วันที่ 6 ธ.ค.67 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ โพสต์คลิปให้สัมภาษณ์ TNN ข่าวเที่ยง  "ไปตามเกม" ในประเด็น ฝ่าทางตัน! ศึกยูเครน "สหรัฐฯ" ผู้นำระเบียบโลกใหม่ ผ่านเฟซบุ๊ก Panitan Wattanayagorn 

โดย ดร.ปณิธาน กล่าวว่า ทั้งหมดยากมาก แต่ก็อาจจะไม่ทางเลือกสำหรับสหรัฐฯ ที่จะต้องกลับมาเข้มแข็งอีก ทั้งพรรคเดโมแครต และ รีพับลิกันก็เป็นห่วงความถดถอยของสหรัฐฯเห็นแทบทุกด้านแทบทุกมิติ จะยังไง แต่บังเอิญวิธีการทำต่างกัน ของฝั่งรีพับลิกันที่ชนะการเลือกตั้งแล้วคนมั่นใจว่าจะทำได้มากกว่า แต่ก็ไม่ยืนยันความสำเร็จอยู่ดี

1.คือว่าจะยุติการสู้รบแล้วผลักดันให้เกิดสันติภาพ โดยที่สหรัฐไม่เสียเปรียบมากนัก ผลักดันให้ทั้งคู่กรณีทั้งในยุโรป และ ตะวันออกกลางเข้าสู่การเจรจาเพ่อสงบศึกชั่วคราวก็ยังดี เหมือนไฟต์บังคับของสหรัฐฯต้องลดการยุ่งเกี่ยว แต่ว่ายังผลักดันให้เกิดสันติภาพ ซึ่งตรงนี้คนที่ไม่ชอบทรัมป์ก็ยังชอบ เพราะว่าดูเหมือนว่ามีทางเลือกที่ยังชัดเจนกว่าเดโมแครตที่สนับสนุนให้มีการรบไปเรื่อยๆ แล้วไต่ระดับไปถึงขั้นรุนแรงอันตราย ขณะนี้เราก็เห็นผลพวงในซีเรีย ซึ่งขณะฮิซบอลเลาะห์ ฮาลมัส อ่อนลง กลุ่มต่อต้านรัฐบาลลุกขึ้นมาใหม่ ตรงนี้ทรัมป์ไม่อยากเห็น เพราะว่า ทรัมป์เป็นพ่อค้า เป็นนักลงทุน กระทบกับบรรยากาศการลงทุนไปหมด ทรัมป์ผลักดันให้เกิดสันติภาพ 

2.แผนที่จะทำ คนอยากจะดู วันนี้คนเริ่มให้แล้วอย่างเช่น วันนี้แผนที่ปรึกษาของทรัมป์ เป็นทูตพิเศษของยูเครน ซึ่งเป็นอดีตนายพล เคยรบที่เวียดนาม ตะวันออกกลาง จะทำอย่างไร เจรจาให้ทุกฝ่ายยุติทุกอย่างไว้เท่านี้ก่อน คือพักรบชั่วคราว เรียกว่า ฟรีซ คือแช่แข็ง ยึดเท่าไหร่ก็ยึดไปก่อน ไม่คืน ถ้ายูเครนไม่ยอมจะลดความช่วยเหลือลงทันที จะต้องผลักดันให้ยูเครนเข้าไปเจรจา เมื่อเข้าไปเจรจาแล้วจะเข้าช่วยยูเครนเจรจากับรัสเซีย ทรัมป์จะเข้าไปช่วยลดการคว่ำบาตรลง แล้วเอาเงินที่ลดลงตรงนั้น ไปช่วยเหลือยูเครน อาจต้องเจรจาไปถึงประธานธิบดีปูติน ทรัปม์อาจหมดสมัย แต่ระหว่างนี้ 3-4 ปีก็ได้ค้าขาย ขณะเดียวกันทรัมป์จะไปคุยกับเกาหลีเหนือด้วยว่า อย่าไปยุ่งมาก ในเรื่องทางเกาหลีเหนือน่าจะพอใจ

จบภายในวันเดียว ประกาศพักรบ เป้าหมายคือ ต้องให้เกิดสันติภาพ คือตอนนี้ตะวันออกกลางซับซ้อนอยู่มาก แต่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน อเมริกาต้องมาก่อน อเมริกันต้องไม่เสียเปรียบ ประเด็นแรก คือ เนื่องจากอิสราเอลบรรลุเป้าหมายทางการทหาร อิสราเอลได้เปลี่ยนจากการล้มเหลวหลังจากที่โดนฮาลมัสโจมตี มาเป็นชัยชนะทางการทหารที่ชัดเจน ทำลายกองกำลังฮาลมัสหมด อิหร่านก็ส่งสัญญาณแล้วว่า อยากจะสงบศึกผ่านทางฮิซบอลเลาะห์ ยินดีให้ฮิซบอลเลาะห์เข้าไปเจรจาสงบศึก 60 วัน ถึงแม้จะมีการรบประปราย ทุกฝ่ายก็เชื่อว่า น่าจะยืนได้ แสดงว่าอิหร่านก็ไม่อยากจะเผชิญหน้า ฝ่ายทรัมป์ก็มองว่า น่าจะพอ และน่าจะเริ่มเจรจา น่าจะเริ่มผลักดัน คู่ขนานไปกับรัสเซีย ยูเครน 

ที่ปรึกษาทรัมป์บางทีม บอกว่า ก่อนวันที่ 20 ม.ค.68 น่าจะทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับของขวัญสำคัญ คือ ข้อตกลงสงบศึกกับฮาลมัส ปล่อยตัวประกันร้อยกว่าคนที่เหลือ การเจรจากับฮิซบอลเลาะห์ และ ฮาลมัส อาจจะสำเร็จ ช่วงต้นปีหน้าเหมือนกัน สัปดาห์นี้ก็จะมีการประชุมกันพวกฮาสมัส โดยมีอียิปต์เป็นเจ้าภาพไปแล้ว  และคงต้องมีการผลักดันให้เกิด แต่ก็ไม่ง่าย เพราะฮาสมัสขณะนี้กลไกโครงสร้างกระจาย และต่างฝ่ายต่างก็หนีพร้อมตัวประกันไปหลายๆที่ แต่ทั้งหมดเหล่านี้ก็อาจสามารถที่จะเจรจาผ่านทางตรุกี ซึ่งตรุกีกลับกลายเป็นมีบทบาทสำคัญทั้งในซีเรีย กาซ่า แลัสำนักงานใหญ่ของฮาสมัสที่จะไปตั้งที่ตรุกีที่เป็นข่าว เพราะฉนะนั้นเป็นไปได้ ภายในเวลาเดือนกว่าที่เหลืออยู่ฮิซบอลเลาะห์น่าจะตกลงแล้วว่า จะเอากองกำลังเข้าไปรักษาข้อตกลงหยุดยิงยังไง

ทรัมป์อาจจะมีวิธีเขย่าอิหร่านในหลายทิศทาง ขณะที่อิหร่านก็เสียท่าไปเยอะ พันธมิตรอย่างฮิซบอลเลาะห์ ฮัสมาส บาดเจ็บ แล้วอิหร่านก็ไม่พร้อมที่จะสนับสนุน เนื่องจากสภาพเศราฐกิจ และคนในอิหร่านก็ประท้วง ซึ่งก็อาจมีสองทาง คือ ทางหนึ่ง คือการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องของการลดความน่ากลัวของโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งอิสราเอลค่อนข้างจะเป็นกังวลที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าอิหร่านชะลอ ไม่ผลักดันติดอาวุธได้จริง ทุกอย่างทำได้หมด อิหร่านใช้ปัจจัยนี้มาเจรจาต่อรองกับอิสราเอลผ่านทางสหรัฐฯ จะทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่า อิหร่านไม่ติดอาวุธนิวเคลียร์ แล้วทำให้เกิดการพูดคุย ซาอุดิอาระเบียก็จะสบายใจได้ 

ข้อที่สองคือ อิหร่านต้องคิดว่า ถ้าไม่ใช้วิธีการแบบนี้ จะเดินหน้าติดอาวุธนิวเคลียร์เลยไหม เพื่อจะพลิกสถานการณ์อีก และไปเจรจากับอิสราเอลอีกจังหวะหนึ่ง หลังจากอิหร่านที่มีอาวุธนิวเคลียร์แบบเกาหลีเหนือ เอานิวเคลียร์มาต่อรองเป็นการทูตนิวเคลียร์แบบเกาหลีเหนือในช่วงหนึ่ง หรือว่าผผลักดันให้ติดอาวุธนิวเคลียร์จริงๆแบบเกาหลีเหนืออีกช่วงหนึ่ง สองช่วงนี้เป็นช่วงที่อิหร่านขณะนี้ว่าต้องตัดสินใจ ทางทรัมป์ก็มองว่า ถ้าไม่ติดอาวุธนิวเคลียร์จะลดการคว่ำบาตรอันนี้ก็เป็นไปได้ว่า ทรัมป์พยายามผลักดันให้ได้ในรูปแบบแรก แทนที่จะปล่อยให้อิหร่านติดอาวุธนิวเคลียร์ จริงๆแล้ว อิหร่านส่งสัญญาณชัดเจนว่า จริงๆแล้วไม่อยากรบ ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณมีท่าทีที่หลายคนบอกว่าแปลก เพราะว่าประกาศศัตรูตลอกชีพก็คือ อิสราเอล แต่พอจะรบจริงๆบอกว่าไม่รบดีกว่า เพราะฉะนั้นก็เกิดการแปรปรวนในกลุ่มคนหัวรุนแรงสุดโต้งในอิหร่านต้องการให้เปิดฉากรบเลย กับคนที่ไม่ต้องการเห็นสงครามเลย ขณะนี้เกิดการแปรปรวนในเรื่องของเศรษบกิจ การเมืองภายใน ที่เห็นหลายๆครั้ง ทำให้ผู้นำสูงสุดต้องลำบากใจในการตัดสินใจไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้อิหร่านช้าลง โต้ตอบอิสราเอลได้น้อยลง