม แต่ว่าคลิปตัวนี้ก็ยังเป็นไวรัลอยู่ในสื่อ ซึ่งถ้าคนทั่วไปไม่รับทราบข้อมูล ก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่คุณหมออภิปรายเป็นเรื่องจริง ว่าเป็นข้าวที่มาอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ แนะคุณหมอควรออกมาขอโทษชาวสุรินทร์ เรื่องกระสอบข้าวที่นำไปอภิปรายในสภาเมื่อปี 56 ทำให้ชื่อเสียงข้าวหอมมะลิสุรินทร์เสียหาย
พร้อมกันนี้เอกสารประกอบการไต่สวนมูลฟ้องในวันนี้ค่อนข้างมากใช้เวลายาวนานจนถึงเวลา 17.00 น ซึ่งศาลนัดพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำฟ้อง ในครั้งหน้าวันพฤหัสบดี ที่ 27 ก.พ.2568 เวลา 09.00 น. ต่อไป