เวียนมาบรรจบจนครบรอบปีที่ 20 แล้ว สำหรับ การรำลึกเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัย หรือแผ่นดินไหว ก่อนเกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา ในพื้นที่ของประเทศที่อยู่รอบริมฝั่งมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2004 (พ.ศ. 2547) ที่ในปีนี้ก็ครบ 20 ปีพอดีตามที่กล่าวแล้วข้างต้น

โดยวันประกอบพิธีรำลึกจริงๆ ก็จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคมที่จะถึงนี้ และเวลาที่จะประกอบพิธีก็จะมีในเวลา 07.58.53 น.ของวันดังกล่าว อันเป็นช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ก่อนจะเป็นเหตุเกิดคลื่นสึนามิตามมาในอีกไม่กี่สิบนาทีหลังจากนั้น ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็คร่าชีวิตของประชาชนพลเมือองในพื้นที่ 14 ประเทศ ไปจำนวนไม่น้อย 230,000 ชีวิต ที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิกลืนกิน

นักท่องเที่ยวต่างชาติ วิ่งหนีคลื่นยักษ์สึนามิที่กำลังพัดจะถาโถมเข้ามา (Photo : AFP)

ตามการเปิดเผยของบรรดานักธรณีวิทยา ระบุว่า เหตุธรณีพิโรธครั้งกระนั้น วัดความรุนแรงได้ถึง 9.2 – 9.3 ตามมาตราริกเตอร์เลยทีเดียว

จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ก็อยู่นอกชายฝั่งของเกาะสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจัดเป็นน่านน้ำของมหาสมุทรอินเดีย เป็นแผ่นดินไหวที่เรียกว่า แผ่นดินไหวเมกะทรัสต์ใต้ทะเล หรือที่ในวงการวิทยาศาสตร์เรียกว่า แผ่นดินไหวสุมาตรา-อันดามัน ซึ่งเกิดจากการแตกร้าวตามรอยเลื่อนของเปลือกโลกระหว่างแผ่นพม่ากับแผ่นอินเดีย ห่างจากชายฝั่งของเกาะสุมาตราเหนือไปประมาณ 160 กิโลเมตร และลึกลงไปในชั้นใต้ดินราว 30 กิโลเมตร ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา

โดยมีรายงานว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวได้ประมาณ 20 นาที คลื่นยักษ์สึนามิก็พัดถล่ม จ.อาเจะห์ ซึ่งเป็นจังหวัดทางเหนือสุดของเกาะสุมาตราเหนือ เป็นแห่งแรก โดยเมืองที่สัมผัสกับคลื่นยักษ์สึนามิที่ถาโถมเข้ามาเป็นแห่งแรกคือ เมอลาโบห์ นครหลวงของเขตการปกครองอาเจะห์ตะวันตก ใน จ.อาเจะห์ นั่นเอง

เหล่าบรรดานักวิเคราะห์ ได้ประมาณการกันว่า ขนาดความสูงของคลื่นยักษ์สึนามิที่พัดถล่มเมืองเมอลาโบห์ ก็ไม่น้อยกว่า 30 เมตร ก็คร่าชีวิตชาวเมืองทันทีกว่า 10,000 คน เฉพาะเมืองนี้เมืองเดียว พร้อมกับสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือนต่างๆ ถูกคลื่นยักษ์สึนามิทำลายไปถึงกว่าร้อยละ 80

ก่อนที่คลื่นยักษ์สินามิ จะถาโถมไปถึงเมืองบันดาอาเจะห์ ในพื้นที่ถัดมา ด้วยขนาดความสูงของคลื่น 20 – 30 เมตร และบางจุดก็สูงถึง 35 เมตร โดยคลื่นยังบุกไปถึงแผ่นดินตอนใน ซึ่งห่างจากชายฝั่งทะเลไม่น้อยกว่า 3.5 กิโลเมตร หรือ 3,500 เมตร หรือ 3 กิโลเมตรครึ่ง กระทบต่อบ้านเรือนที่พักอาศัยของของผู้คนไม่น้อย 250,000 คน

คลื่นสึนามิ กำลังมุ่งพัดถล่มชายฝั่ง หลังเกิดแผ่นดินไหว (Photo : AFP)

เบ็ดเสร็จชาวอินโดนีเซีย ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดกระหน่ำ พร้อมกับขย้ำชีวิตของผู้คนไปไม่น้อยกว่า 168,000 คน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิพัดถล่มในครั้งนั้นทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นราว 230,000 คนในพื้นที่ 14 ประเทศ

หลังจากนั้น คลื่นยักษ์สึนามิก็เดินทางไปถล่มกระหน่ำพื้นที่ชายฝั่งของอีก 13 ประเทศอื่นๆ รอบน่านน้ำของมหาสมุทรอินเดีย ในพื้นที่หลายภูมิภาคของโลกเราด้วยกัน อันได้แก่ มาเลเซีย ไทย เมียนมา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บังกลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย มัลดีฟส์ ในภูมิภาคเอเชียใต้ เยเมน ในภูมิภาคตะวันออกลาง ข้ามไปยังภูมิภาคแอฟริกา ได้แก่ เซเชลส์ โซมาเลีย เคนยา แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้

โดยบรรดาประเทศเหล่านี้ ล้วนประสบกับการสูญเสียของชีวิตประชาชนพลเมืองกันทั้งสิ้น ซึ่งที่หนักหนาสาหัสที่สุด คือ อินโดนีเซีย ที่จำนวนไม่น้อยกว่า 168,000 คน มากกว่าที่มีรายงานออกไป ที่ระบุว่า มีราวกว่า 130,000 คน เนื่องจากยังมีที่ตกสำรวจอีกมิใช่น้อย

ความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของพื้นที่ชายฝั่งประเทศแห่งหนึ่ง หลังถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดกระหน่ำ (Photo : AFP)

รองลงมาได้แก่ “ศรีลังกา” ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 35,000 คน

ตามมาด้วย “อินเดีย” ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 12,000 คน

ส่วนไทย มากเป็นอันดับ 4 ที่จำนวน 5,395 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมิใช่น้อย ที่เดินทางมาเที่ยวไทย ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน อันเป็นหนึ่งในทะเลน่านน้ำของมหาสมุทรอินเดีย โดยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งหมื่นข้างต้น ก็เป็นการเผชิญหน้ากับคลื่นสึนามิที่ลดความรุนแรงจากพื้นที่ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ลงมาแล้วก็ตาม โดยลดลงเหลือ 2 – 10 เมตร แต่ก็ยังทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินอีกเป็นจำนวนมากในพื้นที่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อย่าง จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา ของไทย

รายงานข่าวเผยว่า แรงคลื่นยักษ์สึนามิ ยังสามารถรับรู้ได้ถึงเม็กซิโก ที่อยู่ริมอ่าวเม็กซิโก ของมหาสมุทรแอตแลนติก ในภูมิภาคอเมริกากลาง หรือคอนคาเคฟ และประเทศชิลี ที่อยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ของภูมิภาคอเมริกาใต้ หรือละตินอเมริกา

นอกจากนี้ ก็ยังมีการระบุด้วยว่า คลื่นยักษ์สึนามิที่บังเกิดขึ้นมาในครั้งนั้น สั่นกระเพื่อมไปถึงเขตที่เรียกว่า วงกลมอาร์กติก หรือวงโคจรอาร์กติก อันเป็นวงกลมละติจูดที่อยู่เหนือสุด ในพื้นที่ขั้วโลกเหนือกันเลยทีเดียว

ความรุนแรงของคลื่นยักษ์สึนามิครั้งกระนั้น หลายคนก็ตั้งชื่อให้ว่า สึนามิบ็อกซิงเดย์ อันเป็นการตั้งชื่อตามวันเปิดกล่องของขวัญ หรือบ็อกซิงเดย์ หลังวันคริสต์มาส 1 วัน คือ 26 ธันวาคม บางคนก็ตั้งชื่อให้ว่า สึนามิเอเชีย เพราะเกิดและสร้างผลกระทบอย่างมโหฬารในพื้นที่ประเทศของภูมิภาคเอเชียเป็นส่วนใหญ่

ภายหลังเกิดเหตุและนับจนถึงวันนี้ ที่หายนะภัยพิบัติครั้งดังกล่าว จะมีอายุครบรอบ 20 ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ก็ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตลอดจนผู้สันทัดกรณีด้านการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ออกมาทวงถามต่อทางการประเทศที่เคยประสบกับคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มครั้งกระนั้นว่า ได้เตรียมมาตรการต่างๆ สำหรับ การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะจากเหตุแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิ พัดถล่มแบบเมื่อ 20 ปีก่อนที่พวกเขาเคยเผชิญอย่างพร้อมแล้วหรือไม่?

ทางการอินโดนีเซีย ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงมาช่วยเตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดคลื่นสึนามิ หลังเหตุแผ่นดินไหว เพื่อมิให้เกิดประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมซ้ำรอย (Photo : AFP)

ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับเตือนภัยล่วงหน้า

การฝึกซ้อมให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการหลบหนีอย่างปลอดภัย และเตรียมสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับพำนักพักพิงชั่วคราว ในยามเกิดเหตุภัยพิบัติฉุกเฉินซึ่งหน้าขึ้นมา

ชาวอินโดนีเซีย ในเมืองบันดาห์อาเจะห์ ฝึกซ้อมหลบภัยแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิ ที่จะถาโถมกระหน่ำตามมา หลังจากที่พวกเขาเคยเผชิญกับภัยพิบัติธรรมชาติดังกล่าวครั้งใหญ่ (Photo : AFP)

รวมไปถึงการกำชับกำชาแก่ประชาชนในการก่อสร้างปลูกสร้าง เช่น บ้านเรือน ร้านรวง ที่ประชาชนคนพื้นถิ่น และนักท่องเที่ยวจากต่างแดน มีความปลอดภัย และหลบหนีได้สะดวก ในยามที่พวกเขาเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติ ที่พร้อมพิฆาตชีวิตของพวกเขาได้ทุกเสี้ยวนาที ไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมซ้ำรอยขึ้นมาอีก