บิ๊กบัวแก้วบอกยังไม่ทราบเข้าครม.วันไหน ปมตั้งเจทีซีเพื่อเจรจาทางการกัมพูชาตามเอ็มโอยู44 โบ้ยตอบภูมิธรรมนั่งหัวโต๊ะ ปกรณ์วุฒิ ระบุประเด็นเอ็มโอยู44 ไม่จำเป็นต้องใช้ม.152 เปิดอภิปรายทั่วไป แนะเสนอญัตติด่วนได้
ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (เจทีซี) สำหรับการเจรจากับกัมพูชาตามเอ็มโอยู44 เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่ทราบเลย เมื่อถามว่า ประธานจะเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เพราะกำลังรับฟังข้อมูลและพิจารณากันอยู่ และจะว่ากันอีกครั้ง
ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้ความเห็นต่อกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อหารือกรณีข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลไทย-กัมพูชา และกรณีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาเมื่อปี 2544 หรือ เอ็มโอยู44 ว่า เดิมทีพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการเตรียมการเสนอญัตติตามมาตรา 152 ในสมัยประชุมที่จะถึงนี้อยู่แล้ว ซึ่งญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอนั้นจะมีเนื้อหาสาระที่กว้างขวาง ครอบคลุมหลายประเด็นที่เป็นที่สนใจของสังคมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตามบทบาทของฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบ ตั้งคำถาม และให้ข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี
สำหรับประเด็นเอ็มโอยู44 ซึ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องใช้ญัตติตามมาตรา 152 แต่อย่างใด เพราะหากพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว ญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 และญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 คือการให้อำนาจในการตรวจสอบถ่วงดุลกับเสียงข้างน้อยหรือพรรคร่วมฝ่ายค้านให้สามารถเข้าชื่อเสนอญัตติได้ โดยที่ฝ่ายเสียงข้างมากไม่มีสิทธิคัดค้าน และยังจำกัดไว้ไม่ให้ถูกใช้จนเกินพอดีคือเพียงปีละหนึ่งครั้งต่อญัตติเท่านั้น เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากสามารถคว่ำทุกวาระที่ฝ่ายค้านเสนอได้อยู่แล้ว และในทางกลับกัน หากฝ่ายรัฐบาลต้องการพิจารณาญัตติใดก็สามารถใช้เสียงข้างมากในสภาฯ เสนอได้ทุกครั้งเช่นกัน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ดังนั้น หากทางฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญและเร่งด่วน รัฐบาลก็สามารถเสนอเรื่องนี้เข้ามาเป็น ญัตติด่วน ได้ หรือหากมีความกังวลว่าญัตติทั่วไปที่พิจารณาในสภาเป็นการคุยกันเฉพาะส.ส. ไม่มีรัฐมนตรีมาตอบ ตนก็ต้องยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถทำได้ เพราะตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อ 30 ระบุว่า ถ้านายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีขอแถลงหรือชี้แจงเรื่องใดต่อที่ประชุม ให้ประธานพิจารณาอนุญาต
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า จึงเสนอว่ารัฐบาลควรเสนอเรื่องนี้เข้ามาเป็นญัตติด่วน หารือกันระหว่างวิป 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี ตกลงกันถึงวันที่เหมาะสมที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาชี้แจงต่อสภาฯ ได้ โดยใช้เวลาหนึ่งวันเต็มหรือมากกว่านั้นในการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเดียว วิธีนี้จะช่วยให้สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว และไม่ผิดเจตนารมณ์ของมาตรา 152 ที่มุ่งหมายให้เป็นช่องทางการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลโดยฝ่ายค้านในระบบรัฐสภา
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า พรรคประชาชนกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมที่กำลังจะมาถึง จึงขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องประชาชน ข้าราชการ ผู้ประกอบการ และผู้ที่มีข้อมูลการทุจริตประพฤติมิชอบต่างๆ สามารถส่งเรื่องมายังช่องทางติดต่อของพรรคประชาชนได้