“นายกฯอิ๊งค์” โพสต์สวนดราม่า "สามีคนใต้" ระบุ“คนคิดเชิงลบ ไม่มั่นใจ มักกดคนอื่นต่ำลง ยกตัวสูงขึ้น” ด้าน”อดีตสว.วันชัย” บอก'อิ๊งค์'ฟังทางนี้ เอฟซีแสดงความห่วงใย เร่งแก้ไขด่วนบุคลิก 3 เรื่อง ให้สมกับวุฒิภาวะผู้นำ 'เท้ง'ปัดให้ความเห็น 'สส.เพื่อไทย' ขู่ 'ภูมิใจไทย' ยุบสภาปมเกณฑ์ทำประชามติ บอกเป็นปัญหาภายในรัฐบาล ต้องไปเคลียร์กันเอง หากยุบสภาจริง “ปชน.” ก็พร้อมสู้ศึกทุกเวลา เมิน'ทักษิณ'บุกช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร'นายกอบจ.อุบลราชธานี' ตรงกันข้ามทำสนามท้องถิ่นคึกคัก 

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว บัญชีผู้ใช้ Ingshin21 เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.หลังเจอกระแสดรามาทั้งในโซเชียลและฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาว่าละเลยภาคใต้หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมหนักแต่ไม่ลงไปดูแลคนในพื้นที่ จากนั้น นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ ว่า "คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้" จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี นั้น

ล่าสุด วันเดียวกันนี้ นายกฯ ได้โพสต์ข้อความในสตอรี่ อินสตาแกรมส่วนตัว ระบุข้อความภาษาอังกฤษว่า "Your negativity is a reflection of your own reality." 100% ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทย ว่า "ความคิดเชิงลบของคุณ สะท้อนถึงความเป็นจริงของตัวคุณเอง" และยังมีการแชร์อีก 1 ข้อความภาษาอังกฤษว่า "INSECURE PEOPLE PUT OTHERS DOWN TO RAISE THEMSELVES UP." ซึ่งแปลความหมายคือ “คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น”

ด้าน นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ทนายวันชัย สอนศิริ" เรื่อง "บุคลิกของนายกฯอุ๊งอิ๊ง" โดยระบุว่า บุคลิกของนายกอุ๊งอิ๊ง  คนที่เขาเกลียดคงไม่ต้องพูดถึงหรอก อะไรๆ เขาก็ด่านายกอิ๊งค์และพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ชอบและเชียร์นี่สิ เขาก็เริ่มไม่สบายใจกับเรื่องที่น่าเป็นห่วงของนายกอิ๊งค์สัก 2-3 เรื่อง 1.บุคลิกลักษณะการแต่งเนื้อแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม รองเท้า เขาพูดกันเยอะนะ นายกผู้หญิงมันต่างกับนายกผู้ชาย ควรจะพิถีพิถันให้มันเหมาะสม ไม่ควรจะเป็นขี้ปากใครด้วยเรื่องอย่างนี้

2.ท่าทีการให้สัมภาษณ์ มันแสดงออกถึงความรู้ความสามารถและการเตรียมตัว ที่แล้วมามันบ่งบอกถึงความไม่พร้อม ไม่มีการเตรียมตัว มือไม้หน้าตามันเลิ่กลั่ก ระเกะระกะ ตื่นเต้น ประหม่า ซึ่งคนที่เป็นผู้นำไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ 3.เรื่องครอบครัวผัวเมียลูกเต้า ดูคุณทักษิณสมัยเป็นนายกสิ คุณหญิงอ้อและลูกๆ ปรากฏตัวน้อยมาก ไปเท่าที่จำเป็นในบางครั้งบางโอกาสเท่านั้น นายกอิ๊งค์กับสามีและลูกที่หอบกันไปหอบกันมาในหลายครั้งหลายโอกาส เขาวิจารณ์กันเยอะ  เรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องของครอบครัว หลังบ้านก็คือหลังบ้าน เราคือนายกของคนไทย เรื่องอย่างนี้ไม่ควรจะให้ใครมาว่าได้

ทีมงานของนายกควรรีบแก้ไขโดยด่วน อย่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้อีกต่อไป แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย มันก็บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ เพราะวุฒิภาวะของนายกคือหน้าตาของประเทศ ขนาดคนชอบคนเชียร์ยังรู้สึกได้ แล้วคนเกลียดล่ะ... มันจะไม่ขยายความขยายเรื่องกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวเลยรึ?

ที่โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาขู่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทยเรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติด้วยการยุบสภา ว่า ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากฝ่ายรัฐบาลจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน จนทำให้เกิดการยุบสภาหรือไม่นั้น คิดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องไปเจรจากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าจะมีการแตกหักถึงขั้นยุบสภาจริงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เห็นได้จากอดีตว่าหากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรม หรือกฎหมายอื่นๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่าประชาชนคนไทยก็มีความเป็นห่วง เพราะหากการเมืองขาดเสถียรภาพก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นในการลงทุน และความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ด้วย

เมื่อถามว่า หากมีการยุบสภาจริง พรรคปชน.มีความพร้อมที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคปชน.มีความพร้อมทุกสนามอยู่แล้ว และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใดไม่สามารถปฏิเสธการเลือกตั้งได้ ซึ่งพรรค ปชน.ก็มีความพร้อมทุกวินาที และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็มีนโยบายใหม่มานำเสนอให้กับประชาชนทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน. นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรายังคงยืนยันที่จะผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. เป็นประธาน ซึ่งมีการไปหารือกับประธานรัฐสภาและประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ยืนยันต่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่าสามารถจัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยประธานรัฐสภาสามารถบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยทันที และยังมีช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่มีการบรรจุระเบียบวาระที่เสนอโดยพรรค ปชน.เข้าสู่ระเบียบวาระไปแล้ว ดังนั้น ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้สมัครนายก อบจ. ใช้โลโก้คล้ายพรรคปชน.ในการหาเสียง ว่า พรรคได้สื่อสารไปค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเราส่งกี่สนาม การเปิดตัว 12 จังหวัดเพิ่มเติมที่ผ่านมา รวมถึง 4-5 จังหวัดที่อาจจะมีการประกาศในเร็วๆ นี้ ดังนั้น จังหวัดอื่นที่มีสงสัยว่าเป็นตัวแทนจากพรรคประชาชนหรือไม่ ตนอยากให้ฟังการสื่อสารจากทางพรรค

เมื่อถามว่า สนาม อบจ. สามารถนำไปเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งใหญ่ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ดูจากประวัติที่ผ่านมา การเลือกตั้งท้องถิ่นต่างจากการเลือกตั้งระดับประเทศอยู่แล้ว พรรคประชาชนยืนยันว่าทุกสนามที่เราส่งเป็นโอกาสที่ประชาชนจะใช้ในการเปลี่ยนแปลงได้ โจทย์ที่สำคัญกว่าของพรรคประชาชนคือการรณรงค์ทางความคิด ทุกสนามที่เราลงสมัครเป็นโอกาสที่เราได้สื่อสารนโยบายให้กับประชาชน และผลลัพธ์ที่ผ่านมาจากอุดรธานีหรือหลายจังหวัด เราก็เห็นว่าสัดส่วนคะแนนของพรรคประชาชนต่อจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น


เมื่อถามว่า วันที่ 11 ธ.ค.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายกอบจ.อุบลราชธานีหาเสียง พรรคจะต้องแก้เกมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสีสัน เป็นสิ่งที่ดีที่มีคนลงมาช่วยหาเสียงทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจในการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรต้องรับมือเป็นพิเศษ เป็นสิ่งที่ทำให้สนามการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความคึกคัก ส่วนคะแนนเสียงของนายทักษิณจะเรียกกระแสได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าผลคะแนนเสียงจะออกมาเป็นอย่างไร จนกว่าจะถึงวันเข้าคูหา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่กระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้เยอะ