กรณีสาวรายหนึ่งขับรถเก๋งสีดำยี่ห้อ BMW ก่อเหตุพุ่งชนจักรยานยนต์จนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บริเวณเชิงสะพานข้าทางรถไฟของถนนทางหลวงชนบทสาย จ. บนช่องทางขาออก ก่อนถึงทางแยกเชื่อมเส้นทางสายหลักถนนเอเชีย 41 เพียง 700 เมตร พื้นที่ ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร โดยผู้ก่อเหตุได้ขับรถหนีไป แต่มีการเผยเบาะแสว่าในรถเจอขวดเหล้าเปิดอยู่ หลังเกิดเหตุสาวรายดังกล่าวได้ลงจากรถมาบอกชาวบ้านให้ช่วยหาแมว ไม่สนใจร่างผู้เสียชีวิต
รายการโหนกระแส วันที่ 2 ธ.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ ติ๊ก สามีและพ่อผู้เสียชีวิต , เจี๊ยบ ป้าผู้เสียชีวิต, สุวิทย์ ลุงผู้เสียชีวิต, อ๋อย พยาน, อดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบสำนักงาน คปภ. , ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์
พ่อติ๊ก อายุเท่าไหร่?
ติ๊ก : อายุ 50 ครับ แต่งงานกับคุณเย็นจิตรนานแล้วครับ ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ลูกคนโตอายุ 16 ปี เป็นผู้ชาย คนน้องผู้หญิงอายุ 14 ปีครับ
เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ติ๊ก : วันพุธที่ 27 ผมเองต้องไปทำงานที่ชุมพร ช่วง 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนทุกวัน วันนั้นได้ออกจากบ้าน ก่อนออกจากบ้านจะพูดคุยเรื่องการไปรับลูกทุกวัน ว่าคุณแม่ต้องระวังให้ดีนะ แม่บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะรับมาตั้งแต่ลูก ป.3 ไปเรียนพิเศษในเมืองทั้งสองคน เรื่องนี้ผมก็ไม่ห่วง เพราะคุณแม่ขี่รถมา ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุสักครั้งเดียว ผมออกจากบ้านเวลา 16.30 น. ไปถึงที่ทำงาน 17.00 น.ทำงานไปเรื่อยๆ จนได้ข่าวว่าคุณแม่ออกจากบ้านประมาณ 17.10 น. หรือ 17.00 น. ภรรยาให้อาหารคุณแม่ที่นอนติดเตียงก่อน แล้วปิดประตูไปรับลูก แต่วันนั้นที่ออกก่อนเวลาเพื่อไปรับรูปถ่ายผมที่ถ่ายที่เมืองชุมพร พอไปถึงประมาณ 17.30 น. หรือ 17.40 น. พอรับรูปเสร็จ คุณแม่ก็ไปรับน้องที่เรียนพิเศษทั้งสองคนพรอมกัน ซึ่งเขาเรียนพร้อมกันเฉพาะวันพุธ คือวันนั้นครับ ปกติน้องเรียสลับกัน เป็นอะไรที่ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นวันอื่นอาจเหลือสักคน พอออกจากร้านถ่ายรูป คุณแม่ก็ถ่ายรูปให้ผมดูก่อนว่ารูปได้รับแล้วนะ คุณแม่ถึงในเมืองแล้ว ก็อุ่นใจแล้ว พอไปรับลูก วันนั้นจะเลิก 18.00 น. แต่คุณครูน่าจะสอนเลทไปนิดนึง ปล่อย 18.10 น. คุณแม่รับออกจากที่เรียนพิเศษ วิ่งไปเส้นถนนตัดใหม่ ถนนเส้นนั้นคุณแม่ใช้ประจำเกือบทุกวันที่ไปรับลูก เวลาผมไปรับ ผมก็วิ่งเส้นนั้น จนถึงสะพานที่เกิดเหตุ ผมทำงานอยู่ถึงหนึ่งทุ่ม ผมได้รับสายจากคุณครูจากโรงเรียน โทรมาแจ้งผมว่าคุณแม่กับน้องเกิดอุบัติเหตุที่สะพานตรงเส้นตัดใหม่ ผมก็ถามคุณครูว่าคุณแม่เป็นอะไรบ้าง ลูกเป็นอะไรบ้าง เพราะไม่เชื่อเลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับเขา คุณครูบอกว่าไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นอะไรบ้างหรือเปล่า คุณพ่อไปที่เกิดเหตุแล้วกัน ผมก็คิดว่าคงจะล้มนิดๆ หน่อยๆ เพราะเขาขี่รถมาเท่าไหร่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็เตรียมใจไว้นิดๆ
ไม่ทราบว่าเขามีเหตุหนักหนาสาหัสยังไง เราคว้ามอเตอร์ไซค์ไปดูลูกเมียเราก่อน?
ติ๊ก : ใช่ครับ ผมก็บิดไป ก่อนถึงที่เกิดเหตุ ผมเหลือบตาไปมอง เพราะอุบัติเหตุเกิดฝั่งตรงข้าม มีกู้ภัย มีชาวบ้านยืนอยู่เต็มไปหมด มีผ้าขาวคลุมศพไว้ครึ่งนึง ก็ใจไม่ดีแล้ว มันไม่ใช่แล้ว แต่พยายามทำใจว่าต้องไม่เป็นอย่างนั้น พอไปถึงก็เห็นลูกสาวนอนหงาย เลือดทีหัวโซก ผมก็จับหน้าอกลูก คิดว่ายังไม่เป็นไร แต่พยายามปลอบใจตัวเอง ตอนนั้นใจสลายแล้วแหละ แต่ก็ลุกขึ้นมามอง คุณแม่นอนหงายเหมือนน้อง สภาพเดียวกัน เลือดไหลทางท้ายสมอง ก็จับคุณแม่เหมือนกัน โอเค ไปก็ไป ตายแน่นอนแล้ว แต่ปลอบใจตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลุกขึ้นมา ก็เอาน่า เหลือลูกชาย ก็คิดว่าต้องเหลือสักคนแหละ ก็มีมูลนิธิมาถามว่าคุณพ่อมั้ย เราก็ถามว่าลูกชายยังโอเคใช่มั้ย แต่มูลนิธิไม่กล้าบอก (ร้องไห้) แต่ก็คิดว่าที่นอนคลุมผ้าอยู่ตีนสะพานต้องเป็นเขาแน่นอน เพราะสองศพผมเห็นแล้ว เราก็ถามว่าลูกเป็นอะไรมั้ย เขาบอกว่าคุณพ่อมาดูเองที่ตีนสะพาน ผมก็ใจแข็งถามว่าลูกไม่รอดใช่มั้ย มูลนิธิไม่กล้าพูด แต่ก็บอกว่าครับคุณพ่อ ผมก็เดินไปดู ก็รู้แล้วว่าลูกเสียชีวิต นอนหงายสภาพเดียวกัน เสื้อผ้าลูกขาดยู่ยี่เลย (ร้องไห้) ผมก็ถามต่อว่าคนขับยังอยู่มั้ย เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่อยู่แล้ว ก็ถามว่าเขาหนีไปแล้วเหรอ ไม่รับผิดชอบลูกเมียผมเลยเหรอ หนีไปเลยเหรอ
มีเสียงอะไรออกมา ที่บอกว่าเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า?
อ๋อย : มีเสียงออกมาจากรถบีเอ็มของเขาว่าสวัสดีค่ะลูกค้า ลูกค้าประสบอุบัติเหตุใช่มั้ยคะ มีอะไรให้ทางศูนย์ช่วยเหลือมั้ยคะ เขาตอบว่าไม่ต้องช่วยค่ะ
คุณเป็นคนหาแมวให้เขา?
อ๋อย : ใช่ค่ะ
วันนั้นกี่โมง คุณทำอะไรอยู่?
อ๋อย : ตอนนั้นเวลา 18.56 น. ตอนแรกโทรศัพท์อยู่ในบ้าน อยู่ๆ ได้ยินเสียงโครม แล้วก็เสียงตึงๆๆ มีฝุ่นควันตลบหน้าบ้าน ก็เลยรีบไปดู เห็นรถเก๋งสีดำ กำลังวนอยู่ในอากาศแล้วตู้มข้ามเลนไปอยู่อีกฝั่ง ก็รีบวิ่งไปดูตรงนั้น เพราะคิดว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ ขับรถเร็วธรรมดา ไม่ได้ชนใคร ไปถึงทำท่าว่าจะเคาะกระจกรถ อ้าวไม่มีกระจก มีแต่แอร์แบ็ก ก็เลยมุดหน้าเข้าไปเรียกว่ามีใครบาดเจ็บมั้ย ให้เรียกรถพยาบาลมั้ย ตอนนั้นกระจกเขาแตก ข้างในมีน้องผู้หญิงนั่งอยู่ใต้พวงมาลัยที่พื้น เหมือนค้นหาอะไรสักอย่าง ตอนนั้นหูเราได้ยินว่าสวัสดีค่ะคุณลูกค้า ประสบอุบัติเหตุใช่มั้ยคะ มีอะไรให้เราช่วยเหลือมั้ย มันเป็นเสียงในรถ แต่ไม่รู้ว่าเสียงอะไร ถามว่ามีอะไรให้ศูนย์ช่วยเหลือมั้ย มีผู้ได้รับบาดเจ็บมั้ย เขาบอกว่าไม่มี เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ทีหลังเขาก็พูดว่ากำลังหาแมวอยู่ ทางศูนย์เลยถามว่าต้องการให้เราเรียกกู้ภัยให้มั้ย เขาบอกว่าไม่ต้อง เราก็เวียนไปเปิดประตูรถอีกข้างบอกให้ลงมา เพราะหน้ารถมีน้ำมันนองเต็มถนน เรากลัวว่าเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน รถระเบิด
ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาชนอะไร?
อ๋อย : ไม่รู้ เราเห็นรถหมุนมาแล้วตีลังกาจอดตรงข้ามบ้านเราแค่นั้น จริงๆ มีแสงสว่างแต่ความที่จดจ่ออยู่กับรถตรงหน้า ตอนนั้นยังไม่มีใครมา มันก็เลยยังไม่เห็น
เขาบอกว่าให้หาแมว?
อ๋อย : ใช่ เราบอกให้เขาออกจากรถก่อนเดี๋ยวรถระเบิด มันอันตราย เขาบอกว่าหาแมวอยู่ ช่วยหาแมวให้หน่อย เราก็เปิดประตู ลากเขาออกมา เขาก็ย้ำว่าหาแมวให้หน่อย เราก็ก้มมองใต้รถ แต่ไม่มี จริงๆ เราเป็นคนเข้าไปดึงเขาออกมา เรากลัวรถระเบิด เพราะน้ำมันนองเยอะมาก พอดูใต้รถแล้วไม่มีแมว เขากำลังโทรศัพท์ด่า...ทำไมเวลากูยุ่งวุ่นวาย ไม่รับโทรศัพท์ โทรไปตั้ง 3-4 รอบแล้ว เขาบอกโทรหาแฟน จะให้แฟนมารับ มันอยู่งานศพ งานศพญาติมัน
ตอนนั้นเขาไม่พูดเลยเหรอว่าเขาชนรถมอเตอร์ไซค์?
อ๋อย : ไม่ได้พูดค่ะ เราก็บอกเขาว่าน้องมานั่งตรงนี้ก่อน ใจเย็นๆ ช่วงนั้นเขาตะโกนเรียกแมวอยู่
อาการเมามั้ย?
อ๋อย : เรื่องเมาเหล้าคิดว่าไม่ใช่ แต่ถ้าเมาอย่าอื่นเราไม่ทราบ
ทำไมคิดว่าเมาอย่างอื่น?
อ๋อย : อาการไม่ได้ปกติเหมือนคนกลัวทั่วไป มันบอกไม่ถูก ถามว่าเหม็นกลิ่นเหล้ามั้ยในรถเขา ก็ไม่ได้เหม็น ขวดเหล้ามีมั้ยตอนนั้นเราไม่เห็น เขาเมาสักอย่างนึง แต่ไม่ทราบว่าเมาอะไร น้ำเสียงเขาคือโกรธ เกรี้ยวกราดมาก เขาโกรธแมว โกรธแฟนโกรธอะไรอย่างอื่น แล้วพูดกับเราไม่ดี ตะคอก บอกให้เราเรียกแมวให้หน่อย เราก็เรียกเมี้ยวๆ เพราะเราไม่คุ้นกับชื่อแมวเขา แต่แมวไม่มา เขาก็บอกว่าพี่หาหน่อยสิ ก็ทำไงล่ะ เปิดประตูรถมุดไปในรถเขา ไปดูข้างหน้าไม่มี ไล่มาข้างหลังก็เจอพอดี แมวนั่งอยู่ตรงมุมพนักพิงหัว เขาบอกจับแมวให้หน่อย
พอเอาแมวให้เขา?
อ๋อย : ตอนแรกไม่กล้าจับ เพราะแมวตัวนิ่ม ก็เลยบอกให้เขาจับเอง เดี๋ยวแมวกัดเรา เขาก็จับแมวพาดไหล่ แล้วโทรศัพท์ไป ทำท่าว่าจะเดิน บังเอิญมีน้องคนนึงมาบอกว่า พี่ๆ ตรงนั้นตาย 3 ศพ พี่ไปดูก่อน
ตัวเขาได้ยินมั้ย?
อ๋อย : คิดว่าได้ยินนะคะ เขาก็แค่หันมามองแล้วจะเดิน แต่รีรออยู่ว่าจะทำยังไง เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสักปลายนิ้วเลย ถ้าเขาจะบอกก็บอกได้ตั้งแต่แรกที่ศูนย์ถามว่าจะให้เรียกรถพยาบาลให้มั้ย ต้องการความช่วยเหลือมั้ย เขาสามารถบอกได้ตั้งแต่ตอนนั้น แต่เขาไม่บอก เขาบอกเขาไม่เป็นอะไร แค่นั้น
หลังจากนั้นยังไงต่อ?
อ๋อย : พอมีคนมาบอกพี่ว่ามีคนตายตรงโน้น 3 ศพ ไปดูหน่อย เราก็บอกคนแถวนั้นว่าช่วยกันดูรถหน่อยนะ อย่าให้ใครดึงเมมโมรี่การ์ดไป เพราะตัวนั้นคือหลักฐานสำคัญ เขาไปก็ไม่เป็นไรไม่ต้องไปตามเขา เฝ้าแต่รถอย่างเดียว รอตร.มา เดี๋ยวพี่มา พี่ก็เลยวิ่งไปที่ร่าง 3 ท่านนั้น เจอพยาบาลกำลังทำซีพีอาร์อยู่ มีกู้ภัยชุดแรกที่มากับมอเตอร์ไซค์ ก็ช่วยกัน กู้ภัยถามว่ารู้จักมั้ย เราก็บอกว่าเราไม่รู้จัก โทรศัพท์คุณแม่แตกละเอียดดูเบอร์ใครไม่ได้ ก็ไปดูโทรศัพท์ลูกชายคือน้องโกโก้ ก็แตกอีก ก็เลยเดินกลับไปหากู้ภัยว่ามีกระเป๋าตังค์เขามั้ย ขอดูบัตรประชาชนหน่อย เขาก็หยิบบัตรประชาชนมาให้ เราก็ถ่ายรูปลงไปในกลุ่มไลน์ บังเอิญว่าลูกของเพื่อนอยู่ห้องเดียวกับน้องโกโก้พอดี เขาก็โทรหาคุณครู คุณครูก็ประสานงานกับคุณพ่อ เรารอจนคุณพ่อมา เห็นเขาแล้วสงสารมาก เราเจอเขาแล้วเขานิ่ง ในใจคงสลายหมดแล้ว ก็เลยบอกว่าถ้าคุณพ่อต้องการความช่วยเหลือบ้านพี่มีกล้อง เป็นพยานให้ได้ เอาเบอร์โทรไป หลังจากนั้นเราก็รอจนตร.มา ถามตร.ว่าได้เมมโมรี่หรือยัง เขาก็ยืนยันว่าเขาได้แล้ว แต่ตร.มาช้ามากค่ะ
ตอนผู้หญิงคนนั้นอุ้มแมวอยู่ ตอนตร.มา เขายังอยู่มั้ย?
อ๋อย : ไม่อยู่แล้วค่ะ เขาไปแล้ว เขาเดินขึ้นไปบนเนินข้างบน มีพยานคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเขาเดินข้ามไปทางฝั่งอบต. เข้าไปในซอยนั้น แล้วมีคนมารับ แต่เราไม่เห็นคนมารับค่ะ
ระยะเวลาจากรถจอด พี่วิ่งไปแล้วคุย จนมีตร.มา ใช้เวลาเท่าไหร่?
อ๋อย : ถ้าถึงตร.มา ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชม. แต่เขาไปก่อนแล้วประมาณ 15 นาที ได้แมวไม่ถึง 5 นาทีเขาก็ไปแล้ว มีคนมารับในซอยอบต. แต่เราไม่เห็น เรามารู้อีกที 22.22 น. มีตร.มาที่บ้าน เพราะเราบอกตร.ไว้ว่าถ้าต้องการพยานบอกมานะ
เขาไม่ได้บอกเลยว่าชนอะไรมายังไง ไม่พูดเลย เอาแต่แมวอย่างเดียว ช่วงเวลานั้นเอง มีกู้ภัยท่านนึงมาช่วยซีพีอาร์ให้กับลูก น้องผู้ชาย เพราะตัวภรรยากับลูกสาวเสียชีวิตเดี๋ยวนั้นเลย ส่วนน้องผู้ชายยังมีชีวิตอยู่ มีกู้ภัยท่านนึงช่วยซีพีอาร์ให้ แต่เขายื้อไม่ไหว จนกระทั่งน้องเสียชีวิต เหตุ ณ ตอนนั้นมีคนๆ นึงแต่งชุดสีดำผมม้าเดินมาถามว่าคนขับเสียชีวิตใช่มั้ย อายุประมาณ 50 ปี ร้องไห้แทบขาดใจ เขาเลยถามว่าเป็นอะไรกับทั้งสามคนนี้ ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะสามคนนี้เป็นแม่ลูกกันหมดเลย ผู้หญิงคนนั้นก็เลยเงียบแล้วก็หายตัวไป หลังจากนั้นกู้ภัยคนนี้ไปเห็นหน้าคุณแม่คนขับบีเอ็ม บอกว่าคนนี้แหละที่มาในที่เกิดเหตุ คิดว่าลูกตัวเองที่ขับบีเอ็มตาย มีการถามว่าแมวอยู่ไหน เปิดคลิปที่ไม่ได้เปิดที่ไหน สิ่งที่น่าตกใจคือคลิปที่ตัวเขาถ่ายไว้ ที่เขาขับแล้วชน พ่อได้เห็นหรือยัง?
ติ๊ก : แทบไม่ได้ดูเลยครับ มาเห็นกันที่นี่ ตอนนี้ครับ
เจี๊ยบ : ที่ทำให้เรารู้คือวันนี้ ตรงนี้เลยค่ะ
คลิปที่เขาเปิดกันอยู่ตลอด พ่อยังไม่เคยเห็นเหรอ?
ติ๊ก : ไม่เคยเห็นครับ
ไม่อยากดูหรือไม่มีเวลาดู?
ติ๊ก : ยุ่งกับการจัดงาน ไม่มีเวลาดูเลยครับ
พ่ออยากเปิดมั้ย?
ติ๊ก : อยากเปิดครับ อยากเห็นตรงนี้ครั้งแรกครับ
ผมก็ตกใจเพราะคลิปนี้สื่อทุกสื่อเขาเปิดกันหมดแล้ว แต่คุณพ่อ คุณลุง คุณป้า ไม่เคยได้ดูเพราะยุ่งกับงาน อยากดูครั้งแรกที่นี่?
ติ๊ก : มาเร็วมากเลยครับ
ขนาดเห็นแล้วยังตกใจ มันโหดร้าย ที่สำคัญที่สุดคือคนชน ผมมองว่าเขาไม่ได้มีจิตสำนึกอะไรเลย ลงจากรถปุ๊บไม่มีการบอกคนอื่นเลย จะหาแต่แมวกู ไม่สนชีวิตผู้เสียชีวิตทั้งสามคน ผมเชื่อว่าเขาไม่รู้หรอกว่าจะมีแม่คนนึง มีเด็กอีกสองคน และเชื่อว่าเขาไม่รู้เลยว่าวินาทีนั้น เขาทำให้ครอบครัวนึงชีวิตเปลี่ยนไปหมดเลย หัวใจเปลี่ยน
15 นาที เขาก็ไปเลย แบบนี้เรียกว่าหนีได้มั้ย?
ทนายตุ๋ย : จริงๆ ต้องบอกว่ารวมทั้งหนีและไม่แสดงตัวด้วย ตรงนี้ถือว่าผิดกฎหมายเหมือนกันครับ อีกข้อหานึง
เรื่องประกันภัย เรื่องนี้ท่านรองมองยังไง ตอนแรกมีการพูดว่าเมาแล้วขับ ประกันไม่จ่าย?
ติ๊ก : ผมทราบข่าวมาแบบนั้นครับ ครูดำพ่อเจ้าของรถมาคืนแรกๆ
รถบีเอ็มคันนี้ จริงๆ ชื่อเป็นของอีกคน แต่อีกคนเอามาขับ คนที่เอามาขับคือจิรัณธนิน เป็นคนยืมรถแฟนเธอมาขับ พ่อเจ้าของคือครูดำ ครูดำว่ายังไง?
ติ๊ก : ครูดำมาแสดงตัวรู้สึกจะเป็นคืนที่สอง แกมาแสดงความเสียใจ ตั้งแต่เกิดเหตุแกก็ไม่ได้เข้ามาเลย มาแสดงตัว อธิบายว่าคนขับไม่มีใบขับขี่ เมาด้วย ประกันไม่จ่ายด้วย ถ้าเราเรียกร้องไป ไม่รู้จะเรียกร้องเอาอะไรจากใคร เขาพูดมาแบบนี้ ถ้าเรียกร้องอาจได้บางส่วน ผมก็ไม่รู้กฎหมาย
ตอนแรกเขาจะเยียวยายังไง?
ติ๊ก : ไม่คุยเลยครับเรื่องเยียวยา
เขาบอกพ่อว่าให้เท่าที่มี?
ติ๊ก : อันนี้ข่าวที่ได้ยินเขามา แต่เรื่องการพูด การเยียวยา ที่มาไม่พูดเลยครับ มาแค่ถือเงินในซองมา 5 หมื่นบาท เขียนว่าช่วยค่าปลงศพให้ผม เขาบอกเป็นค่าสินน้ำใจที่ให้ผมมาก่อน เขาอยู่ในนามเจ้าของรถ ไม่ได้อยู่ในนามคนขับที่เข้ามา เขามากับพี่สาวเจ้าของรถ เจ้าของรถเองไม่ได้มา
มุมประกันเป็นไปตามที่คุณพ่อพูดมั้ย?
อดิศร : ไม่ใช่คีรับ ต้องไล่ทีละประเด็น ประเด็นแรกถ้าบอกว่าคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันขับ คำถามคือคนๆ นั้นได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันให้ขับมั้ยถ้าเขาได้รับความยินยอม คนขับคนนั้นถือเป็นผู้เอาประกัน ไล่ไปต่อนะครับ ตัวประกันตัวรถ จะมีประกันที่คุ้มครองภาคบังคับ ที่เป็นพรบ.ตามกฎหมาย คุ้มครองความรับผิดของผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด กับผู้เสียชีวิตที่ไม่ใช่คนขับ สองท่าน คือท่านละ 5 แสนโดยหลักการ ของท่านที่เป็นคนขับจริงๆ สุดท้ายก็คือดูว่าท่านที่เป็นคนขับคือภรรยาพี่เขาเป็นฝ่ายถูก เดี๋ยวก็จะมีการจ่ายให้ครบ 5 แสน มาที่ภาคสมัครใจที่เราเรียกประกันชั้น 1 รถคันนี้มีประกันภาคสมัครใจด้วย ข้อยกเว้นทั้งหลายที่ไม่ควรคุ้มครอง กรณีไม่มีใบขับขี่ กรณีเมา ต้องบอกว่าโดยหลักการประกันภัยเราจะไม่ส่งเสริมให้คนทำผิด ฉะนั้นตัวรถบีเอ็มไม่ได้รับความคุ้มครองถ้าเขาเมา ไม่มีใบขับขี่ อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้เราเคยประชุมกับภาคธุรกิจแล้ว เราคิดว่ารถยนต์สร้างความเสียหายกับบุคคลภายนอกได้ เรื่องเหล่านี้บริษัทประกันจะจ่ายให้บุคคลภายนอก กรณีแบบนี้ตัวรถยนต์ผมเช็กแล้ว ตัวรถยนต์มีประกันที่คุ้มครองผู้เสียชีวิตได้คนละ 1 ล้าน ประกันเป็นของฟอลคอนประกันภัย
ท่านรองได้คุยกับฟอลคอนหรือยัง?
อดิศร : เรียกว่าทีมได้ประสานงานเบื้องต้น ปกติประกันตัวนี้เป็นประกันความรับผิดชอบ ฉะนั้นต้องมีโดยพื้นฐาน โดยหลักการเลยมีผลคดีบอกว่าฝั่งโน้นเขาผิด อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขเรา เราพยายามทำให้ขั้นตอนมันกระชับ ถ้ามีการแจ้งข้อกล่าวหาโดยพนักงานสอบสวน คู่กรณีที่เป็นคนขับยอมรับสารภาพเลย ประกันสามารถชดใช้ให้ได้เลย รายละ 1 ล้านครับ
ฟอลคอนต้องจ่าย 3 ล้าน?
อดิศร : และตรวจสอบในฐานข้อมูล เรามีประมวลผลฐานข้อมูลที่มีการซื้อประกัน น้องสองท่านที่เสียชีวิต ลูกของคุณพ่อมีประกันรายละอีก 6 หมื่นบาท ทำผ่านโรงเรียน ต้องเรียนว่าคปภ.จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดนะครับ
พรบ.ล่ะครับ?
อดิศร : เราให้สำรองจ่ายไปแล้ว ตามหลักการสำรองจ่าย คนที่ไม่ใช่คนขับ สำรองจ่ายไปรายละ 5 แสน ภรรยาพี่จะจ่าย 3.5 หมื่นก่อน กรณีค่าเสียหายเบื้องต้น ถ้าฝั่งตรงข้ามยอมรับผิดหรือมีผลคดีปุ๊บก็จะจ่ายเต็ม 5 แสนทุกรายครับ นี่ภาคบังคับครับ ผมก็เชื่อว่าเขาผิดแน่ แต่กระบวนการต้องเรียนว่าต้องแจ้งข้อกล่าว รับสารภาพ ก็ไม่ต้องรอผลคดี ผมก็ยังเชื่อว่าคดีนี้ไม่ควรต้องรอถึงขั้นศาล เพราะสถานการณ์มันเห็นชัด เมื่อแจ้งข้อกล่าวหา ถ้าคุณไม่รับสารภาพเลยมันค่อนข้างแปลก พอเขารับสารภาพปุ๊บประกันสามารถชดใช้ให้ได้เลย
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งขออนุญาตบอกฝั่งญาติคนชน หรือคนชนเอง ที่เขาจะได้ประกันตกเกือบ 5 ล้าน บอกเลยนะ ให้เขา 100 ล้านมันก็ไม่ใช่ เพราะชีวิตเมียเขา ลูกเขา ไม่ได้ตีด้วยมูลค่าเงินได้ แต่พอเรื่องเกิดแล้ว มุมประกันเขาก็ต้องเยียวยา แต่มันก็จะมีคนเจ้าเล่ห์ มักอ้างว่าก็ได้จากประกันแล้วไง จะมาเอาอะไรจากพวกกูอีก?
อดิศร : อย่างที่เราทราบกันถ้าเราพูดว่าชีวิตคนเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ลูก ภรรยาเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ผมดูข่าวเมื่อคืนก็จะบอกว่าเสียใจแทนพี่เขา แล้วพี่เขาเข้มแข็งมากๆ เงินนี้แค่เงินเยียวยา แต่ส่วนความเยียวยาที่แท้จริง ถ้าความเสียหายมันมากกว่านั้น ก็เป็นสิ่งที่คนขับรถควรต้องเยียวยาพี่เขา
สุวิทย์ : ที่เราไปไกล่เกลี่ย ได้ฟังทนายฝั่งโน้นที่เกริ่นนำตั้งแต่ตอนแรกว่าให้เรารวบรวมเงินที่ได้จากภาครัฐ หรือพรบ. ได้เท่าไหร่เดี๋ยวเขาเติมเต็มให้เท่าที่เขาจะให้ได้ อย่างที่ท่านบอกว่าได้มา 5 ล้าน ถ้าเราไม่พอใจ เราอยากได้ 10 ล้าน หรืออะไรก็แล้วแต่ เดี๋ยวเขาจะเพิ่มส่วนนั้นได้ตามกำลังเขา อาจจะเป็นแสน สองแสน สามแสน ผมมองว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะพรบ.เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่เขาควรจะได้ เพราะเขาเป็นผู้ซื้อประกัน คนตายเป็นผู้ซื้อประกัน ส่วนเงินเยียวยาก็เป็นส่วนที่คนชนต้องรับผิดชอบ เราก็มองว่าทำไมทนายพูดอย่างนี้ ได้ 5 ล้านแล้วถ้ายังไงเขาจะเพิ่มเติมให้ตามความเหมาะสม เราฟังแล้วก็งง เพราะทั้งสามคนไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมาย
คุณป้าเป็นยังไง?
เจี๊ยบ : ที่เขาพูดมาโกหกทั้งหมด ทุกอย่าง เราไม่ได้ไปติดตามอะไร แต่มีคนส่งข้อมูลมา วันที่พ่อเข้าไปหาเราแล้วพูดว่าแม่อยู่นครฯ เดี๋ยวแม่มาจากนครฯ เขาเข้ามาในส่วนของพ่อเจ้าของรถก่อนนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว กลายเป็นว่าคุณโกหกเราทั้งหมด คุณสับขาหลอก เหมือนคลิปที่กู้ภัยบอกว่าคนที่ตามมาทีหลังเขามาเห็นวันที่ไปไหว้ศพ ก็คือเป็นแม่ นี่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าน่าจะเป็นแม่ของเขา แต่วันที่เราไปนั่งคุยกัน ไม่มีใครยอมรับเลย พูดเป็นคนอื่นหมดเลย
ไม่มีใครยอมรับว่าไปตรงจุดนั้น?
เจี๊ยบ : ไม่มีเลยค่ะ โบ้ยเป็นคนอื่นหมดเลยค่ะ ก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกัน แต่เราไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะเราไม่ได้ดูข่าว
สุวิทย์ : ดูทรงแล้วเขาไม่รับ เขาบอกรถผู้เสียชีวิตแฉลบเข้ามาหารถเขา เขายอมรับว่ามาเร็ว 207 แต่เขาไม่ยอมรับว่าทำผิดโดยการชน เขาบอกว่ารถวิ่งมาด้วยความเร็ว แล้วรถเบี่ยงเฉี่ยวเข้ามา เขาก็เสยเลย เขาพูดต่อหน้าตร. ต่อหน้าผกก. ผมถึงบอกว่าต่อไปภายภาคหน้ามันอาจพลิกได้ และอีกหลายเรื่องที่ไม่ค่อยสอดคล้อง อย่างผู้มารับ ที่มีกระแสข่าวว่าพี่ดำเป็นคนขับรถมารับและพาไปเป่า แต่เวลาน้องคนชนเขาพูด เขาบอกว่าไม่ใช่พ่อ แต่เป็นลูกคนโตครูดำ ที่มารับเขา ซึ่งไม่ใช่กระแสข่าวที่ออกมา
มีการเข้าไปที่งานศพ เป็นยังไง?
ติ๊ก : คืนที่สอง คุณพ่อเจ้าของรถไปขอโทษและแสดงความเสียใจ ถือซองไปช่วยงานศพ 5 หมื่น ถามว่าคุณพ่อจะรับมั้ย เขาถือมาช่วยเหลือตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับตรงอื่น ส่วนที่เราจะเรียกร้องกับผู้ขับขี่ ผมก็ย้ำไปว่าถ้าไม่เกี่ยวกับส่วนอื่น ผมจะรับไป เพราะถือว่าเป็นน้ำใจที่คุณพ่อเจ้าของรถมาแสดงความเสียใจจริงๆ ผมเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาแล้ว แต่จริงๆ น่าจะมาตั้งแต่คืนแรกที่จัดงานศพแล้ว ทั้งเจ้าของ ทั้งคนขับ รอเวลาอะไรครับ ความจริงใจที่คุณมา มันไม่ใช่เลย ตอนเขาขอขมาก้มกราบ หมวกปิดอยู่ ก็บอกให้เขาเปิดหน้าให้ดูหน่อย ซึ่งครอบครัวโกรธมาก แต่ผมบอกไว้ก่อนว่าอย่าใช้อารมณ์ตรงนั้น มันเป็นอุบัติเหตุ เราก็ให้อภัยเขาสักนิดหน่อย ในเมื่อเขามาขอขมา แต่ให้เปิดหมวกเปิดอะไรก็ไม่ยอมเปิดทั้งคู่เลย ทั้งคุณแม่ ทั้งน้องคนขับ ซึ่งในห้องไกล่เกลี่ย คุณแม่โกหกว่าแม่อยู่นครฯ พอลูกชนเสร็จก็โทรหาคุณแม่ ให้แฟนพี่สาวเจ้าของรถมารับ ผมถามว่าไปไหน ยังกลับไปงานที่ไกลเป็น 30 กิโล เพื่อเอากุญแจเพื่อที่จะกลับบ้าน แทนที่ขับผ่านมาแล้วจะแวะดูศพ ก็ไม่มี คุณทิ้งไปตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุแล้ว คุณไม่มีน้ำใจ โคตรใจดำ เขาใจเย็นและนิ่งมาก เขาไปรอคุณแม่ที่นั่งรถจากนครฯ มาหาลูกเพื่อพาไปแสดงตัวกับตร.
พี่ตุ๋ย มุมกฎหมายมองยังไง?
ทนายตุ๋ย : นี่ขนาดสูญเสียทั้งครอบครัวยังเข้าใจความรู้สึกคนกระทำความผิดเลย ยังรู้ว่าเป็นเรื่องประมาท ฉะนั้นคนกระทำความผิดต้องรู้สำนึกนะครับว่าสิ่งที่คุณทำ คงปฏิเสธจากพยานหลักฐานไม่ได้ แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นเขาต้องโดนข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
เขาสู้ว่าประมาทร่วม?
ทนายตุ๋ย : ยากมากครับ จากคลิปที่เปิดในรายการ มันร่วมตรงไหน ชนท้ายเขาขนาดนั้น แล้วจะอ้างว่ารถจักรยานยนต์เปลี่ยนช่องทางอะไรก็ตามแต่ ตรงนี้เป็นพยานหลักฐานที่ศาลท่านจะพิจารณาดู เขาคงสู้แบบนั้นไม่ได้ แล้วผิดอีกเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นหย่อนสมรรถภาพในการขับ การดื่มสุรา ขับรถประมาท น่าหวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย อีกเยอะแยะที่จะโดนตามพรบ.การจราจรทางบก และกรณีขับไม่แสดงตัวแล้วหลบหนี เป็นอีกเรื่องนึงที่จะโดนความผิด ฉะนั้นเงินที่ได้รับจากประกันภัยที่คุณอดิศรพูดไปเป็นเงินเยียวยาส่วนนึง ศาลท่านไม่ได้ดูจากก้อนนี้อย่างเดียว ศาลดูจากผู้กระทำผิดด้วยว่าคุณต้องเยียวยาจากตัวคุณเองด้วยว่าเท่าไหร่ ศาลท่านถึงนำมาวินิจฉัย ชีวิตคนมันประเมินค่าไม่ได้ เท่าไหร่ก็ไม่ได้ ฉะนั้นขึ้นอยู่กับเขาว่าสูญเสีย3 ชีวิต เขาต้องประเมินเอาเองนะครับว่าเท่าไหร่ น้องจะโตไปทำมาหาได้มีอาชีพต้องศึกษาอีกเท่าไหร่ ตรงนี้เป็นเรื่องตัวเลขที่ต้องประเมินและชดใช้กับผู้เสียหาย ตอนพักเบรกผมถามพ่อติ๊กว่าพ่อติ๊กอยากให้เขาได้รับโทษจำคุกมั้ย พ่อติ๊กบอกว่ามีความรู้สึกแค่เล็กน้อยเท่านั้นเอง นี่ขนาดเขาสูญเสียขนาดนี้ ดูจิตใจคนเสียหายแล้วกันครับ แล้วดูผู้กระทำความผิดครับว่าคุณควรบรรเทาเขาแค่ไหน
อดิศร : ผมพูดในมุมคนทั่วไป ฝั่งเรากำกับดูแลประกันภัย ผมเชื่อว่าประกันภัยเขารอจะจ่ายอยู่แล้ว แต่หลักการอย่างที่ผมเรียน ต้องมีผลคดี แต่เรามีวิธีการพิเศษที่จะทำให้ผู้เสียหายได้รับเงินประกันเร็วขึ้น แค่เขาได้รับการแจ้งข้อหา และเขายอมรับสารภาพ ผมว่านี่คือการเยียวยาแรกที่ควรเกิดขึ้นเร็วที่สุด ประกันจะได้จ่ายเงินก้อนแรกก่อน มันไม่ได้ช่วยอะไรเยอะหรอกครับ ในฐานะที่ผมเป็นพ่อคน ถ้าผมเป็นพี่เขา ขับรถเห็นฝั่งตรงข้าม เป็นผม รถผมล้มแล้วล่ะ ผมไปต่อไม่ไหวแล้ว ก่อนอื่นจริงๆ รับสารภาพเถอะครับ เรารอจ่าย
เหมือนเขาจะสู้?
อดิศร : ผมว่าด้วยหลักฐานหลายๆ อย่าง มันไปยากนะครับ
กรณีคลิปที่เขาเปิดให้ดู ที่คิดว่าคนขับเป็นคนถ่าย แต่จริงๆ เป็นภาพจากกล้องหน้ารถที่จะบอกตัวเลขกิโลข้างล่าง ซึ่งหนีไม่ได้ พอกล้องหน้ารถเปิดเผยมาว่าขับอยู่เท่าไหร่ มันก็ได้คำตอบเลย ภาพจากกล้องหน้ารถ ที่มีตัวเลขอยู่ข้างล่าง ว่าขับไปเวลาไหน ความเร็ว 189 กิโมเมตรต่อชม. แต่ตอนขับมาสูงสุดอยู่ที่ 207 ตอนชนไม่มีการเบรก?
อดิศร : ดูยังไง รถมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ได้แฉลบ
พ่อติ๊ก : (ปิดหน้า)
อยากเปิดให้เห็นว่าคุณจะสู้อะไรของคุณ พี่อดิศรมองยังไง?
อดิศร : ผมบอกเลยว่าเคสชนท้ายแล้วบอกว่าเขาประมาทร่วมมันไม่ง่ายนะครับ ดูยังไงคุณเป็นฝ่ายประมาทอยู่แล้ว จะบอกว่ามอเตอร์ไซค์เปลี่ยนเลนหรืออะไร คุณซัดท้ายเขาเต็มๆ เลยนะ
พี่อ๋อยใกล้ชิดกับเขาที่สุดในเวลานั้น ถามจริงๆ คำว่าสำนึกมีให้พี่ได้เห็นมั้ยคนขับ ในวันนั้น เอาจากใจชาวบ้านธรรมดาคนนึง?
อ๋อย : คิดว่าไม่มีเลย จริงๆ เขาได้เปรียบเยอะเลย พอชนปั้ง รถจอดสนิท ศูนย์โทรเข้ามาเลยว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือมั้ย น้องสามารถบอกได้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าเรียกรถพยาบาลให้หน่อย เราเพิ่งชนคนมา ต้องบอกว่าช่วยหน่อย รถพยาบาลต้องมาให้เร็วที่สุด หรือไม่ตอนพี่เข้าไปน้องควานหาแมว แต่ถ้าบอกพี่สักคำว่าชนคน ให้เรียกรถให้หน่อย พี่ก็ทำให้หนูได้ แต่ตอนนั้นพี่ไม่รู้ว่าหนูชนคน จิตสำนึกเขาน่าจะอยู่ลึกเกินไป ลึกเกินกว่าที่จะขุดถึง
เสียใจมั้ยที่ช่วยเขาออกจากรถ?
อ๋อย : เราต้องช่วย เพราะเราไม่รู้ว่าตรงนั้นมันจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนหรือเปล่า เป็นจุดแรกที่เราเห็น เราก็ต้องรีบช่วยเขาออกมาก่อน หลังจากเขาได้ตามต้องการแล้ว เราถึงเพิ่งรู้ว่ามีตรงโน้นอีก 3 ท่าน เราก็รีบไปช่วยตรงโน้นต่อ
สุวิทย์ : วันไปไกล่เกลี่ย เราสามคนต้องอ้อนวอนให้เปิดแมสก์ เปิดหมวก แต่ไม่เปิด น้องเขาบอกว่าขอเถอะ เขาอยากเห็นหน้าว่าตัวจริงเป็นยังไง หน้าตาเป็นยังไง เราติดใจค้างคาว่าจะสลับตัว ต้องอ้อนวอนนาน จนสุดท้ายผกก.บอกว่าให้ถอด เขาถึงยอมดึงแมสก์ลงมา
แทบไม่มีความจริงใจ?
สุวิทย์ : ไม่ใช่ความจริงใจอย่างเดียว ผมว่ามันขาดจิตสำนึกแล้วนะครับ
เจี๊ยบ : การขอโทษเหมือนกัน เขาพูดว่าหนูขอโทษๆ แม่จับแขนให้ยกขึ้นมา จริงๆ ต้องขอทาอย่างจริงใจมั้ยคะ แม่ต้องจับแขนยกขึ้นมาให้ขอโทษเรา เราเลยรู้สึกว่าไม่จริงใจ แข็งกระด้างมาก
สุวิทย์ : เขาตั้งใจจะไม่ยอมรับผิด เขาว่ารถแฉลบมาก็เลยชน
มุมการต่อสู้คดี พี่ตุ๋ยมองยังไง?
ทนายตุ๋ย : ถ้าเขาจะสู้ เขาคงสู้อย่างเดียว จากภาพที่เขาบอกว่ารถแฉลบ จริงๆ ไม่ได้แฉลบ เขาประมาทตั้งแต่ขับเร็ว นี่คือเรื่องแรก สองเขาเปลี่ยนช่องทางรถจากขวาจากคลิป จะบอกว่ารถจักรยานยนต์เปลี่ยนช่องหรือแฉลบ ตามหลักฐานเขาจะสู้ประมาทร่วมเพื่อให้เขาเสียค่าเสียหายให้เบาลง สิ่งที่เขาทำ เขาทำได้แค่นี้ แต่จากคลิปผมมองว่ามองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเขาประมาทฝ่ายเดียว เพราะเขาเปลี่ยนช่องทางเดินรถมาช่องทางกลางชัดเจนมาก
อยู่ในสายกับ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผู้กำกับการ สภ.เมืองชุมพร ล่าสุดคู่กรณีผู้เสียชีวิตเขาว่าอย่างไรบ้าง?
พ.ต.อ.ปัญญา : จากการนำตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหา จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อหา ยกเว้นข้อหาหลบหนี โดยอ้างว่าตกใจกลัวครับ เขาอ้างว่ากลัวญาติเพราะเขาไม่ใช่คนที่นี่ ภูมิลำเนาเขาเป็นคนนครศรีธรรมราชครับ
ปริมาณแอลกอฮอล์ตกลงเจอหรือไม่เจอยังไง?
พ.ต.อ.ปัญญา : เบื้องต้นที่เราตรวจตอนเขามามอบตัวเราตรวจสอบครั้ง เบื้องต้นพบ 29 และครั้งที่ 2 ก็ 20 ตามหลักกฎหมายถึงแม้กรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็สามารถดำเนินคดีเมาสุราในขณะขับรถได้ครับ
ยันยันว่าเขาดื่มเหล้ามา?
พ.ต.อ.ปัญญา : พบครับ เรามีการตรวจเลือดส่งไปที่รพ.ชุมพร เพื่อส่งตรวจศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ต่อไปครับ
เจอขวดเหล้าในรถมั้ย?
พ.ต.อ.ปัญญา : มีขวดเหล้าหงส์ทองเป็นแบน ซึ่งเปิดมีการดื่มแล้วครับ
มีการตรวจสารเสพติดอย่างอื่นในร่างกายด้วยมั้ย?
พ.ต.อ.ปัญญา : เดี๋ยวรอผลดีกว่าครับ ผลยังไม่ออกครับ รอจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ดีกว่า
จริงหรือเปล่า ที่เขามีการถ่ายคลิปขณะขับรถไปด้วย?
พ.ต.อ.ปัญญา : จริงครับ เป็นถ่ายรูปภาพนิ่งครับ ที่เป็นคลิปเป็นกล้องหน้ารถครับ เขาถ่ายรูปว่าเขาขับอยู่ที่ความเร็วเท่าไหร่ วันเกิดเหตุเลยครับ ส่วนถ่ายก่อนเกิดเหตุนานแค่ไหน ไม่ห่างครับ เพียงเสี้ยววินาทีก่อนชนครับ
แสดงว่าก่อนชนถ่ายมาก่อนอยู่แล้ว ขับรถมือเดียว?
พ.ต.อ.ปัญญา : มีการแจ้งข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถด้วยครับ
กังวลใจมั้ยเพราะทางฝั่งคนที่ชนหรือเจ้าของรถ พยายามต่อสู้หลายๆ มุมเหมือนกัน ตอนแรกไม่กล้ามีใครทำข่าวเรื่องนี้เลย ลักษณะเหมือนมีอิทธิพลเล็กๆ?
พ.ต.อ.ปัญญา : เรื่องนี้ไม่มีอิทธิพลใดๆ ผู้บังคับบัญชากำชับแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตร.ทำตรงไปตรงมา ส่วนผมเองก็ใช้พยานหลักฐานต่างๆ ในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และจะใช้ความรู้ความสามารถที่มี ดำเนินคดี นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลต่อไปเพื่อรับโทษตามกฎหมายครับ
ตอนนี้ได้รับประกันตัว มีการคัดค้านการประกันตัวก่อนหน้านี้มั้ย?
พ.ต.อ.ปัญญา : ตร.ต้องนำตัวไปที่ศาลเพื่อขอให้ศาลออกหมายขัง มีการคัดค้านประกันตัวไป เนื่องจากผู้ต้องหาได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.ชุมพร สองคดีรับโทษสูง สามค่าเสียหายจำนวนมาก เราเกรงว่าผู้เสียหายหลบหนี จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัวไปครับ
ทนายตุ๋ย : ตกลงผู้กระทำผิดได้ยอมรับใช่มั้ยครับ ว่าขับรถโดยประมาท
พ.ต.อ.ปัญญา : ยอมรับในชั้นสอบสวนครับ
ทนายตุ๋ย : ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมให้เจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่อขอเอกสารจัดการให้ประกันภัยชดใช้ค่าเสียหาย
พ.ต.อ.ปัญญา : บริษัทฟอลคอนได้ส่งตัวแทนมาและมีการบันทึกตกลงค่าเสียหายและมอบให้ตัวแทนบริษัทประกันไปแล้วครับ นัดหมายอีกทีวันที่ 8 ครับ
ตอนนี้กังวลใจอะไร?
เจี๊ยบ : มีหลายเรื่อง เรากลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม การเยียวยา กลัวเขาหนีด้วย มีวงในที่เขาให้เงินแค่ 5 หมื่น มีคนส่งข้อมูลมาว่าเขาบอกว่าให้เงินทำบุญแล้ว 5 หมื่น เดี๋ยวจะให้สักล้านนึง
ไม่ถามเขาหน่อยว่าตีมูลค่าลูกเมียมึงล้านนึงหรือเปล่า?
เจี๊ยบ : ตอนนั้นเขาส่งมาให้เราอ่านอย่างเดียว เราก็ไม่ได้โต้ตอบกลับไป แล้วแม่เขามาสร้างภาพโกหกเรา มันไม่ใช่ คุณมีโอกาสกอดลูกคุณ คุณผลักสื่อ แต่เราไม่มีโอกาสกอดหลาน ติ๊กเขาก็ไม่มีโอกาสกอดลูกแล้ว ลูกเขาเองถ้าไม่สำนึกจริงๆ ไม่ต้องใช้คำว่าขอโทษค่ะ ถ้าไม่สำนึกจากใจ ไม่ควรใช้คำว่าขอโทษจริงๆ
พ่อไม่เผาศพภรรยาและลูก?
ติ๊ก : ผมปรึกษากับพี่หนุ่มเรียบร้อยแล้ว พี่หนุ่มยืนยันว่าผมยังไม่ต้องเผาศพครับ
คือพ่อคุยกับผมกับทางพี่เจี๊ยบ ตั้งแต่วันพฤหัสบดี จริงๆ ตอนแรกคุณพ่อจะเผาวันจันทร์ ผมมองว่ายังไม่อยากให้เผา ผมเลยแจ้งคุณพ่อว่าขอแล้วกัน อย่าเพิ่งเผาแล้วกัน อย่างน้อยให้เก็บศพไว้ก่อน รอเรียกร้องความยุติธรรม ให้ผู้เสียชีวิตเขา รวมถึงคุณพ่อเองด้วย พ่อก็เลยเลื่อนเผา มุมความเป็นธรรม อยากให้เขาทำอะไรบ้างฝั่งคนที่เขาชน?
ติ๊ก : อยากให้เข้ามาเยียวยา และจิตใต้สำนึกให้รับผิดโดยความจริง การขอขมา ขอด้วยความเต็มใจจริงๆ เข้ามารับผิดชอบให้เต็มความสามารถ
คิดว่ามุมโน้นจะมารูปแบบไหน?
ทนายตุ๋ย : ผมเชื่อว่าในทางคดีเขาคงสู้ไม่ได้ แต่เขาคงพยายามทำให้ตัวเขาเองรอดจากการไม่ต้องถูกจำคุก แน่นอนก็อยู่ที่ดุลยพินิจศาลที่ท่านจะวินิจฉัยและพิจารณาเอง ว่าสมควรรอการลงโทษเขามั้ย ที่ผมมีประสบการณ์ต่อให้เขาเยียวยาไปกับ 3 ชีวิตแล้วคิดว่าไม่เพียงพอ คิดว่าศาลท่านคงไม่รอการจำคุก ก็ต้องเป็นหน้าที่ที่เขาต้องดิ้นรนเอาเองกับสิ่งที่เขาทำ
ประกันจ่ายแน่?
อดิศร : ยืนยันครับ จริงๆ ผมเช็กข้อมูลทั้งหมดเมื่อเช้า ประกันเขากำลังจะหมดอายุก่อนวันเกิดเหตุ เหลืออีกวันเดียว ชนวันนี้ วันรุ่งขึ้นประกันหมด ถ้าเมื่อกี้ผกก.บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย เขายอมรับผิด ผมจะรีบให้ทางผอ.จังหวัดชุมพร ติดต่อคุณพ่อและประสานงานให้เกิดการจ่ายสินไหมให้เร็วที่สุดครับ
เบ็ดเสร็จ 4.62 ล้าน จะตีเป็นมูลค่าความเสียหายเขาก็คงไม่ใช่ ต้องมากกว่านั้น เพราะเขาสูญเสียไปถึง 3 คนด้วยกัน ภรรยาดูแลคุณพ่อ คุณย่า ลูกอีกสองคนเรียนหนังสือ 16 คนนึง 14 เข้า 15 คนนึง กำลังโตขึ้นมาเป็นอนาคตครอบครัว เราไม่รู้เลยว่าจะทำงานอะไร อาจทำงานได้ดีกว่านี้ เลี้ยงดูครอบครัว คิดดูแล้วกันว่ามูลค่าเขาจะตีถึงขั้นไหน?
เจี๊ยบ : เขาอยากเป็นหมอ
จะมาตีเป็น 100 ล้านก็ไม่มีใครอยากแลกหรอก แลกไม่ได้ชีวิตมนุษย์ แต่ที่แน่ๆ ฝั่งคนชนต้องเยียวยาเขา อย่าใช้คำพูดว่ามีเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น ไม่งั้นยอมติดคุก ไม่มีประโยชน์พูดคำนี้ ได้ยินมาใช่มั้ย?
ติ๊ก : ครับ เขาบอกให้เท่าไหร่ก็ต้องเอาเท่านั้น ประมาณนั้น
เจี๊ยบ : คำว่าถ้าไม่งั้นก็ไม่ยอมติดคุก คำนี้ครูดำไม่ได้พูดน่าจะเป็นการพูดต่อๆ กัน ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับครูดำ เพราะแกก็ตกเป็นจำเลยสังคมแล้ว โซเชียลเล่นงานแกเยอะแล้ว
ดัชมิลล์ดูรายการอยู่ ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ ดัชมิลล์สนับสนุนในการเยียวยาช่วยเหลือมา 3 หมื่นบาทให้กับครอบครัว ทางเอ็ม150 ก็ช่วยเหลือเรื่องการเยียวยาอีก 5 หมื่น ก็เป็น 8 หมื่นสองเจ้าในเบื้องต้น เรื่องนี้คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร?
ทนายตุ๋ย : ไม่น่ามีปัญหาอะไร แค่หาทนายเข้าไปดูแลคดี ดูเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เจรจาแทนตัวแทนจะได้ไม่ต้องมีอารมณ์กัน แล้วดูว่าจะไปทางไหนได้บ้าง อย่างน้อยไปใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เรียกร้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้
อดิศร : ผมยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะผกก.บอกแล้วว่าทางนี้รับสารภาพ เราพร้อมจ่ายอยู่แล้ว เดี๋ยวจะทำให้มีการจ่ายเร็วที่สุด เดี๋ยวจะประสานงานคุณพ่อกับตร.เพื่อขอหลักฐานคำรับสารภาพ
เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าทำไมผมบอกว่าไม่ให้เผาศพ ขออนุญาตพูดแล้วกัน ผมได้คุยกับพี่เจี๊ยบกับพ่อตั้งแต่พฤหัสฯ ที่ผ่านมา ผมก็บอกว่าอย่าเพิ่งเผาศพเลย ให้เก็บไว้ก่อน อย่างน้อยจะได้เรียกร้องความเป็นธรรมกับทั้งสามคนที่เสียชีวิตได้ ผมเห็นหลายรายแล้ว พอเผาศพจิตสำนึกคนทำมันหายไป ผมก็อยากเห็นหน้าเห็นตาคุณแบบจะจะเหลือเกิน ในเมื่อพ่อเขาประกาศว่าศพยังไม่เผา คุณจะเอายังไง คุณจะเยียวยาเขายังไง คนอยู่ก็ต้องอยู่ จะทำยังไง ครอบครัวเขาเปลี่ยน หัวใจเขาเปลี่ยน มันเอากลับมาไม่ได้ มันยาก วันนี้คุณจะทำยังไงกับครอบครัวของเขา พี่อ๋อยจะเป็นพยานให้ถึงที่สุด?
อ๋อย : ค่ะ
เดี๋ยวจะส่งเรื่องของพี่ให้คุณกัน จอมพลังดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย?
อ๋อย : ค่ะ
วันนี้เห็นแววตาคุณพ่อแล้ว แกยิ้มสู้ เหมือนแกพยายามหลอกตัวเองว่าไม่ได้เสียใจ?
เจี๊ยบ : ตอนนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่เดี๋ยวเสร็จงานไม่มีใครอยู่ เพราะทุกคนอยู่ไกลหมดเลย เขาต้องอยู่กับแม่นอนติดเตียง เขาจะจิตตก อาจต้องให้หมอช่วย เพราะเจี๊ยบแม่เสียไปยังจิตตกเลย ของเขาสามคนนะพี่ ตอนนี้เขาก็เบลออยู่แล้วค่ะ
จะมีหน่วยงานไหนมาเปลี่ยนแปลงกฎหมายได้บ้าง ไม่งั้นจะกลายเป็นบรรทัดฐาน เพราะข่าวเกิดขึ้นแต่ละวัน มีเรื่องแบบนี้ คนต่อไปพอมีเรื่องก็ทำเลียนแบบกันไป ไม่มีมาตรฐาน?
ทนายตุ๋ย : ก็ใช้วิธีการบรรเทาเพื่อให้ศาลเมตตาจะได้ไม่ต้องติดคุก แล้วพอไม่มียึดทรัพย์ไม่ได้ก็ไม่ต้องจ่าย คนสูญเสียก็สูญเสียไป
มันเป็นแบบนี้จริงๆ อย่างน้องการ์ตูน ผู้ป่วยติดเตียง พ่อเสียชีวิต จับคนชนได้ ก็ติดคุก ออกมาศาลสั่งให้เยียวยา ก็ไม่เยียวยา ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย คนลำบากคือครอบครัว หัวใจมันเปลี่ยน มันแย่ จะเป็นแบบนี้ไปถึงอีกเมื่อไหร่ แล้วจะมีใครมาเปลี่ยนแปลงสังคมได้ มันต้องไม่ได้ ถ้าไม่จ่ายก็คุกยาวไป ไม่ต้องออกมา ไม่รู้จะเลวไปหรือเปล่านะ?
ทนายตุ๋ย : หรือไม่ต้องมีอายุความตามกฎหมาย มีทรัพย์สินเมื่อไหร่ก็ยึดไปเลย
ต้องเอาให้หนัก ไม่งั้นไม่เป็นธรรมกับผู้สูญเสีย?
ทนายตุ๋ย : ใช่ครับ