ผบก.ป.พร้อมสางคดีพินัยกรรมเจ๊อ้อย ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดี สอบสวนทุกมิติ ชี้ หาก ทนายตั้ม ไม่มีทนาย สามารถซักค้านด้วยตัวเองได้ แจงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ฟิล์ม รัฐภูมิ ขึ้นอยู่กับเหตุผลในการพิจารณา
ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึง 2 คดีสำคัญ ว่า สำหรับเรื่องพินัยกรรม น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานจากผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากเจ๊อ้อยที่จะเข้าแจ้งความกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม แต่อย่างใด แต่หากจะเดินทางเข้ามาแจ้งความ ก็มาได้เลย ที่บช.ก. มีร้อยเวรคอยรับแจ้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับข้อมูลพินัยกรรม ก่อนหน้านี้มีการสอบปากคำเนื้อหาข้อมูลกับตัวเจ๊อ้อย ไปบ้างแล้วหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ทางตำรวจมีการสอบสวนในทุกมิติ และมีการสอบไปบ้างแล้ว โดยเป็นการสอบในพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั่วไป เพราะขณะนั้นเจ๊อ้อยยังไม่ได้มีการร้องทุกข์ในเรื่องนี้
เมื่อถามต่อว่า หากผู้รับมอบอำนาจมาแจ้งความแทน จะต้องมีการเชิญเจ๊อ้อยมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี ระบุว่า ก็ต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร หากยังขาดตกบกพร่องส่วนไหน ก็จะมีการเรียกมาสอบเพิ่มเติม ในส่วนที่มีการแจ้งข้อหากับทนายตั้มเพิ่มเติมอีก 7 ข้อหาในคดี 39 ล้าน มีข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและ ได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และในส่วนของความชัดเจนในการออกหมายเรียกหรือหมายจับใครเพิ่มเติม ขณะนี้ใกล้จะได้รับความชัดเจนแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของอัยการสูงสุดว่าจะมอบอำนาจหรือมอบหมายให้ผู้ใดเป็นผู้สอบสวนหรือทางอัยการจะร่วมสอบสวน แต่ทางตำรวจก็ทำสำนวนควบคู่กันไป
เมื่อถามว่า หากทนายตั้มไม่มีทนายความ เจ้าตัวสามารถดำเนินการในชั้นศาลด้วยตัวเองได้หรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ขณะที่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมพบว่าตัวทนายตั้มมีทีมทนายความอยู่แล้ว โดยปกติหากคดีที่มีโทษจำคุกแล้วเจ้าตัวไม่มีทนาย ทางศาลก็จะตั้งทนายความให้ รวมถึงทนายตั้มก็สามารถขอซักค้านในชั้นศาลด้วยตังเองได้
ส่วนเรื่องนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือได้รับรายงานมาแต่อย่างใด และยังไม่ได้รับการประสานแจ้งเลื่อนหมายเรียกในครั้งนี้ เบื้องต้นในการขอเลื่อนก็ต้องดูว่ามีเหตุผลความจำเป็นที่ไม่มาพบตำรวจหรือไม่ หากมีความจำเป็นก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องออกหมายเรียกกี่ครั้ง แต่โดยทั่วไปจะออกหมายเรียกประมาณ 2 ครั้ง ทั้งนี้นายรัฐภูมิ มีสิทธิ์ที่จะมีทนายหรือผู้ที่ไว้วางใจเข้าร่วมสอบสวนด้วย โดยนายรัฐภูมิยังไม่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากอยู่ที่พยานหลักฐาน
ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายรัฐภูมิยังไม่ประสานพบตำรวจหลังถูกหมายเรียกคดีเรียกรับเงิน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง ที่ต้องรับรู้เรื่องของเขาผ่านกลไกต่างๆ แม้กระทั่งเรื่อง K4 บริษัทลงทุนที่มีปัญหาอยู่ ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ก็มีนายรัฐภูมิเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ซึ่งจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพื่อให้พิจารณาว่านายรัฐภูมิเข้าข่ายมีความผิดด้วยหรือไม่
ผมก็อยากจะบอกว่าคุณฟิล์มเป็นคนที่ใช้ชีวิตด้วยความประมาทหรือไม่ แทนที่จะใช้หน้าตาความรู้ความสามารถ ชื่อเสียงตัวเอง ผมว่าดังเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่กลับใช้วิธีการเทคนิคต่างๆ เพื่อรวยทางลัดด้วยหรือไม่ และผมทราบว่าเขาจะฟ้องผมด้วย มีการติดต่อผ่านทนายและพรรคพวกที่รู้จักกันก็บอกผมอยู่ว่าเขาจะฟ้องผม ผมก็ยินดีทุกการต่อสู้
นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า ได้ข้อมูลของผู้เสียหายที่บอบช้ำจากนายรัฐภูมิ จึงอยากจะสื่อสารออกไปเพื่อช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย คนตัวเล็กตัวน้อย คนที่อยู่จ.ตรังที่ตนเคยออกมาเปิดเผยเรื่องราว เคยคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว จึงถึงเวลาต้องบอกคนอื่น ว่าการกระทำของนายรัฐภูมิทำร้ายคนไปพอสมควร ยืนยันว่าอยากให้ตำรวจขยายผลจะให้ไปให้ข้อมูลเพิ่มก็ได้ ตนเองยินดี เพราะทำงานบนพื้นฐานข้อมูลหลักฐานและความเห็นอกเห็นใจผู้เสียหายเป็นหลัก และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากตนเองทำผิดพลาดไป
สำนึกของเราเป็นเรื่องสำคัญ เราจะรวยสักเท่าไหร่ ถ้ามาจากเงินบาปที่ไปเบียดเบียนคนอื่น จนเกือบเอาชีวิตเขาและครอบครัวเขา คุณจะไม่มีวันมีความสุข และผลกรรมนี้จะต้องตามทันคุณ น่าเสียดายอย่างเดียว ประเทศไทยเราโทษในการดำเนินคดีกับคนทุจริต ผมว่าน้อยและเบาไปนายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ ยกตัวอย่างกรณี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ติดคุกคดีรับจำนำข้าว ศาลสั่งจำคุก 48 ปี แต่ 7 ปี ก็ออกมาแล้ว ซึ่งมีผู้เสียหายจากนายบุญทรงอยู่ จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกฎหมายไม่เช่นนั้นคนก็จะทุจริตกันเต็มบ้านเต็มเมือง ติดไม่กี่ปีก็ออกมาแล้ว ได้ใช้เงินที่ไปซุกซ่อน ได้ไปเสวยสุข จึงอยากเรียกร้องให้เพิ่มโทษในคดีทุจริตสูงสุดเป็นประหารชีวิต ยึดทรัพย์ตกคืนแผ่นดินและผู้เสียหาย