นึกว่าปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ สงครามกลางเมืองของซีเรีย และสงครามต่อต้านการก่อการร้ายจากกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ในซีเรีย เมื่อหลายปีก่อน
โดยสงครามกลางเมืองภายในซีเรีย หากว่ากันตามตัวบทอักษรของข้อตกลงหยุดยิงอิดลิบ ปี 2020 (พ.ศ. 2563) หลังสงครามปะทุขึ้นจากการต่อสู้ของกลุ่มกบฏต่างๆ กับกองทัพรัฐบาลซีเรีย ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2011 (พ.ศ. 2554) และสงครามต่อต้านการก่อการร้ายจากกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส หรือที่หลายคนเรียกว่า ไอซิสบ้าง หรือไอซิลบ้าง ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2014 (พ.ศ. 2557) และได้ห่างหายไปในช่วงปลายปี 2019 (พ.ศ. 2562) หลังจากที่นายอาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี หัวหน้ากลุ่มฯ ถูกปลิดชีพไปในช่วงปลายปี 2019 ดังกล่าว จนส่งผลให้ทั้งกลุ่มกบฏในซีเรีย และกลุ่มก่อการร้ายไอเอส ต้องแตกกระสานซ่านเซ็นไปในประเทศต่างๆ ทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาตอนเหนือ และเอเชียกลาง เช่น อัฟกานิสถาน เป็นต้น
ทว่า เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่งผ่านพ้นมานี้ ปรากฏว่า กลุ่มกบฏจำนวนหนึ่ง ได้หวนกลับมาเขย่าความมั่นคงของซีเรียอีกคำรบ และเป็นการหวนกลับมาเขย่าอย่างชนิดสายฟ้าแลบอีกต่างหากด้วย
ถึงขนาดยึดเมืองที่ได้ชื่อว่า ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย นั่นคือ “เมืองอเลปโป” ทางตอนเหนือของซีเรีย
โดยกลุ่มกบฏที่บุกยึดเมืองดังกล่าว มีชื่อว่า “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” หรือ “เอชทีเอส” ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การนำของ “นายอาบู อูไบดาห์ อัล คานซาฟรา” ทั้งนี้ นายคานซาฟราผู้นี้ ยังเป็นผู้นำทางการทหาร และผู้บัญชาการของกลุ่มกบฏดังกล่าว นอกเหนือจากการเป็นผู้นำทางการเมืองของกลุ่มนี้แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า “กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” ได้เคลื่อนกำลังพลที่ติดอาวุธจาก “เมืองอิดลิบ” ทางตะวันตกเฉียงเหนืองซีเรีย ซึ่งเปรียบได้กับเมืองฐานที่มั่นของพวกเขา โดยในเมืองอิดลิบแห่งนั้น ทางกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม ดำเนินการบริหารปกครองราวกับเป็นรัฐบาลท้องถิ่น ปกครองแบบพฤตินัยในเมืองดังกล่าวนี้เลยทีเดียว
สั่งสมกองกำลัง จนพรักพร้อมแล้ว ทาง “กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” ก็ยกพลบุกจู่โจมเมืองอเลปโป ที่ห่างไปเหนืออย่างชนิดสายฟ้าแลบ แบบทางกองทัพรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ไม่รู้เนื้อ รู้ตัว จึงไม่ทันตั้งตัวที่จะเตรียมรับมือการบุกโจมตี ส่งผลให้ทหารของกองทัพรัฐบาลซีเรีย ต้องเสียชีวิตไปหลายสิบนาย ก่อนแตกถอย ถอนกำลังพลออกจากเมือง ทำให้กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม เข้ายึดเมืองอเลปโป จากรัฐบาลซีเรียได้เป็นผลสำเร็จ โดยสามารถครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองได้ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
บรรดานักวิเคราะห์ แสดงทรรศนะว่า ทำไมกลุ่มกบฏ “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” ถึงได้บุกจู่โจม ด้วยความหวังที่จะยึดเมืองอเลปโปแห่งนี้มาจากรัฐบาลซีเรียให้จงได้ ก็เพราะเนื่องจากในช่วงสงครามกลางเมืองเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เมืองอเลปโป ถือเป็นเมืองที่กลุ่มกบฏต่างๆ มาละเลงเลือดมากที่สุด ในระหว่างการสู้รบกับกองทัพรัฐบาลซีเรีย ที่มีรัสเซีย ชาติพี่เบิ้มใหญ่เป็นพันธมิตรสำคัญ และช่วยรัฐบาลซีเรีย ถล่มกลุ่มกบฏจนนองเลือดตามที่กล่าวแล้วข้างต้น
จะเรียกว่า เป็นปฏิบัติการเพื่อลบภาพจำที่ไม่ดีนักสำหรับกลุ่มกบฏในซีเรียก็ว่าได้
ส่วนสาเหตุปัจจัยอะไรที่ทำให้กลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม สามารถบุกยึดเมืองอเลปโปได้อย่างสะดวกดายนั้น จะเรียกว่า ทั้งรัฐบาลซีเรีย และรัสเซีย พี่เบิ้มใหญ่ชาติพันธมิตรของประธานาธิบดีอัสซาด กำลังอยู่ในช่วง “การ์ดตก” ก็ว่าได้ หากว่ากันในแบบการต่อยมวย
โดยรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีอัสซาดนั้น เมื่อไม่กี่วันก่อน เพิ่งถูกทัพฟ้าของอิสราเอลทิ้งบอมบ์เพื่อตอบโต้ที่ส่งอาวุธให้แก่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์มาโจมตีอิสราเอล ซึ่งปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ข้างต้นก็ทำให้ซีเรียระส่ำไปมิใช่น้อย ส่วนรัสเซีย ก็กำลังติดพันการศึกสงครามรุกรานยูเครนกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านเช่นกัน
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีอัสซาด ก็ได้ร้องขอรัสเซีย ชาติพันธมิตรพี่เบิ้มใหญ่ ให้ช่วยเหลือทางการทหาร ซึ่งรัสเซีย ได้ส่งฝูงบินมาระดมทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศ ร่วมกับทัพฟ้าซีเรีย เข้าใส่เป้าหมายเป็นกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม ในเมืองอเลปโป ทั้งนี้ มีรายงานว่า สมาชิกกลุ่มกบฏดังกล่าว ก็เสียกำลังพลจากปฏิบัติการยุทธเวหาข้างต้นไปหลายสิบนายเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การศึกกับกลุ่มกบฏครั้งนี้ของรัฐบาลซีเรีย คงจะไม่จบลงอย่างง่ายๆ โดยเร็วพลัน โดยเหล่านักวิเคราะห์คาดว่า การสู้รบจะยังคงดำเนินอยู่ต่อไป โดยเฉพาะการตะลุมบอนภาคพื้นดิน ที่กองทัพรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีอัสซาด อาจจะไม่เอาชัยได้โดยง่าย เมื่อชาติพันธมิตรสำคัญทั้งรัสเซีย และอิหร่าน ยังติดพันกับสงคราม โดยรัสเซีย ยังวุ่นอยู่กับสงครามยูเครน ส่วนอิหร่าน ก็ยังเผชิญหน้ากับอิสราเอล แม้ว่าเป็นการศึกผ่านตัวแทนโดยกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่มีอิหร่านหนุนหลังก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และฮูตี
พร้อมกันนี้ ก็มีรายงานด้วยว่า ทางกลุ่มกบฏ “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” ก็ได้รุกคืบ ได้การบุกโจมตีเมืองฮามา ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองอเลปโป อีกต่างหากด้วย สำหรับ สถานการณ์สู้รบล่าสุด
กล่าวถึงกลุ่มกบฏ “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่พวกกลุ่มติดอาวุธ หรือกลุ่มนักรบ หน้าใหม่ในสงครามกลางเมืองซีเรีย
โดยพวกเขาเคยอยู่ใต้ร่มธงของขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงอันกระเดื่องเลื่องชื่อของโลกมาแล้ว นั่นคือ “กลุ่มอัลกออิดะฮ์” ของ “นายอุสมะห์ บิน ลาเดน” และ “กลุ่มจาบัต อัล-นุสรา” ในซีเรีย ระหว่างที่ทำสงครามกลางเมือง เพื่อต่อต้านรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีอัสซาด ตั้งแต่ปี 2011 (พ.ศ. 2554) จากนั้นได้แยกตัวออกมา แบบแยกกันเดิน แต่รวมกันตี ในฐานะที่เป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายซุนหนี่ ที่มีเป้าหมายถล่มรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีอัสซาด ที่เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งในระหว่างที่มีการรวมกลุ่มกันใหม่นั้น ก็ยังมีรายชื่อของ “นายอาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี” ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” อีกต่างหาก ก่อนที่นายบักห์ดาดี จะไปสถาปนากลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส จนเขย่าขวัญโลกในเวลาต่อมาด้วยซ้ำ