เศรษฐกิจพัง 8-8.5 หมื่นล้าน น้ำท่วมเหนือ-อีสาน-ใต้ ฉุดจีดีพีลง 0.6% สลด! น้ำท่วมภาคใต้เสียชีวิต 29 ราย ปภ. ระดมกำลังช่วยเหลือเต็มกำลัง ส่วน กรมสุขภาพจิต ห่วงคนใต้เครียด-ซึมเศร้า-เสี่ยงคิดสั้น
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกับ นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ของประเทศไทยในปีนี้ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินความเสียหายไว้ประมาณ 75,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 0.5% ของ GDP ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ถือว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรงเช่นกัน เบื้องต้น พบว่า หากสถานการณ์คลี่คลายได้เร็ว น่าจะมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 0.03 0.06% ของ GDP โดยพื้นที่ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด รวมถึงย่านการค้าสำคัญของ จ.สงขลา ทั้งนี้หากรวมความเสียหายของน้ำท่วมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ น่าจะมีความเสียหายราว 80,000 85,000 ล้านบาท หรือประมาณ 0.6% ของ GDP
ขณะที่ เศรษฐกิจไทยปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.8% มีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกที่ดีกว่าที่คาด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ โดยคาดว่าจะโตได้ราว 4% ในไตรมาสที่ 4 ขณะที่ปี 2568 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวได้ท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยมีแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และมาตรการภาครัฐทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวที่กำลังจะทยอยออกมา อาทิ การช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและกลุ่มผู้ประกอบการ SME การปรับกฎหมายเกี่ยวกับการเช่าที่ดินระยะยาว 99 ปีเพื่อดึงดูดการลงทุน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกหลัก อาทิ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เม็ดพลาสติก และยางล้อ ที่ประชุม กกร. จึงขอเสนอให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันเตรียมความพร้อมรับมือเจรจาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าและส่งออกกับสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า นอกจากนี้ กกร.ขอชื่นชมภาครัฐที่สามารถเจรจาความตกลงการค้าเสรีภายใต้ FTA-EFTA ระหว่างประเทศไทยและสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าของประเทศไทยในอนาคต
ด้าน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข มีความเป็นห่วงต่อความเดือดร้อนของประชาชนและปัญหาสุขภาพจิตใจของผู้ประสบภัย ซึ่งสูญเสียทรัพย์สินไปกับน้ำ บางส่วนต้องเสียใจต่อการพลัดพรากสมาชิกในครอบครัว การต้องระมัดระวังไม่ให้การดำรงชีวิตประจำวันต้องเสี่ยงกับอันตรายจากไฟฟ้าช็อต ไฟฟ้าดูด ตลอดทั้งโรคภัยไข้เจ็บ การขาดรายได้เนื่องจากไม่สามารถทำมาหากินเหมือนแต่ก่อน จึงสั่งการให้นายกิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ติดตามหาทางแก้ไขและป้องกันอย่างเต็มที่ โดยกระงทรวงสาธารณนะสุขเฝ้าระวังภาวะสุขภาพจิตผู้ได้รับผลกระทบ ผ่าน Mental Health Check In
รายงานจากกรมสุขภาพจิตพบว่า ทีมช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) หมายถึง ทีมสหวิชาชีพที่ให้การช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต ได้แก่ แพทย์ พยาบาล จิตเวช เภสัชกร นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบด้านสุขภาพจิตและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 ได้ออกปฏิบัติการในวันนี้จำนวน 27 ทีม คัดกรองสุขภาพจิต 4,745 ราย พบความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต เครียดสูง จำนวน 31 ราย มีภาวะซึมเศร้า 15 ราย มีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย 2 ราย ทุกรายได้รับการช่วยเหลือส่งต่อตามระบบ
วันเดียวกัน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถาน การณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 22 พ.ย.-4 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 29 ราย
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย KA 32 พร้อมด้วย The Guardian Team เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย อย่างเต็มกำลัง