วันที่ 6 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดยโสธรคุณตาวัย 77 ปี ใช้เวลาว่างประดิษฐ์ว่าวแบบโบราณส่งขายให้กับลูกค้าที่สนใจนำไปเล่นว่าวในช่วงลมหนาวพัดผ่านเป็นรายได้เสริมเข้าครอบครัว เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวมีลมพัดผ่านคนที่นิยมนำว่าวไปเล่นกันตามทุ่งนาหรือพื้นที่โล่งแจ้ง ซึ่งว่าวที่ทำออกมากำลังเป็นที่สนใจของลูกค้าต่างมีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปเลือกซื้อทุกวันในราคาตัวละ 350-600 บาท

นายพัด ชื่นตา อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 5 บ้านสองคร ตำบลกุดชุม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร กล่าวว่า ตนฝึกการทำว่าวมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่วัยเด็ก และทำเล่นมาทุกปีในช่วงฤดูหนาวที่มีลมหนาวพัดผ่าน เนื่องจากชื่นชอบส่วนตัวอยู่แล้วจนกระทั่งเมื่อประมาณ 6 ปี ที่ผ่านมาตนจึงได้หันมาทำว่าวโบราณส่งขายอย่างจริงจังซึ่งก็สามารถขายเป็นรายได้อย่างดีจึงได้ทำขายเรื่อยมาทุกปีพอถึงช่วงฤดูหนาวของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่มีลมหนาวพัดผ่านก่อนจะนำว่าวที่ทำเสร็จออกมาวางขายอยู่บริเวณริมถนนวารีราชเดช บ้านสองคร ตำบลกุดชุม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร พอมีคนผ่านไปมาเห็นมีว่าวขายก็ต่างพากันแวะเวียนเข้าไปเลือกซื้อว่าวของตนอย่างต่อเนื่องทุกวันโดยว่าวที่ตนทำขึ้นจะเป็นว่าวจุฬา, ว่าวหาง หรือว่าวดุ๋ยดุ่ย และว่าวเครื่องบินถ้าเป็นว่าวจุฬาและว่าวหางจะขายในราคาตัวละ 350-600 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวว่าว

ส่วนว่าวเครื่องบินตัวละ 800 บาท และสนูว่าวที่ทำจากหวายจะขายอันละ 300 บาท สนูที่ทำจากเส้นพลาสติกขายอันละ 200 บาท ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างดีโดยเมื่อปีที่ผ่านมาตนมีรายได้จากการทำว่าวขายได้มากว่าครึ่งแสน ส่วนถ้าใครสนใจว่าวแบบโบราณก็สามารถไปเลือกซื้อได้ด้วยตนเองเพราะตนไม่มีโทรศัพท์ใช้ไม่สามารถที่จะสั่งจองหรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ ซึ่งว่าวของตนจะเป็นว่าวสูตรโบราณที่ทำมาจากไม้ไผ่ และกระดาษถุงปูนซีเมนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว เนื่องจากถุงปูนซีเมนต์จะมีความเหนียวทนทานสามารถรับแรงลมได้ดีกว่ากระดาษชนิดอื่น