"รมว.นฤมล" เปิดกระปุกออมสิน ปิดโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็งฯ โชว์ผลสำเร็จนำบัญชีเป็นพลังสร้างชุมชนแห่งการออมทั่วประเทศ

วันที่ 6 ธ.ค.67 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีปิดโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (กิจกรรมเปิดกระปุกออมสิน) จัดโดย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยร่วมเปิดกระปุกออมสิน นับยอดเงินออมผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์พร้อมกันทั่วประเทศ ชูสร้างวินัยการเงินภาคครัวเรือน กระตุ้นให้เกิดการออม 

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสำคัญในการยกระดับรายได้ของเกษตรกร โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ อีกทั้งส่งเสริมการเพิ่มความรู้ทางการเงินการบัญชี และส่งเสริมการออมในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สอดรับกับวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งดำเนินงานภายใต้ หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ด้วยการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการบริหารจัดการแบบแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรสมัยใหม่ เกษตรแม่นยำ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มผลผลิตและแก้ไขภาคการเกษตร ขับเคลื่อนงานผ่านหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม จึงมอบนโยบายให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินงานขับเคลื่อนการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร อีกทั้งเสริมองค์ความรู้ให้ภาคประชาชน สามารถนำบัญชีไปใช้วางรากฐานของชีวิต เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความสมดุลในการดำรงชีวิตและกระตุ้นให้เกิดการออม ซึ่งการสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชนและครัวเรือน ถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมได้อย่างดียิ่ง

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ เป็นการสรุปผลการดำเนินกิจกรรมที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนการเสริมสร้างวินัยทางการเงิน ส่งเสริมการออมไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ ภายใต้โครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือน ขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นโครงการที่ประชาชน สามารถนำความรู้จากกิจกรรมส่งเสริมการออม ไปสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้กับตนเองและในครัวเรือนได้ อีกทั้ง การดำเนินกิจกรรมเสริมสัมพันธ์ ยังช่วยให้ประชาชนในชุมชน มีความรักใคร่สามัคคี ร่วมกันทำนุบำรุงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทำให้เห็นถึงทิศทางที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งได้อย่างเป็นรูปธรรม

ด้านนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินกิจกรรมสร้างความสามัคคีให้แก่ประชาชนในชุมชน ตามแนวคิด “บวร” (บ้าน-ชุมชน/วัด-ศาสนาสถาน/โรงเรียน-ส่วนราชการ) มุ่งเน้นการสร้างวินัยทางเงินภาคครัวเรือน ส่งเสริมการออม โดยมีการ Kick Off เปิดโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 และมีการจัดทำกระปุกออมสิน จำนวน 10,000 กระปุก แจกให้ผู้เข้าร่วมโครงการ 89 ชุมชน ใน 77 จังหวัด และบุคลากรกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมกิจกรรมฝึกการออม อย่างน้อยวันละ 10 บาท ผลการดำเนินการภายใต้โครงการ มีประชาชนในชุมชนและบุคลากรกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าร่วมกิจกรรม รวม 10,473 ราย 89 ชุมชน ใน 77 จังหวัด ประกอบด้วย

​​​​​​​

1. กิจกรรมส่งเสริมการออมและฝึกอาชีพเสริมรายได้ ประกอบด้วย กิจกรรมสอนแนะการจัดทำบัญชี รับ - จ่ายในครัวเรือน สอนแนะการจัดทำบัญชี ผ่านสมุดบัญชีและ Smart Phone จำนวน 7,797 ราย กิจกรรมฝึกอาชีพเสริมรายได้สร้างเงินออม เช่น กิจกรรมสอนการทำอาหาร/แปรรูปอาหาร งานหัตถกรรม การทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แนะนำการขายของออนไลน์ เป็นต้น จำนวน 7,445 ราย 

2. กิจกรรมเสริมสัมพันธ์ ที่บุคลากรกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ร่วมทำกับชุมชน ประกอบด้วย กิจกรรมเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จำนวน 400 ครั้ง รวม 10,892 ราย กิจกรรมอาสา/สาธารณประโยชน์ เนื่องในโอกาสวันสำคัญต่าง ๆ จำนวน 275 ครั้ง รวม 10,313 ราย และ กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำนวน 140 ครั้ง รวม 6,647 ราย 

​​​​​​​

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว สร้างให้เกิดเงินออมในครัวเรือนทั่วประเทศ ยอดเงินออมรวม 21,380,751 บาท