วันที่ 3 ธ.ค.2567 เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วเมื่อปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนนพ.บุญเดิน ทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี
“จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญ ของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง ถือเป็นอุทาหรณ์ที่กมธ.บอกกับหน่วยงานว่า อย่าใช้วิธีแค่เตือนประชาชน ว่า อย่าโอน หรือไม่โลภ เพราะเท่ากับโยนความผิดให้ประชาชน ทั้งที่ข้อเท็จจริงอยู่ที่หน่วยงานราชการที่ต้องดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ และที่สำคัญควรพิจารณาเอาผิดสื่อโซเชียลมีเดียที่ปล่อยให้มีโฆษณาหลอกหลวงประชาชน โดยไม่อ้างว่าไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมายของไทย
นอกจากนั้นรัฐบาลควรยกให้เป็นวาระแห่งชาติในการปราบปรามการหลอกลวงประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ ตามที่แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา โดยเร่งรัดการออกกฎหมายเพื่อดำเนิน” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมกมธ.มีมติให้ติดตามต่อไป หากพบความผิดปกติจะตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ดีในการปล่อยปละละเลยของกระทรวงดีอี มองว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยในสมัยประชุมจะตั้งกระทู้สดเพื่อถามความคืบหน้ากรณีนพ.บุญ อีกครั้ง นอกจากนั้นหากยังปล่อยให้เว็บออนไลน์หลอกหลวงประชาชนต่อไป จะยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดีอีต่อไป