ผู้เสียหาย 4 คน ที่ถูกตำรวจภูธรภาค 7 เข้าจับกุมกลางปั้มน้ำมันในจังหวัดราชบุรี และได้รับบาดเจ็บ เข้าร้อง ผบ.ตร. ให้ช่วยตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
น.ส.จุฑารัตน์ เจ้าของผู้ประกอบการขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในภาคใต้ พร้อมด้วย นายชาติ ที่ปรึกษา กก.ตร.จ.สมุทรปราการ และผู้เสียหายอีก 2 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 7 ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ หลังจากที่ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบจับกุมตัว กลางปั๊มน้ำมันในจังหวัดราชบุรี จนได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลอดที่ผ่านพยายามเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่มา 5 เดือนแล้ว แต่คดีไม่คืบ จึงนำหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรม ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
น.ส.จุฑารัตน์ เจ้าของผู้ประกอบการขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในภาคใต้ เล่าให้ฟังว่า ตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมขณะกำลังนำรถบรรทุกสิบล้อมาคืนให้บริษัทรถเช่าที่ให้เช่า ซึ่งเป็นการทำธุรกิจร่วมกัน โดยมีการเซ็นสัญญาเช่ารถไว้ในระยะเวลา 3 ปี แต่ภายหลังเมื่อผ่านระยะการเช่ารถ 1 ปี ธุรกิจตนมีปัญหา ยอมรับว่าขาดการส่งค่าเช่ารถ ทางบริษัทที่ให้เช่ารถจึงเสนอให้มีการนำรถมาคืนโดยไม่ต้องชำระหนี้ แต่ตนมองว่าเป็นส่วนของหนี้ ก็จะต้องมีการชำระคืนให้ แต่สุดท้ายบริษัทเช่ารถขอยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด และพร้อมทั้งจ่ายค่าชดเชยให้ตนเป็นเงินจำนวน 250,000 บาท จึงได้มีการนัดหมาย เพื่อคืนรถกันตามปกติ แต่ตนกลับถูกบริษัทเช่ารถดำเนินคดี พร้อมทั้งมีการนัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนอกเครื่องแบบ เข้าจับกุมพร้อมทั้งใช้กำลังในการจับกุมเกินกว่าเหตุจนทำให้ตนและนายชาติ ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ และตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งที่ผ่านมาตนพยายามต่อสู้คดีและก็ได้เดินทางไปร้องเรียนถึงการกระทำเกิดกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งที่ สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และหน่วยงานอื่นๆเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ แต่ผ่านมาประมาณ 5 เดือนแล้วเรื่องกลับเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นายชาติ แก้วตาทิพย์ บอกเสริมอีกว่า การเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้ เพื่อที่จะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานจเรตำรวจ ได้ช่วยเหลือและตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาว่าการกระทำลักษณะเช่นนี้ เป็นไปตามหน้าที่อันสมควรของผู้บังคับใช้กฎหมายจริงหรือไม่ เพราะจากพฤติการณ์ในคลิปที่กระทำต่อผู้หญิงแล้ว ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติดหรือคดีอาญาใหญ่ๆ
ขณะที่วันนี้ มี พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ รอง ผกก.ฝ่ายกฎหมายและวินัย บก.อก.บช.ส. เป็นผู้แทนลงมารับเรื่องร้องเรียน เขาทั้งรับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปรายงานต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการตรวจสอบด้วย