"คารม" โต้กลับ"หมอเชิดชัย" ขู่ยุบสภาฯ สั่งสอน "ภูมิใจไทย" เย้ยเป็นแค่ผู้เล่น ไม่ใช่เจ้าของทีม ปปช.แจงคดีชั้น14 ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล โต้ชงเรื่องปปช.ชุดใหญ่พิจารณา "บิ๊กป้อม"เปิดปากครั้งแรก ปัดไม่เกี่ยวหวานใจ ช โยงเส้นเงินรุกที่ดินส.ป.ก. ด้าน"นฤมล" ลั่นปมสอบที่ดิน"ไร่ภูนับดาว" ไม่เกี่ยวการเมือง

         เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อระบุพรรคเพื่อไทยจ่อหารือพรรคภูมิใจไทยปมเกณฑ์การทำประชามิติ หากพรรคภูมิใจไทยงอแงมากเจอยุบสภาสั่งสอน ว่า ตนในฐานะที่เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่ทำงานให้รัฐบาล และตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แม้จะมาจากสัดส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ตาม ซึ่งเมื่อเช้าวันที่ 2 ธ.ค.67 นายกฯ ได้เปิดโอกาสให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าพบพร้อมรับนโยบายการทำงานของรัฐบาลและของนายกฯ ทำให้ตนเห็นถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของนายกฯในการทำงานเพื่อคนไทยทุกคนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็ตาม
        
 "ผมจำเป็นต้องออกมาพูดถึงนพ.เชิดชัย เพราะผมเคยเป็นคนเสื้อแดง เคยต่อสู้ในแนวทางเดียวกันมากับท่าน และอยากแนะนำนพ.เชิดชัย ว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม เราจึงต้องอยู่ร่วมกันแบบให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต้องรู้จักแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ผมจำเป็นต้องออกมาปกป้องพรรคภูมิใจไทย และส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยที่ได้ยกมือสนับสนุนน.ส.แพทองธารให้ได้ทำหน้าที่นายกฯ แก้ปัญหาบ้านเมือง และผมจำเป็นต้องใช้สิทธิในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทยปกป้อง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่นายกฯ ก็ให้ความเคารพ และนายอนุทินเป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง และมีวุฒิภาวะ การที่ นพ.เชิดชัยออกมาบอกว่าจะยุบสภาสั่งสอนนั้น ผมรู้สึกเสียใจต่อคำพูดดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขาดวุฒิภาวะทางความคิด" 
       
  นายคารม กล่าวต่อว่า อำนาจยุบสภาตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของนายกฯ ไม่ใช่ของนพ.เชิดชัย อย่าสร้างปัญหา สร้างความร้าวฉานให้รัฐบาล ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนในการแก้รัฐธรรมนูญชัดเจน โดยจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อให้สังคมยอมรับกติกาที่อยู่ร่วมกันในสังคมได้ และตนเชื่อว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทินซึ่งเป็นผู้นำพรรคภูมิใจไทยได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และเชื่อว่าในระดับแกนนำรัฐบาลมีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
        
 "เรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอลแล้ว เรื่องใหญ่แบบนี้เป็นเรื่องระดับเจ้าของทีมบอลที่จะพูดคุย นพ.เชิดชัยเป็นเพียงนักบอลมีหน้าที่เล่นบอล อย่าหลงคิดไปไกลว่าตัวเองเป็นเจ้าของทีม แล้วมาบอกว่าให้ใครเลิกเล่นบอลลีกไหน เกมไหน ขอฝากให้ทบทวนหน้าที่ตัวเอง กลับไปประมวลความคิดให้ดี" นายคารม กล่าว
        
 สำหรับกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ ฝ่ายตรวจสอบไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยมี นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานคณะกรรมการไต่สวน ได้เสนอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณี น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ป่วยทิพย์ ชั้น 14 มีทั้งระดับรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยลงมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิดแล้ว และให้เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูลและดำเนินคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ในขณะเดียวกันก็มีไอ้โม่ง "ว" ที่หวังอำนาจเป็นใหญ่ใน ป.ป.ช.ยอมตัวขายตนให้กับนักการเมือง แจ้งให้เปลี่ยนเรื่องเป็นให้ยุติการสอบสวนเพราะกรณีไม่มีมูลความผิด แต่คณะกรรมการไต่สวนไม่ยอม และจะส่งรายงานการตรวจสอบไต่สวนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้านี้นั้น 
       
  ล่าสุด นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอเรียนให้ทราบเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกรมราชทัณฑ์กระทรวงยุติธรรม สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีส่งตัวผู้ต้องขัง นายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ และให้นายทักษิณอยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ในชั้นการตรวจสอบเบื้องต้น ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ในชั้นนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิดกับผู้ถูกกล่าวหา และยังไม่มีการเสนอเรื่องกล่าวหาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แต่อย่างใด จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
 
 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการตรวจสอบการถือครองที่ดิน เขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ไร่ภูนับดาวจ.สระบุรี ว่า  ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เรื่องการแก้แค้นทางการเมืองตามที่มีการตั้งข้อสังเกต เพราะตนเองเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน แต่เรื่องนี้ได้มีการดำเนินการตรวจสอบมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และต้นเรื่องเป็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เปิดเรื่องนี้โดยผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จนเป็นเหตุให้รมว.เกษตรและสหกรณ์ในอดีต ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สั่งให้มีการตรวจสอบที่ดิน สปก.ทั่วประเทศ
       
  ส่วนที่มีการเชื่อมโยงไปถึงคนใกล้ชิดหรือหวานใจอดีตรองนายกฯ อักษรย่อ ช นั้น นางนฤมล กล่าวว่า ทราบเพียงจากข่าว เพราะหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีอำนาจสอบเรื่องเส้นเงิน ดังนั้นจึงไม่รายงานมาที่กระทรวง แต่ในกรณีที่มีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องตรวจสอบอย่างแน่นอน
       
  ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีกระแสข่าวหวานใจอดีตรองนายกฯ มีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับรีสอร์ทรุกที่ดิน ส.ป.ก. โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ไม่มีอะไร ไม่เคยทำอะไรผิดเลย" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะชี้แจงหรือแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ออกมากล่าวหาไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า "อะไรนะ" ผู้สื่อข่าวพยายามอธิบายคำถามดังกล่าว แต่พล.อ.ประวิตร ได้ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที