ความคืบหน้าต่อเนื่องคดีสาวซิ่งรถเก๋ง BMW ด้วยความเร็วกว่า 200 กม./ชม.ชน3 แม่ลูกเสียชีวิตทันทีบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุกถนนสาย จ.( ลัดเข้าตัวเมืองชุมพร ) ตำบลตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย.67 ผ่านมา 12 วันสาวคนก่อเหตุเบี้ยวนัดเจรจาค่าเยียวยาหลายครั้งและครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่ได้รับการติดต่อเลยจากสาวคนก่อเหตุ ส่วนคดีอาญาอยู่ในระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมก่อนสรุปสำนวนให้อัยการฯส่งฟ้องภายใน 3 เดือน 

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.67 พ.ต.ท.ปรินทร โชติ รอง ผกก. สอบสวน สภ.เมืองชุมพร พานายประกฤษณ์ รัตนภา อายุ 50 ปี พ่อและสามีผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยนายสุวิทย์ เพชรทองไทย อายุ 60 ปี และนางนันทพร รัตนภา อายุ 52 ปี ญาติผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดชุมพร เพื่อเข้าพบกับนายณัฐพงษ์ บุญทองคง อัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชุมพร (สคช.) เพื่อปรึกษาและขอคำแนะทางในการช่วยเหลือตามกระบวนการด้านกฎหมายกรณีเรียกความร้องความเสียหายและสูญเสียทางแพ่งกับ น.ส.จิรันธนิน อายุ 30 ปี คู่กรณีหลังก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช ชน รถ จยย.ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ ทะเบียนชุมพร จนทำให้นางเย็นจิตร รัตนภา อายุ 52 ปี นายกฤตเมธ รัตนภา อายุ 16 ปี และ ด.ญ.บุณยานุช รัตนภา อายุ 14 ปี อยู่ ม.3 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นสามแม่ลูกเสียชีวิต บนถนนทางหลวงชนบท สาย จ. ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร โดยใช้ห้องประชุม ชั้น 2 ของอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดชุมพรเป็นสถานที่พูดคุย โดยห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมฟังในการพูดคุยในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการพูดคุยในครั้งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ทั้งหมดได้ออกจากห้องประชุม โดยทางนายประกฤษณ์ รัตนภา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การมาพบอัยการครั้งนี้นั้น เพื่อมายื่นหนังสือต่ออัยการจังหวัด ซึ่งดูแลด้านคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยกัน โดยที่ผ่านมานั้นทางฝ่ายคู่กรณีไม่ยอมมาตามนัด 

โดยครั้งต่อไปนี้ทางอัยการจังหวัดจะทำหนังสือเชิญตัว น.ส.จิรันธนิน คนขับรถ มาไกล่เกลี่ย โดยนัดหมายกันวันที่ 25 ธันวาคม 67 เวลาบ่ายโมง ส่วนในครั้งนี้ทางคู่กรณีจะมาหรือไม่มานั้นไม่อาจคาดเดาได้ แต่หากไม่มาตามนัด ก็จะส่งผลเสียกับเขาเอง เพราะที่ผ่านมาผมก็เปิดโอกาสให้เขาแล้วให้เข้ามาพูดคุยกัน สำหรับเรื่องคดีนั้นทางตำรวจ ก็ดำเนินการรวบรวมเพื่อสรุปสำนวนอยู่ โดยน่าจะไม่เกิน 3 เดือนก็จะสั่งฟ้องดำเนินคดีทางอาญา คงเหลือแต่คดีแพ่งที่จะต้องเรียกมาพูดคุยกัน  

นายประกฤษณ์ กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่า มีชาวบ้านในละแวกเกิดเหตุ เห็นมีเด็กสวมชุดนักเรียนมายืนนั้น ตนเองคิดว่าภรรยาและลูกๆยังกังวลหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ตนเองก้ได้อัญเชิญดวงวิญญาณทั้งหมดมาแล้ว และให้สิงสถิตยือยู่ที่มูลนิธิก่อน จนกว่าทุกอย่างจบก็จะจัดการทางศาสนาต่อไป

ด้านนายสุวิทย์  เพชรทองไทย ลุงเขย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกผิดหวังกับคู่กรณีเป็นอย่างมาก เพราะเราให้โอกาสมาตลอด ให้เขามาคุยกันเพื่อเรื่องทุกอย่างจะได้จบลงไปด้วยดีและรวดเร็ว เพราะอย่างน้อยความทุกข์ในใจของพวกเราจะได้เบาบางลง และวันนี้หลังจากที่ได้รับคำชี้แนะจากอัยการจังหวัดและทางตำรวจ ทำให้เราเข้าใจถึงกระบวนการทางด้านกฎหมายได้มากขึ้น และคิดว่าถ้าทางฝั่งคู่กรณีมีความจริงใจ เข้าต้องมาในวันที่ 25 ธันวาคม 67 แต่ก็ไม่สามารถจะคิดแทนเขาได้ว่าจะมาหรือไม่ แต่ตนก็เชื่อว่าวันนั้นเขาก็ยังคงไม่มาเช่นเดิม และตนเองก็ไม่อยากเห็นเขาติดคุกหรอก เพราะเหมือนลุกเราหากทำผิดก็คงไม่ปล่อยให้ติดคุกหรอก ซึ่งขอบอกตรงนี้ว่า ให้มาคุยกันเถอะเพราะทุกอย่างพูดคุยกันได้ ไม่ใช่ว่าบอกไป 25 ล้านบาทแล้วจะต้องยืนจำนวนนั้น รับได้หรือไม่ได้มาคุยกัน ถ้าไม่คุยก็ไม่รู้ ทุกอย่างก็จะไม่จบ 

ด้านนายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิฯเปิดเผยว่า ในวันพุธที่จะถึงนี้ ทางสำนักงานอัยการจังหวัดจะทำหนังสือเชิญตัวคู่กรณีมาพูดเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ตามนัดหมายคือวันที่ 25 ธันวาคม 67 โดยทำคู่ขนานไปกับคดีอาญาของตำรวจ ส่วนทางเราก็ดูแลในการเจรจาข้อตกลงการเยียวยาค่าสินไหมตามสิทธิของผู้เสียหาย ส่วนเขาจะมาหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิของเขา และทางผู้เสียหายเองก็ยังสามารถร้องขอให้ทางอัยการเชิญตัวมาเจรจาได้อีก และหากเขาไม่มา ก็อยู่ที่ทางผู้เสียหายแล้วว่าจะให้ทางอัยการช่วยเหลือเรียกคู่กรณีมาอีกหรือไม่ หากไม่ประสงค์จะดำเนินการแล้วก็เป็นอันยุติ และทางผู้เสียหายเองก็สามารถไปยื่นเรื่องฟ้องคดีแพ่งต่อศาลคู่กับคดีอาญาได้อีกด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้ทางศาลจะเป็นผู้พิพากษาเอง

ต่อมานายแพทย์พรหมมินท์ กัณธิยะ ผอ.สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ได้เดินทางมาพบกับนายประกฤษณ์ รัตนภา เพื่อให้กำลังใจและพร้อมจะช่วยเหลือหากร้องขอตามอำนาจหน้าที่ที่จะสามารถช่วยเหลือได้ ซึ่งก็สร้างความอุ่นใจให้กับนายประกฤษณ์ เป็นอย่างมาก