เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน-หุ้นไทยปรับตัวขึ้น สัปดาห์หน้าจับตาทิศทางเงินทุนต่างชาติ

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.67 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย​สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบประมาณ 1 เดือนช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์ตามการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกและการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียในภาพรวมท่ามกลางความกังวลต่อสัญญาณเตรียมเดินหน้ามาตรการกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยแข็งค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยแข็งค่าหลุดแนว 34.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 33.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ กลับมาเผชิญแรงขาย หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด (อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนและดัชนี ISM ภาคบริการเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง แม้ประธานเฟดจะส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งกว่าที่เฟดประเมินไว้ในเดือนก.ย. ซึ่งน่าจะทำให้เฟดสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะถัดไปได้ก็ตาม

สัปดาห์ระหว่างวันที่ 9-13 ธ.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.60-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และจีน ผลการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ตลอดจนข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของญี่ปุ่น


ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น รับแรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษีช่วงปลายปีและข่าวการมาเยือนไทยของผู้บริหารบริษัทเทครายใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งคาดว่ามาจากกองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปีเป็นหลัก โดยแรงซื้อหุ้นกระจายไปในหลายอุตสาหกรรม นำโดย กลุ่มแบงก์ เทคโนโลยี และค้าปลีก นอกจากนี้ดัชนีหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ โดยประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์หากบริษัทดังกล่าวเข้ามาลงทุนในไทย นำโดย บริษัทเทคโนโลยีและบริษัทผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงาน อย่างไรก็ดีกรอบการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยเริ่มจำกัดในเวลาต่อมาท่ามกลางสัญญาณระมัดระวังของนักลงทุน เนื่องจากมีวันหยุดระหว่างสัปดาห์ ประกอบกับนักลงทุนยังรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ช่วงปลายสัปดาห์  

สัปดาห์ที่ 9-13 ธ.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,440 และ 1,430 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,465 และ 1,475 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และจีน ผลการประชุม ECB ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น

#เงินบาท #ข่าววันนี้ #หุ้นไทย #เงินทุนต่างชาติ #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์