ราชบุรี-น้ำพุร้อนไทยประจันเรียกได้แค่ปรบมือเกิดฟองผุด
มหัศจรรย์บ่อน้ำพุร้อนที่บ้านคา จ.ราชบุรี แค่ปรบมือให้มีเสียงดัง ก็เกิดเป็นฟองผุดขึ้นมา ขณะที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เตรียมยกระดับการพัฒนารับนักท่องเที่ยวปีใหม่นี้
( 5 ธ.ค. 67 ) อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งถูกประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อยู่ในกลุ่มป่าแก่งกระจาน ซึ่งประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นมรดกโลกแหล่งที่ 6 และเป็นลำดับที่ 3 ของมรดกทางธรรมชาติของไทย ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกได้มีมติขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่แนวทิวเขาตะนาวศรี มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
โดยพื้นที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ส่วนหนึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ที่มีบ่อน้ำพุร้อนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นบ่อกลมขนาดใหญ่ เมื่อปรบมือให้มีเสียงดัง น้ำร้อนก็เกิดเป็นฟองผุดขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์ยิ่ง ปัจจุบันได้ปรับปรุงพัฒนาพื้นที่บริเวณบ่อน้ำพุร้อนให้มีความสะอาด สะดวก สบายมากยิ่งขึ้น ในการสร้างห้องพักสำหรับแช่น้ำพุร้อนที่เป็นบ่อส่วนรวม และส่วนบุคคล เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะ และมาเป็นครอบครัว ทั้งยังมีการปรับปรุงพื้นที่ลานกางเต๊นท์รอบลำธาร ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย วัดอุณหภูมิช่วงนี้ได้ประมาณ 16 - 17 องศาเซลเซียส
ส่วนอุณหภูมิในบ่อน้ำพุร้อนวัดได้ 47 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน แช่บ่อน้ำพุร้อนกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดที่ผ่านมา จากการจดบันทึกข้อมูลของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทราบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนมากถึงวันละ 500 – 600 คน ต่อวัน
นายนิพนธ์ ธีระเสนี อายุ 75 ปี ชาว จ.นครปฐม กล่าวว่า เดินทางมาจากพุทธมณฑล มาเดือนละ 2 ครั้ง หลังจากที่ผ่าตัดหลังเดินไม่ได้ แต่พอมาแช่น้ำพุร้อนรู้สึก ทำให้ร่างกายดีขึ้น โดยจะต้องล้างตัวด้วยน้ำธรรมดาก่อน แล้วจึงลงไปแช่น้ำพุร้อน พอได้ประมาณ 10 นาที ก็ขึ้นจากบ่อครั้งนึง จากนั้นแช่ต่อคนละประมาณ 40 นาที ตอนนี้ช่วงเช้า ๆ จะเดินออกกำลังกายได้ประมาณ 4 กม. สมัยก่อนเดินออกกำลังกายได้ไม่ถึง 1 กิโลเมตร รู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นมาก แนะนำคนที่ขาชา มือชา ลองมาแช่บ่อน้ำพุร้อนดูน่าจะทำให้ร่างกายดีขึ้น ที่นี่ดีกว่าที่อื่น เพราะมีแร่สองชนิดซึ่งที่อื่นไม่มี บ่อน้ำพุร้อน
ด้านนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจาก อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาครพร้อมญาติ ๆ พากันมาแช่น้ำพุร้อน กล่าวว่า รู้สึกสบายเนื้อ สบายตัวขึ้น จากที่เคยปวดแขนก็เบาขึ้น เนื่องจากทำงานจับปลากะพงทุกวัน วันหนึ่งต้องยกเข่งปลากระมาณวันละ 30 - 40 ตัน ทุกวัน พอมาแช่น้ำพุร้อนรู้สึกว่าดีขึ้น คิดว่าเป็นเรื่องจริงที่สามารถช่วยบำบัดร่างกายได้ และภรรยาจะพามาแช่น้ำร้อนอยู่เรื่อย ๆ รู้สึกเบาตัว หลับสบายดี
นายภูวิวัช หิรัญศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน กล่าวว่า อุทยานฯ ได้ปรับปรุงส่วนสถานที่สำคัญบ่อน้ำพุร้อน ที่จะมีการล้างบ่อปีละ 2 ครั้ง ให้น้ำสะอาดขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจความสะอาด ส่วนความปลอดภัยจะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งผ่านการอบรมด้านการกู้ชีพกู้ภัยโดยเฉพาะ มีจัดชุดไว้ทั้งช่วงท่องเที่ยวรับเทศกาลปีใหม่ มีการตั้งจุดประจำไว้ ตามนโยบายของกรมอุทยานฯ โดยช่วงนี้อุณหภูมิบริเวณอุทยานฯ ตอนเช้าวัดอยู่ที่ประมาณ 18 องศา นับว่าอากาศหนาวใช้ได้เหมาะแก่การมากางเต๊นท์และแช่บ่อน้ำพุร้อนด้วย
ซึ่งพื้นที่กางเต๊นท์จะแบ่งไว้ 3 โซน มีโซน A โซฯ B และโซน C สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 80 กว่าหลัง มีลานจอดรถกว้างขวางได้ประมาณ ประมาณ 1,000 คัน ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ของอุทยานฯ อากาศเริ่มเย็นสบายแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามากางเต๊นท์พักผ่อนมากขึ้น จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำเรื่องการแช่น้ำพุร้อน ใน 1 รอบแช่ได้ประมาณ 40 นาที โดยประโยชน์ของน้ำพุร้อนจะมีแร่ธาตุบางชนิด ส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น คนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตใช้บริการบ่อยอาการดีขึ้น เรียกว่า วารีบำบัด ที่นี่น้ำยังมีความเป็นด่างประมาณ 8.5 จะช่วงเรื่องผิวพรรณมีความชุ่มชื้น มีการจัดบริการบ่อรวมจำนวน 3 บ่อ มีห้องส่วนตัวจำนวน 5 ห้อง
อาจารย์ ดร.ณภัชน์ ญาณโนภาชน์ จากสาขาการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กล่าวว่า วันนี้ได้นำนักศึกษาเรียนรายวิชาการท่องเที่ยวและการบริการมาปฏิบัติจริง มาศึกษาหาข้อมูล เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติในพื้นที่จริง
จากการเดินสำรวจจุดท่องเที่ยวในพื้นที่พบว่า บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ยังมีความแปลก เพียงแค่ช่วยกันปรบมือเสียงดัง ๆ ก็จะทำให้นำพุร้อนในบ่อใหญ่เริ่มผุดขึ้นเป็นฟองขึ้นมามากขึ้น แต่ละบ่อจะมีนักท่องเที่ยวทั้งหญิง ชาย ผู้สูงอายุ หนุ่มสาว ลงไปแช่ตามกำหนดเวลา โดยบ่อด้านหน้าจะมีไว้สำหรับแช่เท้า ส่วนบ่อด้านในจะแช่ได้ทั้งตัว และมีบ้านเป็นหลัง ๆ จะมีบ่อไว้แช่ห้องละ 4 คน คิดค่าบริการคนละ 50 บาท
ขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาแช่น้ำร้อนเพื่อสุขภาพ มากางเต๊นท์สัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย อนาคตจะมีการส่งเสริมเรื่องการดูนกเพิ่มเติม เช่น นกแก๊ก นกตะขาบทุ่ง นกจาบคา และนกชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย โดยช่วงปีใหม่สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปสามารถเข้ารับบริการฟรี
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน 081-7633294 หรือสำนักงานอุทยานฯ 091-2788676