กองปราบฯ พร้อมสอบทุกมิติ คดีพินัยกรรม "เจ๊อ้อย" เผยหากทนายตั้มไม่มีทนาย ก็สามารถซักค้านเองได้ ส่วนออกหมายเรียกครั้งที่ 2  ’ฟิล์ม รัฐภูมิ‘ กำลังพิจารณา”

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึง 2 คดีสำคัญ ว่า สำหรับคดีพินัยกรรมของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานจากผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากเจ๊อ้อย ที่จะเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มแต่อย่างใด  ซึ่งหากผู้รับมอบหมายจะเข้ามาแจ้งความ ก็สามารถมาได้เลย ที่บช.ก. มีร้อยเวรคอยรับแจ้งตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับข้อมูลพินัยกรรม ก่อนหน้านี้มีการสอบปากคำเนื้อหาข้อมูลกับตัวเจ๊อ้อยไปบ้างแล้วหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ทางตำรวจได้มีการสอบสวนในทุกมิติ ซึ่งมีการสอบไปบ้างแล้วด้วย โดยเป็นการสอบในพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั่วไป เพราะขณะนั้นเจ๊อ้อยยังไม่ได้มีการร้องทุกข์ในกรณีนี้  

แต่หากผู้รับมอบอำนาจจะมาแจ้งความแทน จะต้องเชิญเจ๊อ้อยมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร หากยังขาดตกบกพร่องส่วนไหน ก็จะอาจมีการเรียกตัวมาสอบเพิ่มเติมก็เป็นได้

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการดำเนินคดีกับทนายตั้มเพิ่มเติมอีก 7 ข้อหาจากในส่วนคดีเงิน 39 ล้าน นั้นก็มีข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและ ได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน"

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่าส่วนของความชัดเจนในการออกหมายเรียก หรือหมายจับใครเพิ่มเติมขณะนี้ก็ใกล้จะได้รับความชัดเจนแล้ว เพียงแต่ว่าอยู่ในขั้นตอนของอัยการสูงสุดว่าจะมอบอำนาจหรือมอบหมายให้ผู้ใดเป็นผู้สอบสวน หรือทางอัยการจะร่วมสอบสวน แต่ทางตำรวจก็ทำสำนวนควบคู่กันไป

ส่วนกรณีทนายตั้มอาจไม่มีทนายความว่าความให้นั้น เจ้าตัวสามารถดำเนินการในชั้นศาลด้วยตัวเองได้หรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี ระบุว่า ขณะที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมพบว่าตัวของทนายตั้มนั้นมีทีมทนายความอยู่แล้ว เพราะตามปกติหากคดีที่มีโทษจำคุกแล้วเจ้าตัวไม่มีทนาย ทางศาลก็จะตั้งทนายความให้ รวมถึงตัวของทนายตั้มก็สามารถขอซักค้านในชั้นศาลด้วยตัวเองได้

ส่วนกรณีอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่ออกมาเปิดถึงเส้นเงินของทนายตั้มจำนวนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นคนละส่วนกับของเจ๊อ้อย ได้มีการตรวจสอบหรือยัง พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ตำรวจต้องมีการตรวจสอบทุกทางอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เน้นไปที่เรื่องการกระทำความผิดที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษก่อน

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อถึงคดีของนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ศิลปินชื่อดัง ว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือได้รับรายงานมาแต่อย่างใด แต่ยังไม่ได้รับการประสานแจ้งเลื่อนหมายเรียกในครั้งนี้ ซึ่งการขอเลื่อนนัดหมายเรียกก็ต้องมาดูว่ามีเหตุผลความจำเป็นที่ไม่มาพบตำรวจหรือไม่ หากมีความจำเป็นก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2  ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องออกหมายเรียกกี่ครั้ง แต่โดยทั่วไปจะออกหมายเรียกไปประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งนายรัฐภูมิก็มีสิทธิ์ที่จะมีทนาย หรือผู้ที่ไว้วางใจเข้าร่วมสอบสวนด้วย โดยนายรัฐภูมิจะยังไม่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากต้องมาดูที่พยานหลักฐานด้วย