สุริยะเตรียมคลอดมาตรการลงโทษผู้รับเหมา ถกกรมบัญชีกลางออก "สมุดพกผู้รับเหมา" ปรับเงินสูงสุด ตัดสิทธิเข้าร่วมประมูลงาน พร้อมสั่งหยุดก่อสร้างพระราม 2 ทุกโครงการ ชั่วคราว คืนผิดจราจรช่วงปีใหม่

        
 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีการตั้งข้อสังเกต เรื่องของบทลงโทษผู้รับเหมา โครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 จากกรณีที่เครนถล่มบนถนนพระราม 2 มีความเข้มงวด หรือไม่ ว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่งรมว.คมนาคม ตนได้สั่งการมีนโยบายให้เอกชนผู้รับเหมาที่ก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ดำเนินการก่อสร้างช่วงกลางคืนเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนต่างๆ ในโครงการหล่นใส่ประชาชนผู้ใช้ทาง
        
 นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการต่างๆ ในสัญญาระบุว่าจะมีการลงโทษโดยการปรับเงินเอกชนผู้รับเหมาในกรณีที่ทำให้โครงการฯ ล่าช้าและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่พบว่าบทลงโทษในสัญญาเอกชนผู้รับเหมาไม่กลัว โดยเฉพาะผู้รับเหมาชั้นพิเศษที่มองว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย ทำให้ยอมเสียค่าปรับ และส่งผลให้โครงการล่าช้าออกไป ทั้งนี้จากบทลงโทษข้างต้น ทำให้กระทรวงคมนาคมมีบทลงโทษจัดทำสมุดพกตัดคะแนนชั้นผู้รับเหมา หากถึงเกณฑ์ที่กำหนดจะหมดสิทธิ์ในการประมูลโครงการภาครัฐทันที
      
   นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ยอมรับว่ามีข้อจำกัดในการลงโทษผู้รับเหมา เพราะยังติดสัญญาเดิม ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่มีงานก่อสร้างเช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมกันเร่งพิจารณาให้ความเห็นต่อร่างระเบียบกระทรวงการคลังในการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้รับเหมา เพื่อเข้าหารือกับกรมบัญชีกลางถึงแนวทางจัดทำมาตรการ "สมุดพกผู้รับเหมา" เพื่อให้ออกมาเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด 
       
  เบื้องต้น มาตรการดังกล่าว นอกจากจะปรับเงินสูงสุดตามกฎหมายและตัดสิทธิในการเข้าร่วมประมูลงานแล้ว จะเพิ่มการ "ตัดคะแนน" ด้วย ซึ่งหากไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาลดชั้นผู้รับเหมารวมไปถึงการถอดรายชื่อออกจากทะเบียนผู้รับเหมาที่มีสิทธิเข้าประมูลโครงการของภาครัฐทันที โดยภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ จะเร่งสรุปความเห็นต่อร่างระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าว เพื่อนำไปพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับกรมบัญชีกลางเพื่อหาข้อสรุปให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
       
  สำหรับการก่อสร้างทุกโครงการบนถนนเส้นพระราม 2 ภายในช่วงวันที่ 26 ธ.ค.67 - 2 ม.ค.68 กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ระงับการดำเนินการทั้งหมด พร้อมคืนผิวถนนในการสัญจรให้ได้มากที่สุด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง พร้อมแนะนำประชาชนศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดช่วงเทศกาลปีใหม่
       
  ด้าน นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ชิ้นส่วนสะพานที่ก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 ว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้กรมทางหลวงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสภาวิศวกร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อร่วมหาสาเหตุโดยจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 14 วัน
      
   ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกด้าน กรมทางหลวงและวสท. ได้ร่วมมือกันในด้านต่างๆ ได้แก่ การวางแผนการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กและคอนกรีตออกจากพื้นที่โดยร่วมกับคณะอนุกรรมการสาขาโครงสร้างและสะพาน และคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมยกหิ้วและปั้นจั่น วสท., การบินโดรนสำรวจความเสียหายของโครงสร้างเหล็กโดยละเอียดร่วมกับวิศวกรกรมทางหลวง, การร่วมประชุมวางแผนเพื่อหาข้อสรุปในการกำหนดจุดติดตั้งเครนกับทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย, และการกำกับดูแลการดำเนินการทั้งหมดร่วมกับทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
     
    สำหรับความคืบหน้าล่าสุดกรณีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กและคอนกรีตนั้น ขณะนี้ทีมวิศวกรสามารถยกชิ้นส่วนสะพานคอนกรีต (Segment) จำนวน 3 ก้อน ที่ติดค้างอยู่ด้านบนลงมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว และจะทำการรื้อในส่วนของโครงสร้างเหล็กต่อไป โดยตามกำหนดนั้น จะแล้วเสร็จภายใน 14 วัน และหลังจากนั้นพร้อมเปิดให้ประชาชนได้จราจรได้ตามปกติ ทั้งเส้นหลักและเส้นคู่ขนานของทางหลวงหมายเลข 35