รองอธิบดีกรมฝนหลวงฯ ลุยแก้ปัญหา PM2.5  มั่นใจช่วยลดผลกระทบของมลพิษอากาศเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับประชาชน

วันที่ 2 ธ.ค.67 นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ ลงพื้นที่ติดตามแผนงานการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ ณ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ภายในท่าอากาศยานหัวหิน ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการวางแผนจัดการแก้ไขปัญหาฝุ่นละลองในอากาศ โดยเฉพาะ PM2.5 ผ่านการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ 

นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีภารกิจสำคัญในการก่อเมฆ สร้างฝนเพื่อสนับสนุนการเกษตรและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ยังมีบทบาทหน้าที่การบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ โดยเฉพาะ PM2.5 ผ่านการก่อเมฆเพื่อดูดซับฝุ่นละอองและการสเปรย์น้ำเย็นในอากาศ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองและการปฏิบัติการฝนหลวงโดยใช้เทคนิคการดัดแปรสภาพอากาศ คือ 1.การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการก่อกวน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 1 (โซเดียมคลอไรด์) ปฏิบัติการบริเวณต้นลม และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่เพื่อก่อเมฆและเพิ่มปริมาณเมฆในพื้นที่เป้าหมาย 2.การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการเลี้ยงให้อ้วน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 8 แคลเซียมออกไซด์ หรือสูตร 6 แคลเซียมคลอไรด์ ปฏิบัติการบริเวณต้นลม และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่ เพื่อเลี้ยงเมฆให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแรงดูดซับฝุ่นละออง 3.การปฏิบัติการเทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน โดยการโปรยน้ำแข็งแห้งหรือการสเปรย์น้ำเพื่อระบายฝุ่นละอองบริเวณระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน) หรือสูงกว่าระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน) เพื่อทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบน และได้มีการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 6 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดระยอง จังหวัดกาญจนบุรี  จังหวัดตาก จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแพร่ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละลองในอากาศ 

โดยในการปฏิบัติการฝนหลวงในครั้งนี้ ถือเป็นการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นมาตรการเชิงรุกที่มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ของประเทศไทยพร้อมด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ กรมฝนหลวงฯ ยังคงเป็นหน่วยงานสำคัญในการช่วยลดผลกระทบของมลพิษอากาศเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับประชาชนต่อไป

​​​​​​​