เลือกตั้ง นายก-สท.เทศบาลนครบุรีรัมย์ ฟันธง “อนุชิต” เข้าวิน พร้อม สท.ยกทีม ขณะ “ประเสริฐ-ไอลดา” สูสี ส่วน 7 ผู้สมัคร สท.กลุ่มอิสระ ริบหรี่
สนามการเมืองท้องถิ่นของ จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะเทศบาลนคร (ทน.)บุรีรัมย์ กรณีพ้นจากตำแหน่ง เพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ (เปลี่ยนแปลงฐานะ) หลังจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำเทศบาลนครบุรีรัมย์ ได้เปิดรับสมัครนายกเทศมนตรี (นายก) นครบุรีรัมย์ และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครบุรีรัมย์ ใน 4 เขตเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 11-15 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นที่ดูคงที่ กลับสูงขึ้นมาอีกครั้ง
สำหรับเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ มีผู้สมัครกันทั้งหมด 3 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายอนุชิต เหลืองชัยศรี หรือ “เสี่ยชิต” หัวหน้าทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์” หมายเลข 2 นายประเสริฐ เลิศยะโส อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มอิสระ และหมายเลข 3 นางสาวไอลดา อิศรางกูร ณ อยุธยา กลุ่มอิสระ ซึ่งมีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ และผู้นำชุมชน
ส่วนสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง จำนวน 31 คน แยกเป็น “กลุ่มคนบุรีรัมย์” ของนายอนุชิต เหลืองชัยศรี ส่งลงสมัครครบ ทั้ง 4 เขตๆ ละ 6 คน และมีกลุ่มอิสระ 7 คน
โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 15 ธ.ค.2567 แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 4 เขตเลือกตั้ง 60 หน่วยเลือกตั้ง ดังนี้ เขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 13 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 13 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 3 จำนวน 18 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 16 หน่วยเลือกตั้ง รวม 40 ชุมชน/หมู่บ้าน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 38,004 คน ซึ่ง กกต.ท้องถิ่นตั้งเป้ามาใช้สิทธิ์ ร้อยละ 75 ส่วนจะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากน้อยเพียงใด เราไปดูภูมิหลังของผู้สมัครนายกเทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้ง 3 คน ว่า มีดีเด่นดังอะไรบ้าง และกระแสคนบุรีรัมย์ จะเลือกใครเข้ามาเป็นนายกเทศมนตรีนคร และสมาชิกสภาเทศบาลนครบุรีรัมย์ ครั้งนี้
เริ่มที่ นายอนุชิต เหลืองชัยศรี หรือ “เสี่ยชิต” หัวหน้าทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์” เป็นนักธุรกิจหนุ่ม รุ่นใหม่ไฟแรง ที่ขออาสามารับใช้พี่น้องประชาชน การลงสนามการเมืองท้องถิ่นครั้งแรกของ นายอนุชิต ซึ่งคราวนี้ คาดหวังมานั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ คนแรก ที่มีฐานคะแนนหลักเป็นอดีตสมาชิกสภาเทศบาล และสมาชิก อบต. แต่การเลือกตั้งยังไม่จบสิ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
นายอนุชิต กล่าวเพียงสั้นๆว่า เป็นการลงเล่นการเมืองครั้งแรก ด้วยการลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่มีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะพัฒนานครบุรีรัมย์ให้เจริญก้าวหน้า ทั้งด้านสาธารณูปโภค เศรษฐกิจ และด้านการศึกษา ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้เข้าไปเป็นตัวแทนทำหน้าที่ และเชื่อว่าจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อม ส.ท.ยกทีม ทั้ง 4 เขต
โดย “กลุ่มคนบุรีรัมย์” พร้อมทำงานเพื่อให้จังหวัดบุรีรัมย์เดินหน้าพัฒนา ในด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง สร้างรายได้ ต่อยอดเมืองกีฬาระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยว พัฒนาการศึกษา สาธารณูปโภค และเศรษฐกิจ ให้พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ มีรายได้ กินดีอยู่ดี
ด้านคู่แข่งที่คาดว่าสู้กันอย่างเข้มข้นอย่าง นายประเสริฐ เลิศยะโส อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงการเมืองมาตลอด ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น อยากจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน กู้ศักดิ์ศรีชาวบุรีรัมย์ ปราบทุจริตคอร์รัปชั่น นำการพัฒนาทุกด้าน และต้องการเปลี่ยนแปลงจังหวัดบุรีรัมย์ให้ดีขึ้น ทั้งคุณภาพชีวิตและสาธารรณูปโภค ส่วนตัวการเลือกตั้งครั้งนี้ก็มั่นใจ แต่ผลจะเป็นยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน จึงทำให้การเลือกตั้งดูเข้มข้นขึ้นมาทันที
แต่ก็ยังมีอีกคนคือ นางสาวไอลดา อิศรางกูร ณ อยุธยา กลุ่มอิสระ เป็นคนรุ่นใหม่ แม้ชื่อเสียงจะไม่โด่งดัง และไม่เคยผ่านสนามการเมืองท้องถิ่นมาเลย ที่ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ขออาสารับใช้พี่น้องชาวเทศบาลนครบุรีรัมย์ เป็นตัวเลือกใหม่ในการตัดสินใจ ก็หวังคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นไม้ประดับทางการเมือง ซึ่งหากทั้งนายอนุชิต และนายประเสริฐ ฟัดกันนัวเนีย และซวนเซกันไปทั้งคู่ อาจจะเสร็จ นางสาวไอลดา ก็เป็นได้
ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง นายอนุชิต กับนายประเสริฐ ทั้งคู่ล้วนเป็นคนที่ประชาชนในพื้นที่ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบนั้น ฟันธงไว้เลยว่า นายอนุชิต จะมีภาษีดีกว่าผู้สมัครคนอื่น แต่ก็ยังมีตัวสอดแทรกจากผู้สมัครอิสระ ที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นตาอยู่ คว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ ไปครองชนิดไม่ต้องออกแรงก็เป็นได้
หลายคนมีคำถามว่า “ใครจะคว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ คนแรก เพราะผู้สมัครแต่ละคนนั้น ล้วนมีดีกรี และประสบการณ์ในการทำงานมามากมาย ทำให้สนามนี้ดูเข้มข้นขึ้นมาก ส่วนการวิเคราะห์ดูความเข้ม และความเด่นชัด คงต้องให้ชาวบ้านพิจารณากันเองในดีกรีของแต่ละคน นี่คือข้อมูลในการที่จะให้ประชาชนในเทศบาลนครบุรีรัมย์ ได้พิจารณาเพื่อไปใช้สิทธิในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 นี้ ว่าใครจะได้เข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนชาวเทศบาลนครบุรีรัมย์ มากที่สุด
สำหรับการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน เริ่มคึกคัก ทั้งผู้สมัครนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครบุรีรัมย์ พบว่าส่วนมากจะใช้วิธีการแนะนำตัวผ่านโซเชียล และจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปทั่วในเขตเลือกตั้งตลอดทั้งวัน ซึ่งยอมรับว่ามีการจัดตั้งทีมงานที่ไว้ใจได้ นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่ออกพบปะตามหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียงอีกด้วย
สนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ และสมาชิกสภาเทศบาลนครบุรีรัมย์ ครั้งนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษว่า จะมีการแข่งขันค่อนข้างเข้มข้น คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง จะการส่งทีมงานเข้าไปเจาะหาผู้นำในชุมชน หมู่บ้านให้ช่วยเป็นหัวคะแนน เพื่อพยายามเจาะฐานเสียงคู่แข่งโดยอาศัยญาติพี่น้อง และผู้ใกล้ชิด แบบน้ำซึมบ่อทราย ซึ่งจะเป็นคะแนนจัดตั้งมากกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว ผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใด คงต้องรอในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 นี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่า พี่น้องประชาชนชาวเทศบาลนครบุรีรัมย์ จะเลือกใครเป็นนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ คนแรก เข้ามาทำงาน.