ตร.จ่อออกหมายจับคดี หมอบุญ เพิ่มอีก 2 ราย ด้าน แทนคุณ เผยหมายจับล็อต 3 เครือข่าย หมอบุญเป็นกลุ่มเซลล์ ปูดศุกร์นี้คนใกล้ชิดหมอจ่อคุยผู้เสียหายบางส่วนที่ตึกแถวรัชดาฯ ชี้แทบเป็นไปไม่ได้ หมอบุญ กลับไทย หากไม่จับกุม แฉเตรียมหนีไปยุโรป 
       
        
 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 เปิดเผยถึงกรณีที่ นพ.บุญ วนาสิน อดีตประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ว่า จะมีการออกหมายจับล็อตที่ 3 อีก 2 ราย สำหรับยอดผู้เสียหายที่มาแจ้งความทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่ 300 กว่าคน มูลค่าความเสียหายเกือบ 10,000 ล้านบาท และยังคงมีผู้เสียหายมาเพิ่มทุกวัน
        
 ด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับล็อต 3 เครือข่าย นพ.บุญ วนาสิน ที่ร่วมฉ้อโกงประชาชน ว่า ล็อต 3 น่าจะเป็นกลุ่มเซลล์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นกลุ่มคนใกล้ชิดและโบรกเกอร์ แต่ของโบรกเกอร์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีไลเซนส์ กับ กลุ่มที่อ้างว่าเป็นเซลล์ ที่ได้ผลตอบแทน 1.5% ของการเชิญชวนผู้มาลงทุน แต่โบรกเกอร์จะได้เงินเยอะกว่าประมาณ 3% ซึ่งกลุ่มนี้ได้มามาคุยกับตนและอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และในบ่ายวันนี้จะมีผู้เสียหาย 2 ครอบครัว มูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาท เข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่กองบังคับการกองปราบปราม
        
 ส่วนจำนวนผู้เสียหายที่เป็นเซลล์ ตนเข้าใจว่ามีจำนวนเยอะอยู่พอสมควรแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งเป็นกลุ่มเก่าที่ใช้หุ้นของโรงพยาบาลมาค้ำ ซึ่งอาจเห็นผลในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพราะถึงกำหนดจ่ายเงิน เพราะหากไม่จ่ายกลุ่มนี้ก็จะเป็นผู้เสียหาย ส่วนกลุ่มที่ 2 อีก 500 ราย เป็นกลุ่มที่หมอบุญไปกู้เงินมา ผ่านเซลล์กับโบรกเกอร์ และเคยเป็นเซลล์ที่ทำงานหาที่ดินให้กับโมเดลดังกล่าว ทางหมอบุญก็มีการออกโฉนดที่ดิน เพื่อไปค้ำให้กับผู้เสียหาย
        
 ในวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค. ที่ตึกแห่งหนึ่งแถวรัชดาจะมีการเคลื่อนไหวของคนใกล้ชิดหมอบุญเพื่อเจรจากับผู้เสียหายบางส่วนเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งหวังว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาได้ เพื่อลดผู้เสียหายลง และหากคืนเงินให้ผู้เสียหายบางส่วน ก็จะชะลอผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ นายแทนคุณ กล่าว
        
 เมื่อถามว่า ส่วนโอกาสที่หมอบุญจะกลับประเทศไทย นายแทนคุณ กล่าวว่า แทบเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่มีการไปจับกุมตัว และขณะนี้ทราบมาว่าเจ้าตัวเตรียมเคลื่อนย้ายไปประเทศยุโรป ชื่อย่อ อ. เพราะมีบ้านอยู่ที่นั่น ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ต้องมีการขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะทรัพย์สินที่มีการถ่ายโอนไปเป็นชื่อบุคคลอื่น ต้องรอดูว่าตำรวจจะสามารถนำสืบได้หรือไม่ และสามารถคัดกรองว่าใครคือผู้เสียหายตัวจริง
       
  นายแทนคุณ ยังตั้งข้อสังเกตว่า โปรเจคอื่นๆ เช่น Jin Wellbeing เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขาดทุนจนต้องนำเงินไปหมุนลงทุนหรือไม่ ซึ่งต้องไปตรวจสอบ และกรณีการหาเงินที่มาช่วยใช้คืน หรือเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกันทราบมาว่าไม่ใช่บริษัทของหมอบุญอย่างเดียว ที่เป็นตัวการร่วม ยังมีบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่ อาจเป็นตัวการช่วยหรือเป็นตัวการร่วม อักษรย่อ K ก็คงต้องไปขยายผล เพราะทราบว่าบริษัทนี้ช่วยเขียนแผนให้ด้วย และช่วยประสานหาโบรกเกอร์ด้วยหรือไม่ ในการให้มีการกระทำแบบนี้ และมีการข่มขู่ผู้ที่ไปแจ้งความ ซึ่งตอนนี้สังเกตได้ว่าคดีนี้มีความพยายามทำให้เงียบที่สุดและหายไปตามกระแส โดยข่มขู่ผู้เสียหายอย่าไปพูด อย่าไปบอก ถ้าใครพูดจะไม่ได้เงิน จะถูกฟ้องดำเนินคดี ถูกตรวจสอบภาษี ทำให้ผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยกลัว อีกทั้งผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยที่มีอันจะกินก็เกรงว่าจะกระทบต่อความรู้สึกของคนในครอบครัว ซึ่งผู้สูงอายุที่ตนได้คุยด้วยอายุ90 ปี เขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ และยังไม่เชื่อว่าหมอบุญจะมีการทุจริต ก็ได้แต่ให้กำลังใจว่าถึงที่สุดน่าจะได้เงินคืน ถ้าตำรวจทำงานเร็ว
        
 นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่ตนอยากให้ตำรวจมีความชัดเจนว่าถ้ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น จะไปแจ้งความที่ไหน เพราะเห็นว่าจะมีการโอนคดีไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แต่ส่วนตัวอยากให้ไปแจ้งความที่กองปราบ ประชาชนจะได้ไม่สับสน ไม่ต้องไปหลายที่ และคดีจะได้ไปเร็ว ซึ่งคดีในลักษณะฉ้อโกงแบบนี้ ถ้าสามารถอายัดทรัพย์ได้เร็วเท่าไหร่ จับกุมคนทำได้เร็ว โอกาสที่จะได้เงินคืนจากการคุ้มครองสิทธิ์ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)และเรื่องเข้าสู่ศาล เข้าสู่การเฉลี่ยทรัพย์คืน เรื่องก็จะได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น