เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.67 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เรื่อง "ผมไม่เชื่อเรื่องการเมืองแบ่งภูมิภาค" ระบุว่า ผมไม่เชื่อเรื่องการเมืองแบ่งภูมิภาค

พรรคไหนเป็นของคนภาคไหน รัฐบาลนี้เป็นของคนภาคนั้น ไม่มีอยู่จริง การตั้งข้อสังเกตุเรื่องทำให้บางภาคไม่ทำให้อีกภาค จึงเป็นเรื่องที่ผมเห็นต่างมาตลอด เพราะรัฐบาลทำงานแบ่งตามภาคไม่ได้

สื่อมวลชนถามนายกฯอิ๊งค์ว่ามีคนพูดว่าละเลยภาคใต้หรือไม่ เป็นเสรีภาพในการทำหน้าที่สื่อ ส่วนที่นายกฯตอบว่ามีสามีเป็นคนใต้ ย่อมไม่ละเลยคนใต้ ถ้าฟังด้วยใจนิ่งๆก็เข้าใจได้ว่า เป็นการพูดเพื่อเชื่อมโยงให้เห็นบางมุม ระหว่างตัวเองกับคนภาคนี้ เพื่อยืนยันว่าไม่ทิ้งกัน 

เป็นส่วนหนึ่งในบทสนทนายาว ที่ให้ข้อมูลเรื่องแนวทางแก้ปัญหา และเหตุผลในการมาภาคเหนือ ไม่ใช่คำตอบเดียวในจักรวาลเพื่ออธิบายคำถามเรื่องภาคใต้

การประชุมครม.สัญจรกำหนดไว้ล่วงหน้าพักหนึ่งแล้ว เหตุผลที่ไปเชียงใหม่ เชียงราย ก็ไม่ใช่เพราะเป็นลูกสาวคนเหนือ แต่ทั้ง 2 จังหวัดเพิ่งเกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายสิบปี รัฐบาลแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ออกมาตรการเยียวยา ซึ่งผมแน่ใจว่าการโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมเร็วที่สุด เจ้าของสถิติคือรัฐบาลชุดนี้

เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติรัฐบาลก็มาจัดประชุมสัญจร ฉีดเม็ดเงินลงในพื้นที่ ปลุกบรรยากาศการท่องเที่ยว และติดตามเนื้องานอื่นๆ ถ้ามองในมิติการแก้ปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัย ครั้งนี้คือครบวงจรทั้งเฉพาะหน้า เยียวยา และฟื้นฟูหลังน้ำลด ถ้ายกเลิกการประชุมกะทันหัน คำถามจะไม่เกิดขึ้นอีกหรือว่าทิ้งคนภาคเหนือ
วั

นประชุมครม. นายกฯสั่งการให้ยกกระทรวงมหาดไทยทั้ง รมว. รมช. ปลัดกระทรวง อธิบดี ฯลฯ ลงพื้นที่แก้ปัญหา มีการรายงานผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จากภาคใต้เข้าที่ประชุม ถือได้ว่าเป็นการประชุมครม.สัญจรพร้อมกันทั้งจากตอนเหนือสุดและตอนใต้สุดของประเทศ รมว.ยุติธรรม และรมช.กลาโหม ก็ลงพื้นที่ในช่วงต่อมา

เพจพรรคเพื่อไทยสรุปการดำเนินงานของรัฐบาล ว่าตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมจนถึง 30 พ.ย. มีรูปธรรมอย่างไร และต่อจากนี้จนถึงหลังน้ำลด ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะพิสูจน์ผลงานและความตั้งใจจริงต่อพี่น้องภาคใต้ เหมือนที่มีต่อคนทุกภาค

ความเห็นผม นายกฯพูดเรื่องครอบครัวสามีเป็นคนใต้ เป็นมุมเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่จะขยี้กันจนแทบกลายเป็นวาระแห่งชาติ
ผมห่วงใยพี่น้องที่น้ำท่วม แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะจัดการจนเราผ่านมันไปด้วยกันได้ 

ขณะเดียวกันผมห่วงใยบรรยากาศแบบนี้ด้วย แบบที่โจมตีกันทุกเรื่อง เล็กใหญ่ใส่หมดถ้าไม่ใช่ฝ่ายที่ตัวนิยม ไม่รู้เราจะผ่านจุดนี้ไปด้วยกันอย่างไร