การเมืองแดนน้ำหอมวุ่น หลังพรรคการเมืองขวาจัดจับมือฝ่ายซ้าย ใช้เวทีสภาลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี “มิเชล บาร์นิเยร์” เหตุฉุนลัดขั้นตอนผ่านร่างฯงบประมาณ

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมิเชล บาร์นิเยร์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส หลังจากที่รัฐสภา ซึ่งเป็นการรวมตัวระหว่างสมาชิกรัฐสภาจากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดกับฝ่ายซ้าย ได้มีมติไม่ไว้วางใจ 331 เสียง ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 288 เสียง ในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีบาร์นิเยร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่ยื่นญัตติขออภิปรายฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งว่า นายบาร์นิเยร์ เพิ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น หลังจากที่ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ได้แต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่ปรากฏว่า บรรดาพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดที่นำโดยพรรคแนวร่วมแห่งชาติ หรืออาร์เอ็น ของนางมารีน เลอ แปน ร่วมกับกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย ไม่พอใจที่นายกรัฐมนตรีบาร์นิเยร์ ให้ตัดงบประมาณและเพิ่มภาษี ในร่างกฎหมายงบประมาณ ประจำปี 2025 (พ.ศ. 2568) ตามแนวทางของนายบาร์นิเยร์ ที่ต้องการแก้ไขงบประมาณขาดดุล ได้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี อาศัยมาตรา 49.3 ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ลัดขั้นตอนผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ ประจำปี 2025 (พ.ศ. 2568) โดยไม่ผ่านมติการเห็นชอบจากรัฐสภา จนสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อกลุ่มพรรคการเมืองทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว