รองผบก.น.2 ประชุมคืบหน้าดำเนินคดี 7 ตำรวจบก.จร.-ผู้ขับขี่รถฝ่าด่าน เร่งทำสำนวนส่ง ป.ป.ช. 30 วัน 

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่สน.บางเขน พ.ต.อ.ธิติพงค์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผบก.น.2 และพ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมติดตามคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.จร. 7 นาย รุมทำร้ายร่างกายประชาชน รวมถึงการติดตามตัวผู้ขับขี่มาสด้าแดงฝ่าด่านในวันเกิดเหตุ 

ต่อมาในเวลา 10.50 น. ภายหลังจากการประชุมกว่า 2 ชม. พ.ต.อ.ธิติพงค์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งเหตุในวันที่ 4 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและได้สอบปากคำทั้งครอบครัวของผู้บาดเจ็บไปประกอบสำนวนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนก็ทำการไล่กล้องวงจรปิดแล้ว กระทั่งเจอจุดที่มีการตั้งด่านและพบว่ามีการตั้งด่านในวันเกิดเหตุจริง และมีการติดตามรถผู้บาดเจ็บจริง

ส่วนที่เกิดเหตุทาง สน. บางเขน ได้ทำการค้นหาและไม่เจอว่าเป็นจุดไหน กระทั่งวันที่ 5 ธ.ค. ครอบครัวของผู้บาดเจ็บได้มาชี้จุดเกิดเหตุว่าเป็นตรงไหน จากนั้นทางฝ่ายสืบสวนก็มีการไล่กล้องวงจรปิด และได้บันทึกภาพไปเรียบร้อย เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนในการสอบสวน หลังจากนั้นได้มีการสอบสวนผู้บาดเจ็บทราบว่าได้ให้การสอดคล้องกับข้อมูลกล้องวงจรปิดที่เกิดขึ้น จึงได้มีการเรียกตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน มาแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อย ในเบื้องต้นมีการแจ้งไป 2 ข้อกล่าวหาคือ มาตรา157 และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาให้การได้

จากนั้นคณะกรรมการได้มีการประชุมกันและได้ปรึกษาได้ความว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาที่มีการกระทำแบบนี้ คาดว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ตามมาตรา 6 และจะทำหนังสือไปถึงอัยการ เพื่อร่วมกันสอบสวน โดยหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะแจ้งข้อกล่าวเพิ่ม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีกรอบระยะเวลาทำสำนวน 30 วันก่อนส่งให้ทาง ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะรับทำคดีเอง หรือส่งกลับมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับดำเนินการ ส่วนการพิจารณาของ ป.ป.ช. ไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่คาดว่าน่าจะเร่งรัดในการทำคดีเช่นเดียวกัน 

โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการส่งเอกสารไปให้ บก.จร. ที่เป็นต้นสังกัดของผู้ต้องหา เพื่อทำการขอภาพกล้องติดหน้าอก 3 ตัว ของผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ซึ่งขณะนี้ บก.จร. รับทราบเรื่องแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งกลับมาให้สน.บางเขน ยืนยันว่าตำรวจสน.บางเขน มีพยานหลักฐานเพียงพอ แม้จะยังไม่ได้ภาพกล้องติดอกก็ตาม

ในส่วนของนายธนายุทธ อายุ 37 ปี คนต้นเรื่องซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถมาสด้าสีแดงหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาแล้วว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ดื่มสุรารามาในขณะขับรถ จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ผู้ก่อเหตุขับรถจอดชิดซ้าย เพื่อทำการตรวจละเอียด แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมให้ตรวจและขับรถหลบหนีพร้อมชนด่าน จากการกระทำต่างๆพิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ 1.เมาสุราในขณะขับรถ 2.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน 3.ทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้นเจ้าตัวมีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้(9 ธ.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. โดยคาดการณ์ว่าเจ้าตัวน่าจะรับสารภาพ

ทั้งนี้ในส่วนของเรื่องการเยียวยาผู้ที่รับบาดเจ็บนั้น เบื้องต้นจะมีค่ารักษาพยาบาลให้ และจะแจ้งสิทธิได้รับการเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บ อีกทั้งจะมีการเรียกผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติมในครั้งที่ 3 เนื่องจากว่า 2 ครั้งแรก เป็นการสอบปากคำที่โรงพยาบาลและตัวผู้บาดเจ็บเองยังไม่สะดวกให้ข้อมูลมากนัก