หมอขอนแก่นแนะควรพบแพทย์แผนไทยเพื่อประเมินร่างกายก่อนนวดทุกครั้ง เพราะมีทั้งนวดรักษาและนวดผ่อนคลาย เพราะอาการแต่ละคนไม่เหมือนกันบางอย่างต้องรักษาด้วยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.67 ที่ห้องตรวจแพทย์แผนไทย ชั้น 4 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพที่ 7 ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ตรวจเยี่ยมการให้บริการของห้องตรวจแพทย์แผนไทยเพื่อสร้างความมั่นใจและตอกย้ำมาตรฐานการให้บริการที่ถูกต้องให้กับผู้ที่มาใช้บริการซึ่งยังคงมาเข้ารับบริกรแพทย์แผนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยทุกคนที่มาใช้บริหารจะต้องถูกซักประวัติและประเมินร่างกายและสุขภาพ ด้วยแพทย์แผนไทย ก่อนที่จะส่งต่อการรักษาไปที่การนวดผ่อนคลายหรือนวดเพื่อการรักษาตามขั้นตอนที่กำหนด
นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กล่าวว่า การให้บริการแพทย์แผนไทยของ รพ.ฯ นั้นจะมีแพทย์ประจำ 2 ท่านและผู้ช่วยแพทย์ 17 ท่าน โดยผู้ช่วยแพทย์ทุกคนจะต้องผ่านการเรียนเรื่องแพทย์แผนไทยและการนวดไม่น้อยกว่าคนละ 330 ชม. ซึ่งผู้ช่วยแพทย์บางท่านผ่านการอบรมมาแล้วกว่า 800 ชม. จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยของเรานั้นจะไม่มีเท้า-เข่า-ศอก โดยเด็ดขาด ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี นั้น ยอมรับว่าต้องมีการตรวจสอบตามขั้นตอนแต่สิ่งที่สำคัญคือผู้ป่วยหรือผู้ที่เข้ารับการรักษานั้นจะต้องเข้ารับการประเมินอาการของตนเองให้ชัดเจน เพื่อที่จะทราบว่าตนเองนั้นจะต้องนวดผ่อนคลายหรือนวดเพื่อการรักษา
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ที่เข้ารับการรักษาหรือเข้ารับการนวดจะต้องตรวจสอบดูว่าสถานบริการหรือร้านที่ไปใช้บริการนั้นได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ หรือผู้ช่วยแพทย์ฯหรือหมอนวดนั้นผ่านการอบรมหรือใบประกาศใดๆบ้าง ทางที่ดีควรเลือกใช้บริการในสถานบริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะอยู่ในส่วนของ รพ.ของรัฐ และเอกชน เพราะจะมีแพทย์แผนไทยประเมินอาการในเบื้องต้นว่าควรเข้ารับการรักษาหรือการนวดแบบใด และบางคนอาจจะไม่เหมาะกับแพทย์แผนไทยก็จะต้องถูกส่งต่อการรักษาไปในที่แพทย์แผนปัจจุบัน”
นพ.ชาตรี กล่าวต่ออีกว่า การนวดผ่อนคลายนั้นผู้นวดจะต้องผ่านการอบรมไม่น้อยกว่า 160 ชม. ขณะที่การนวดรักษา นั้นผู้นวดหรือผู้ช่วยแพทย์ฯจะต้องผ่านการอบรมไม่น้อยกว่า 330 ชม. ซึ่งบริเวณลำคอนั้นเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาท ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมจะต้องให้ความสำคัญและดำเนินการตามขั้นตอนที่เรียนมาอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามหากการนวดแล้วพบว่ามีอาการปวดเมื่อ ปวดร้าวหรือชาตามมือ ควรที่จะรีบพบแพทย์ทันที และการที่หลายคนระบุว่าต้องนวดหนัก นวดซ้ำๆ นวดเน้นๆ ก็ขอให้เปลี่ยนแนวความคิดเพราะบางครั้งอาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่างๆตามมาได้ดังนั้นควรที่จะพบแพทย์แผนไทยเพื่อที่จะเข้ารับการประเมินการรักษาที่ถูกต้องว่าจะเป็นการนวดผ่อนคลายหรือการนวดรักษา ตามที่แพทย์แผนไทยกำหนด
#ข่าววันนี้ #นวดบิดคอ #แพทย์แผนไทย #นวด #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์