"สส.อัครนันท์" ขอบคุณ "นายกฯอิ๊งค์-อดีตนายกฯนิด" ช่วยปชช.อยู่ในที่ดินรัฐให้มีไฟฟ้า-ประปาใช้

สิ้นสุดการรอคอย! "สส.อัครนันท์" ขอบคุณ "นายกฯอิ๊งค์ -อดีตนายกฯนิด" หลังครม.เห็นชอบเมื่อ 8 ต.ค. 67 ผลักดันแก้ไขปัญหาไฟฟ้า-ประปาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

วันที่ 30 พ.ย.2567 นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์  สส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ครม.มีมติเมื่อวันนี้ 8 ต.ค.67 ในการช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และการเร่งรัดดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 67 และ 12 มี.ค.67 ที่มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เร่งพิจารณาขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เม.ย.46 ในการช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา   โดยมีพื้นที่นำร่องจังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน

มีกลุ่มเป้าหมาย ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน  และผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้ ให้ได้รับการผ่อนผัน เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้ โดยไม่ต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราวหรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน

นายอัครนันท์ กล่าวต่อว่า ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ ให้พิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการผ่อนผัน เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นรายกรณี

สำหรับประชาชนที่อยู่อาศัยในป่าประเภทต่าง ๆ ที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ให้บริการ แต่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครอง ให้ลดเงื่อนไขการขออนุญาตที่จะต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราว หรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน แต่สำหรับประชาชนที่อยู่อาศัยนอกเขตพื้นที่ให้บริการขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงานที่รับผิดชอบการให้บริการสาธารณูปโภคดังกล่าว

“ผมขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร  และรัฐบาล ตลอดจนอดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทีวีสิน  ที่ผลักดันให้มีมติ ครม.ดังกล่าวออกมา จนทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการแก้ไขปัญหา ไฟฟ้า น้ำประปา และยังได้เข้าถึงระบบสาธารณูปโภค เพราะยังมีบางพื้นที่ประชาชนรอการใช้ไฟฟ้า น้ำประปามานานหลายปี จากการลงพื้นที่ พบพี่น้องประชาชนได้ฝากตนเองไปขอบคุณนายกรัฐมนตรีและ รัฐบาล ที่ช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย”