วันที่ 3 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า...
เห็น “บุญทรง” ออกจากคุก ทำให้นึกถึง “ยิ่งลักษณ์” ที่หนีคุก
ผมทราบข่าวว่าคุณบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นนักโทษคดีจำนำข้าว ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 48 ปี และได้รับการอภัยโทษและลดโทษตามลำดับ จนถูกจำคุกได้ 2 ใน 3 ของโทษที่เหลืออยู่ จึงได้รับสิทธิ์พักโทษติดกำไล em ตามระเบียบ ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
คุณบุญทรง อาจจะโชคดีกว่าผม ที่ระหว่างถูกจำคุกได้รับสิทธิ์อภัยโทษและลดโทษหลายครั้ง จนโทษเหลือน้อยลงตามลำดับ แต่สำหรับผมระหว่างถูกจำคุกไม่ได้รับสิทธิ์ใดๆเลย ปฏิบัติตามคำพิพากษาจนครบตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ การได้รับโทษของนายบุญทรง แม้ว่าจะถูกพูดถึงเรื่องจำนวนการรับโทษในแง่มุมต่างๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า นายบุญทรงปฏิบัติตามเงื่อนไข และระเบียบของกรมราชทัณฑ์ทุกประการ ไม่ได้ใช้สิทธิ์พิเศษ หรือความเป็นอภิสิทธิ์ชนแต่อย่างใด ยอมชดใช้กรรมตามคำพิพากษาจนครบ เป็นเรื่องที่น่านับถือ
เมื่อพูดถึงนายบุญทรงได้ ติดคุกจนได้รับสิทธิ์การพักโทษแล้ว ทำให้นึกถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 5 ปี ในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โครงการจำนำข้าว ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับการที่นายบุญทรงถูกจำคุก
ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่หนีคดี และยอมถูกจำคุกเหมือนนายบุญทรง ก็คงจะออกจากคุกไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมติดคุก และกำลังใช้เงื่อนไขการกลับประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุก ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า จะเกิดปาฏิหาริย์หรือการใช้อภินิหารทางกฎหมายในแง่มุมใดบ้าง
ผมขอแสดงความนับถือในการปฏิบัติตามกฎหมายของคุณบุญทรงและเพื่อนนักโทษทุกคน ที่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าในข้อเท็จจริงจะผิดหรือถูกก็ตาม แต่เมื่อถูกคำพิพากษาของศาลแล้ว ได้เคารพคำตัดสิน และยอมรับกระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
